10 หูฟัง In-ear สำหรับเทศกาลแห่งความสุข
ใกล้ถึงเทศกาลปีใหม่เข้ามาทุกทีแล้วนะครับ สำหรับปีที่หนักหนาอย่างปี 2020 นี้ การหาของขวัญให้ตัวเองและคนที่เรารักเป็นรางวัลให้กับชีวิตด้วยหูฟังคุณภาพดีซักอันนึง ก็ดูจะเป็นไอเดียที่ไม่เลวเลยทีเดียวครับ ในบทความนี้เราจึงอยากนำเสนอ 10 หูฟังอินเอียร์ที่น่าสนใจซึ่งรับรองว่าถูกใจทั้งผู้รับและผู้ให้แน่นอนครับ
1.TFZ Live 3
จุดเด่น
- หูฟัง in-ear ดีไซน์สไตล์ custom มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี
- ใช้ไดร์เวอร์แบบ Dynamic ขนาด 11.4 mm. และ Diaphragm Graphene ระดับนาโน
- มีระบบ Dual Voice Coil และ Dual Magnetic Circuit Coil
- ใช้ระบบสนามแม่เหล็กแบบ Ultra Tesla Magnetic Flux
- ใช้เทคโนโลยี Two Frequency Division
TFZ Live 3 โดดเด่นด้วยรูปร่างหน้าตาที่สวยงามสไตล์หูฟังคัสตอม พร้อมทั้ง Faceplate ลวดลายหินอ่อนที่มีให้เลือกถึง 5 สีด้วยกัน คุณภาพชิ้นงานรวมถึงคุณภาพเสียงนั้นคุ้มราคาค่าตัวมากๆครับ เพราะอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีเฉพาะของทางค่าย ให้สุ้มเสียงที่ฟังง่ายติดหูและเก็บรายละเอียดได้ดี สำหรับใครที่มองหาหูฟังที่อยู่ในงบประมาณสองพันบาท TFZ Live 3 จะเป็นหูฟังรุ่นสุดคุ้มอีกตัวนึงเลยล่ะครับ
2. Encore Dawn Limited Edition
จุดเด่น
- หูฟังแบบ In-Ear พร้อมไมค์โครโฟนที่ร่วมพัฒนากับพี่ตูน Bodyslam
- ขนาดกระทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาสะดวก
- บอดีทำจากวัสดุพลาสติกแบบ ABS และ Polycarbonate แบบใสสามารถมองเห็นภายในได้
- ไดรเวอร์ขนาด 8 มม. ให้เสียงสูงที่คมชัด กลางเสียงชัดเจน และเบสที่สมดุล
- สายเคเบิ้ลสายถักคุณภาพสูง ทำจากทองแดงแบบ OFC ค่าความบริสุทธิระดับ 5N
หูฟังอินเอียร์ราคามิตรภาพจากค่ายฝีมือคนไทย Encore ด้วยราคาที่ไม่แพงจึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการซื้อหาเป็นของขวัญให้แก่มิตรสหาย โดยเฉพาะแฟนๆของพี่ตูน Bodyslam จะต้องเป็นปลื้ม เพราะเป็นหูฟังอีกรุ่นที่พี่ลงมาร่วมพัฒนาด้วยครับ ดีไซน์โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ชิ้นงานถือว่าได้มาตราฐานคุ้มราคา และที่สำคัญคือเสียงดีไม่ใช่เล่น รับประกันความคุ้มค่าอีกหนึ่งรุ่นครับ
3. Shozy V33 Pro
จุดเด่น
- หูฟังระบบไดนามิคไดรเวอร์
- ออกแบบ Faceplate ให้มีสไตล์เหมือนแผ่นไวนิล
- ส่วนของ Housing ทำมาจาก Streamlined Stainless Steel ที่สวยงามและทนทาน
- ใช้ Acoustic filters และ dampers คุณภาพสูงเพื่อระบบอะคูสติคที่นำเข้าจากประเทศเกาหลี
- สายสัญญาณระดับสายอัพเกรด เป็นสายทองแดง OFC เคลือบเงิน
สวยงามตั้งแต่หัวแจ็คจรดตัวหูฟังสำหรับ Shozy V33 Pro ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร พร้อมทั้งมีระบบไดรเวอร์ที่ปรับแต่งมาเป็นพิเศษรวมไปถึงระบบอะคูสติคภายในบอดี้หูฟังที่ออกแบบให้ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ให้คาแรคเตอร์เสียงที่มีความชัดเจน เสียงเบสที่มีน้ำหนัก ย่าน High ที่พริ้วไหวและทอดตัวได้ไกล รวมไปถึงเสียงร้องที่อิ่มฟังดูมีน้ำมีนวล เป็นหูฟังเสียงดีที่ราคาไม่แรงอีกรุ่นครับ
4. DUNU DK-2001
จุดเด่น
- หูฟังอินเอียร์แบบไฮบริด 4 ไดรเวอร์ (3BA + 1DD)
- ไดรเวอร์ Balance Armature แบบคัสตอมจากบริษัท Knowless
- บอดี้หูฟังทำจากโลหะที่ผ่านกระบวนการกลึงด้วยความแม่นยำ
- สายสัญญาณทำจากทองแดงชุบเงินถักที่มีความบริสุทธิ์สูง และใช้เทคนิคพันสายแบบ Litz Type 1
- สามารถเปลี่ยหัวแจ็คเป็นแบบ Balanced ได้ (ต้องซื้อเพิ่ม) ด้วยระบบ Quick-Switch ที่ได้รับการจดสิทธิบัตร
หูฟังตัวแรงจากค่าย DUNU ที่ประสิทธิภาพต้องบอกว่าสมกับค่าตัวครับ ด้วยระบบไดรเวอร์แบบ Hybrid ที่ผสมไดรเวอร์เข้าไปถึง 4 ตัวได้แก่แบบ BA จำนวน 3 ตัวบวกด้วยแบบไดนามิคอีก 1 ตัวทำให้การตอบสนองของย่านความถี่ต่างๆทำได้ครบถ้วนสมบูรณ์ และที่เป็นไฮไลท์ของหูฟังรุ่นนี้ก็คงจะเป็นหัวแจ็คที่สามารถถอดเปลี่ยนขนาดได้ทันทีว่าจะเป็นแบบ Single-End หรือว่า Balanced ด้วยระบบ Quick-Switch ครับ
5. Grado GR10e
จุดเด่น
- หูฟังอินเอียร์ขนาดเล็ก สวมใส่สบาย
- ซาวด์สเตจกว้าง เสียงกลางโทนสว่าง คุณภาพเทียบเท่า On-Ear Grado รุ่นพี่
- เสียงเบสกระชับ เป็นเอกลักษณ์ของ Grado ทุกรุ่น
- ในชุดมีจุกยางและจุกโฟมให้เลือกใช้ 4 แบบ ตามลักษณะของเสียง และขนาดหูของผู้ใช้งาน
- เพิ่มส่วนขยายความถี่ทั้งในช่วงสัญาณสูงและสัญญาณต่ำ
หูฟังอินเอียร์จากค่าย Grado ซึ่งช่ำชองในเรื่องหูฟัง On-Ear ระดับ Audiophile เมื่อมาผลิตหูฟังขนาดเล็กก็ไม่ทำให้ผิดหวังแต่อย่างใด สามารถถ่ายทอดน้ำเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของ Grado ได้เป็นอย่างดี และยังออกแบบให้ตอบสนองย่านความถี่ต่ำหรือความถี่สูงมากๆได้เป็นอย่างดี ด้านดีไซน์นั้นค่อนข้างเรียบง่าย ตัวหูฟังมีขนาดเล็กและน้ำหนักที่เบา ทำให้สามารถใช้งานต่อเนื่องได้อย่างสบายๆครับ
6. DUNU DK-3001
จุดเด่น
- หูฟังแบบ Hybrid Driver ประกอบด้วย Dynamic 1 ตัวและ Balance Armature อีก 4 ตัว
- ส่วนของ Housing หรือบอดี้ทำมาจากโลหะแบบสแตนเลสสตีล
- สายสัญญาณเป็นทองแดงความบริสุทธิ์สูงแบบ OCC
- หัวแจ็คเป็นระบบ Quick Switching Connector สามารถถอดเปลี่ยนประเภทหัวแจ็คได้
- มาพร้อมจุกหูฟังคุณภาพสูงจาก SpinFit
วกกลับมาที่ค่าย DUNU กันอีกสักรอบ สำหรับ DK-3001 จะเหมาะสำหรับผู้ที่คิดว่า DK-2001 นั้นยังไม่สาแก่ใจ ต้องการสเปคระดับเรือธงอย่างแท้จริงก็จัดไปเลยกับรุ่นท็อปอย่าง DK-3001 ซึ่งสเปคทุกอย่างจะถูกอัพเกรดให้ดีขึ้นไม่ว่าจะเป็นระบบไดรเวอร์ผสมที่มีถึงข้างละ 5 ตัว ทำให้สามารถเก็บรายละเอียดต่างๆได้มากขึ้น และเพื่อให้สมกับรุ่นท็อปในชุดยังแถมจุกหูฟังอัพเกรดแบรนด์ SpinFit มาให้พร้อม รับรองว่าคุ้มค่าตัวครับ
7. FiiO FH7
จุดเด่น
- หูฟังระดับ Flagship 5 ไดรเวอร์แบบไฮบริด (1 Dynamic + 4 Balanced Armature)
- บอดี้ทำจาก Aluminum Magnesium Alloy เกรด Aerospace ขึ้นรูปชิ้นงานด้วยเครื่องจักร CNC แบบ 5 แกน
- เปลี่ยนฟิลเตอร์เสียงได้ 3 รูปแบบ ย่านเบส, ย่านกลาง, ย่านแหลม
- สายชุบเงินถัก High-Purity Litz Mono-Crystalline ถัก 152 แกน OCC เกรด Audiophile ถักรวมกัน 8 เส้น
- จุกหูฟังแบบใหม่ Spinfit หมุนได้ 360 องศา มีมาให้ 3 คู่
หูฟังระดับเรือธงคู่แข่งของ DUNU DK-3001 โดยตรง ด้วยระบบไฮบริดไดรเวอร์ที่ใช้จำนวนและประเภทไดรเวอร์เท่ากัน บวกด้วยเทคโนโลยีเฉพาะของทาง FiiO ที่พยายามปรับแต่ง FH7 ให้มีคุณภาพเสียงดีที่สุดเท่าที่หูฟังอินเอียร์จะทำได้ ไม่ว่าจะเป็นระบบครอสโอเวอร์และระบบอะคูสติคภายในที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ที่เจ๋งอีกอย่างก็คือสามารถปรับฟิลเตอร์ได้ถึง 3 แบบทำให้เป็นหูฟังที่มีความยืดหยุ่นในการใช้งานสูงมากครับ
8. Cayin YB04
จุดเด่น
- หูฟัง IEM ตัวแรกของค่าย Cayin
- ไดร์เวอร์ BA 4 ตัว ให้เสียงสมจริง ครบทุกรายละเอียด เป็นธรรมชาติ
- ควบคุมย่านเสียงต่างๆ ด้วยวงจร crossover คุณภาพสูง
- บอดี้หูฟังทำจากอลูมิเนียมแบบชิ้นเดียว เกรดเดียวกับที่ใช้ทางการบิน
- รูปทรงหูฟังได้รับการออกแบบ ทดสอบ ปรับแต่งแก้ไขมาอย่างดี สวมใส่สบายใส่ฟังเพลงได้เป็นเวลานาน
ไม่ได้เจ๋งแค่ DAP หรือเครื่องเล่นเพลงเท่านั้น แต่หูฟังอินเอียร์ตัวแรกจาก Cayin ก็มีทีเด็ดไม่แพ้หูฟังเรือธงค่ายอื่นๆเช่นกัน โดยเลือกใช้ไดรเวอร์แบบ BA จำนวน 4 ตัวจากค่าย Knowles แบ่งเป็น Tweeter และ Woofer อย่างละ 2 ตัวซึ่งจะถูกควบคุมการทำงานให้สอดประสานกันผ่านระบบ Crossover คุณภาพสูงทำให้จุดตัดความถี่มีความสมบูรณ์ ไม่ทำให้รายละเอียดเสียงใดๆต้องหายไป ส่วนวัสดุที่ใช้ทำยังเป็นอะลูมิเนียมเกรดสูงแบบเดียวกับที่ใช้ทำชิ้นส่วนเครื่องบินด้วยครับ
9. Acoustune HS1551 CU
จุดเด่น
- หูฟังระบบ Dynamic Driver ใช้ Myrinx Diaphragm ขนาด 10mm
- ตอบสนองความถี่ได้กว้างตั้งแต่ 10Hz~25KHz
- สายสัญญาณแบบ 4 core พร้อมขั้วต่อแบบ MMCX และสายหัวแจ็คขนาด 3.5mm เคลือบทอง
- บอดี้ทำจากโลหะผสมโดยใช้ Chamber ทำจากทองเหลือง และ Housing ทำจากอะลูมิเนียม
- ให้คุณภาพเสียงระดับ Hi-Res แสดงมิติและเวทีเสียงได้กว้าง สามารถแยกเลเยอร์ชิ้นดนตรีได้ดี
Acoustune เป็นอีกหนึ่งค่ายที่มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ชัดเจนในหูฟังทุกรุ่น โดยจะต่างออกไปด้วยวัสดุที่ใช้สร้างหูฟัง ด้วยระบบโลหะผสมที่ส่วนของ Chamber และ Housing จะใช้โลหะคนละชนิดกัน ทำให้เสียงของ HS1551CU มีคาแรคเตอร์ที่ชัดเจน โดยเฉพาะย่านเสียงกลางและเสียงแหลมที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยม ส่วนของเวทีเสียงก็เป็นอีกทีเด็ดเช่นกัน โดยเฉพาะการแจกแจงรายละเอียดเสียงในแต่ละเลเยอร์ที่ HS1551CU ทำได้ดีเป็นพิเศษเลยล่ะครับ
10. Grado iGe3
จุดเด่น
- ไดร์เวอร์หูฟังแบบใหม่ ปรับปรุงให้เสียงมีคุณภาพยิ่งขึ้น เสียงเคลียใสชัดเจน เสียงเบสเป็นเอกลักษณ์ของ Grado
- ไมโครโฟนสามารถปรับเพิ่ม-ลดเสียง,เปลี่ยนเพลง,รับสาย และ ใช้คำลังเสียงได้ รองรับ Siri,Google Assistance
- ในชุดมีจุกยางและจุกโฟมให้เลือกใช้ 4 แบบ ตามลักษณะของเสียง และขนาดหูของผู้ใช้งาน
- ใช้ได้กับโทรศัพท์ Android ,iPhone รวมถึง iPad ,iPod
- ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5mm แบบ TRRS
ปิดจ็อบกันด้วยหูฟังอินเอียร์อีกหนึ่งรุ่นจากค่าย Grado ครับ ถือว่าเป็นรุ่นประหยัดของทางค่ายเมื่อเทียบกับ GR10e แต่คุณภาพยังคงมาตราฐาน Grado เอาไว้ไม่มีตก ด้วยไดรเวอร์แบบ wide bandwidth ที่ตอบสนองย่านความถี่ได้กว้าง และยังตอบสนองอย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วย แถมยังมีผลพลอยได้มาถึงเวทีเสียงที่ทำได้กว้างพอสมควร นอกจากเสียงดีแล้วยังมาพร้อม in-line remote และไมค์โครโฟนทำให้ใช้งานได้ทุกสถานการณ์ครับ