2 ตัวท็อป True Wireless แห่งยุค Sony WF-1000XM4 vs B&W PI7
สองหูฟัง In-Ear True Wireless แห่งปี 2021 นี้คงเป็นการขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดระหว่าง Sony WF-1000XM4 หูฟังสุดอัจฉริยะและ B&W PI7 หูฟังที่ชูโรงด้านคุณภาพเสียงระดับ Audiophile ถ้าใครสนใจหูฟังไร้สายระดับเทพล่ะก็ ต้องมาดูการปะทะกันระหว่างทั้ง 2 รุ่นนี้ดูครับว่าฟีเตอร์ของค่ายไหนจะโดนใจคุณมากกว่ากัน
Sony WF-1000XM4 True Wireless Earphone
จุดเด่น
- หูฟัง True Wireless Hi-Res รองรับ LDAC ให้ความละเอียดที่ 24bit/96kHz
- ไดรเวอร์รุ่นใหม่ขนาด 6mm. มีปริมาตรแม่เหล็กเพิ่มขึ้น 20% ตอบสนองความถี่ต่ำได้ดีขึ้นกว่าเดิม
- ชิปประมวลผลใหม่ล่าสุด Integrated Processor V1 ให้ระบบ Adaptive Noise Cancelling ที่ดีขึ้น
- ไมค์โครโฟน Beamforming รุ่นใหม่ พร้อมระบบเซนเซอร์ Bone Conduction ทำให้เสียงชัดกว่าเดิม
- ชาร์จไร้สายด้วยเทคโนโลยี QI
- จัดเทคโนโลยีเฉพาะของ Sony มาครบๆ ทั้ง Adaptive Sound Control / Speak to Chat หรือ DSEE Extreme
Bowers & Wilkins PI7 True Wireless Earphone
จุดเด่น
- หูฟัง True Wireless Hi-Res แบบ 24Bit รองรับ Qualcomm aptX™ Adaptive
- ระบบไดรเวอร์แบบไฮบริด พร้อมแอมป์ขับที่แยกกันระหว่างไดรเวอร์
- ระบบตัดเสียงรบกวน Adaptive Noise Cancelling
- มีไมค์โครโฟนถึง 6 ตัวช่วยให้เสียงพูดของคุณชัดเจน
- ชาร์จเคสมีระบบ audio retransmission ใช้กระจายสัญญาณให้อุปกรณ์ที่ไม่มีบลูทูธได้
- ชาร์จไร้สายแบบ Fast wireless charging
ดีไซน์สุดเท่ ที่กินกันไม่ลง
เรื่องของดีไซน์คงต้องแล้วแต่ความชอบส่วนตัวของแต่ละท่านนะครับ แต่ต้องยอมรับว่าสวยทั้ง 2 รุ่นจริงๆ แถมทั้งคู่ยังมี 2 โทนสีให้เลือกเหมือนกันเป๊ะๆ นั่นคือสีดำและสีขาวครับ
ส่วนของชาร์จเคสนั้น Sony WF-1000XM4 ด้านความกะทัดรัดมากกว่าเล็กน้อยครับ ทั้งคู่รองรับการชาร์จแบบไร้สายได้และยังมีโหมดชาร์จเร็ว (Qucik Charge) มาให้ทั้งคู่อีกด้วยครับ
ด้านความทนทานก็เป็นอีกจุดที่ทั้ง 2 ค่ายจัดมาให้อย่างดี ทางฝั่ง Sony จะมาพร้อมมาตราฐาน IPX4 ส่วนของ B&W นั้นจะเป็นมาตราฐาน IP54 ทำให้ทั้งคู่สามารถใช้งานร่วมกับการออกกำลังได้ 100% ครับ
คุณภาพเสียงที่จัดเต็มทั้งคู่
ทั้ง 2 ค่ายมีการพัฒนาปรับปรุงหูฟังไร้สายมาอย่างยาวนานครับ จนได้ผลลัพธ์มาเป็นหูฟังไร้สายรุ่นใหม่ที่ใส่ใจเรื่องคุณภาพเสียงทั้งคู่ โดยจะมีสเปคที่แตกต่างกันดังนี้ครับ
- Sony WF-1000XM4
Sony ได้อัพเกรดภายในให้ WF-1000XM4 แบบใหม่หมดจดครับ โดยเปลี่ยนชิปประมวลเป็น Integrated Processor V1 ซึ่งจะทำหน้าที่ประมวลผลทั้งเรื่องเสียง, การตัดเสียงรบกวน รวมถึงการเชื่อมต่อ Bluetooth ด้วยครับ แน่นอนว่าส่งผลต่อคุณภาพเสียงที่ดีกว่ารุ่นก่อนอย่างแน่นอน
ส่วนของระบบไดรเวอร์ก็ได้ปรับปรุงใหม่เช่นเดียวกัน โดยใช้ไดรเวอร์ไดนามิคขนาด 6mm. และออกแบบให้มีปริมาตรแม่เหล็กในระบบไดรเวอร์เพิ่มขึ้นอีก 20% ส่งผลให้ประสิทธิภาพการตอบสนองย่านความถี่ต่ำทำได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมครับ
ส่วนของระบบ Bluetooth สามารถรองรับ Bluetooth 5.2 พร้อม codec ของค่ายอย่าง LDAC ทำให้ WF-1000XM4 ตอบโจทย์การฟังเพลงแบบ Hi-Res ได้เป็นอย่างดีครับ
นอกจากนั้น Sony ยังติดตั้งลูกเล่นด้านคุณภาพเสียงมาให้ WF-1000XM4 อย่างครบครัน เช่น
โหมด DSEE Extreme™ (Digital Sound Enhancement Engine) : เทคโนโลยีเฉพาะของ Sony ที่ช่วยเพิ่มคุณภาพเสียงให้กับไฟล์เพลงที่ถูกบีบอัดให้กลับมาดีขึ้นได้
โหมด 360 Reality Audio : ช่วยจำลองมิติการฟังเพลงให้เป็นแบบ 3D
- Bowers & Wilkins PI7
เรื่องคุณภาพเสียงเป็นสิ่งที่ B&W ใส่ใจมากๆครับ เพราะพวกเค้าคือค่ายลำโพงไฮเอนด์ระดับโลก ทำให้ PI7 เลือกใช้ระบบไดรเวอร์แบบ Hybrid ผสมระหว่าง Balanced Armature และไดรเวอร์ Dynamic ที่มีขนาดใหญ่ถึง 9.2mm แถมทาง B&W ยังออกแบบให้ไดรเวอร์ทั้งคู่มีแอมป์ที่แยกออกจากกันต่างหาก ทำให้สามารถตอบสนองต่อเสียงได้ดีมากๆ ส่วนของระบบไดรเวอร์ต้องยอมรับว่า PI7 ค่อนข้างจะได้เปรียบกว่าซักหน่อยล่ะครับ
ระบบ Bluetooth ของ PI7 ก็ไม่น้อยหน้าครับ สามารถรองรับ High-Resolution 24 Bit และ codec ที่ให้รายละเอียดสูงอย่างเช่น aptX, aptX Adaptive, aptX HD และ aptX LL ด้วยครับ
รองรับ Active Noise Cancelling
ระบบตัดเสียงรบกวนแบบ Active Noise Cancelling ก็เป็นจุดเด่นของหูฟังทั้ง 2 รุ่นเช่นเดียวกันครับ ที่สำคัญทั้งคู่มีความสามารถแบบ Adaptive Noise Cancelling ที่สามารถปรับเปลี่ยนการลดเสียงรบกวนตามลักษะหรือบริเวณที่เราใช้งานอยู่ได้แบบอัตโนมัติเลยล่ะครับ
ในข้อนี้คงต้องยอมรับว่า Sony WF-1000XM4 ค่อนข้างที่จะได้เปรียบกว่า B&W PI7 อยู่ซักหน่อยนะครับ ถึงแม้ว่า PI7 จะสามารถปรับแต่งการใช้งานแบบละเอียดผ่านแอพพลิเคชั่นได้ แต่ทาง Sony จะมีลูกเล่นที่มากกว่าครับ ยกตัวอย่างเช่น
โหมด Speak-to-Chat : ลูกเล่นที่ช่วยให้เราพูดคุยกับคนรอบข้างได้ทันทีโดยไม่ต้องถอดหูฟัง เพราะหูฟังจะหยุดการเล่นเพลงให้ทันทีเมื่อเราเริ่มพูดกับผู้อื่นรอบข้าง
โหมด Quick Attention : เพียงแค่เอานิ้วแตะที่ตัวหูฟังเอาไว้ตลอดเวลาที่เราต้องการ หูฟังจะปิดโหมด ANC และปล่อยให้เราได้ยินเสียงรอบข้างได้ตามปกติครับ
เรื่องแบตเตอรี่รอบนี้ต้องให้ Sonny
หัวข้อสุดท้ายนี้จำเป็นต้องยกให้ Sony WF-1000XM4 อย่างเป็นเอกฉันท์ครับ เพราะด้วยชิปรุ่นใหม่ทำให้สามารถใช้งานในโหมด ANC ได้ถึง 8 ชั่วโมงเลยทีเดียว แต่ถ้าไม่ได้ใช้ ANC ล่ะก็ฟังแบบลืมชาร์จไปเลย 12 ชั่วโมงครับ
ส่วนของ B&W PI7 ต้องยอมรับว่าเพราะระบบไดรเวอร์ของเค้าทำให้อัตราการบริโภคพลังงานนั้นสูงกว่าครับ เราสามารถใช้งาน PI7 ได้ต่อเนื่องประมาณ 4 ชั่วโมง และสามารถชาร์จผ่านเคสได้อีก 4 รอบด้วยกันครับ
ถ้าโจทย์ของคุณคือหูฟังที่สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ยาวๆล่ะก็ Sony ยังคงเป็นคำตอบที่ดีกว่าครับ
น่าจะพอเห็นความแตกต่างชัดๆของหูฟังทั้ง 2 รุ่นกันแล้วนะครับ ถ้าจะให้สรุปสั้นๆแบบได้ใจความก็คงเป็น
Sony WF-1000XM4 : เล็กกะทัดรัด ลูกเล่นเยอะ ฟังค์ชั่นเพียบ ระบบตัดเสียงรบกวนยอดเยี่ยมและแบตเตอรี่สุดอึดครับ
Bowers & Wilkins PI7 : หรูหราไฮโซ คุณภาพเสียงมาเป็นที่หนึ่งด้วยระบบไดรเวอร์แบบไฮบริดครับ
สุดท้ายก็อยู่ที่ความชอบและการใช้งานของแต่ละท่านแล้วล่ะครับ แต่เชื่อว่าหูฟังทั้ง 2 มีเอกลักษณ์ค่อนข้างชัดเจน รับรองว่าเลือกไม่ยากถ้าได้มาลองเทสใช้งานซักครั้งครับ