3 รุ่นใหม่ หูฟัง Acoustune ที่คุณต้องสนใจ

Acoustune หูฟังสุดแนวจากแดนอาทิตย์อุทัยที่กำลังมาแรงอยู่ในขณะนี้ และล่าสุดพวกเค้ายังได้เข็นหูฟังอีก 3 ลงสู่ตลาดได้แก่ HS1697Ti, HS1677SS และ HS1657CU ซึ่งนอกจากงานดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของค่ายแล้ว คุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมเป็นสิ่งที่ปฎิเสธไม่ได้สำหรับหูฟังจาก Acoustune ว่าแล้วเราก็มาดูรายละเอียดของหูฟังทั้ง 3 กันเลยดีกว่าครับ

Acoustune In-Ear Monitor Headphones

จุดเด่นของหูฟังค่าย Acoustune แน่นอนว่าต้องเป็นรูปลักษณ์หูฟัง IEM อันแสนจะเตะตา ด้วยบอดี้ที่ที่ทำจากโลหะน้ำหนักเบา ทำให้หูฟังของพวกเค้ามีความแข็งแรงไม่เป็นสองรองใคร นอกจากความสวยงามแล้วก็ยังส่งผลต่อคาแรคเตอร์เสียงในอีกทางนึงด้วยครับ

อีกจุดเด่นที่ชัดเจนก็เห็นจะเป็นเทคโนโลยีไดรเวอร์เฉพาะตัวที่ทางค่ายเรียกว่า Myrinx Diaphragm ซึ่งผ่านการพัฒนามาหลายต่อหลายรุ่น จนล่าสุดก็ได้เข้าสู่เจเนอเรชั่นที่ 4 ของทางค่ายแล้วล่ะครับ และเจ้าไดรเวอร์ Myrinx นี่เองที่เป็นส่วนนึงของคุณภาพเสียงอันยอดเยี่ยมของ Acoustune ครับ

สำหรับหูฟังรุ่นล่าสุดทั้ง 3 ของ Acoustune ก็ยังคงมาตราฐานที่ยอดเยี่ยมไว้เช่นเดิม โดยแต่ละรุ่นถึงจะใช้เทคโนโลยีร่วมกัน แต่ด้วยการดีไซน์รายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่ต่างกัน ก็ทำให้หูฟังทุกตัวมีเอกลักษณ์เฉพาะในด้านเสียงที่เป็นตัวของตัวเองครับ

Acoustune HS1697Ti 

เห็นตัวย่อ Ti หลายๆคนก็อาจจะพอเดาได้เลยว่าย่อมาจากไทเทเนียมแน่นอน ซึ่งก็ขอบอกว่า “ถูกต้องนะคร้าบ” ในรุ่น HS1697Ti ใช้ไทเทเนียม 100% ในการสร้างส่วนของ Chamber และใช้อะลูมิเนียมในส่วนของ Housing อีกทีครับ ซึ่งทาง Acoustune เรียกการออกแบบหูฟังของพวกเค้าว่า modular design ซึ่งจะทำให้ส่วนของ Chamber และ Housing นั้นแยกออกจากกัน ทำให้เรื่องของอะคูสติคเสียงนั้นดีขึ้นและยังง่ายต่อการซ่อมบำรุงอีกด้วยครับ

ในส่วนของไดรเวอร์สำหรับรุ่น HS1697Ti จะใช้เทคโนโลยีไดรเวอร์ที่เรียกว่า Myrinx Composite ซึ่งเป็นไดรเวอร์ขนาด 10 mm. แบบ Single Dynamic Driver รหัส 10D6 ที่สามารถรองรับช่วงความถี่ 10 Hz – 25 KHz โดยที่ตัว membrane ของไดรเวอร์นั้นจะทำมาจากวัสดุจำพวกโลหะที่บางมากๆครับ ซึ่งทำให้การตอบสนองต่อเสียงในทุกความถี่ทำได้อย่างว่องไวสุดๆ เมื่อบวกกับ Chamber ไทเทเนียมที่ละเอียดอ่อนในการแสดงรายละเอียดเสียง ทำให้ความแม่นยำและความเร็วในการเก็บรายละเอียดเสียงต่างๆระดับ Micro Detail เป็นจุดเด่นของหูฟังรุ่นนี้เลยล่ะครับ

ส่วนของสายสัญญาณจะเป็นสายทองแดง 99.99% ชุบด้วยเงินไขว้กันแบบ 8 แกน เป็นรุ่นใหม่ที่ใช้รหัสว่า ARC51 ให้เสียงสมจริง เป็นธรรมชาติ ลดการเกิดเสียงรบกวน และใช้ขั้วแต่แบบ “Pentaconn Ear” ที่ให้ความแน่นหนาแข็งแรงในยามที่เชื่อมต่อเข้ากับตัวหูฟัง

Acoustune HS1677SS

ขยับกันมาที่รุ่น HS1677SS กันต่อนะครับ ถึงหน้าตาจะคล้ายๆกันแต่วัสดุก็ต่างกันไปครับ โดยในรุ่นนี้จะเปลี่ยนมาใช้ Chamber ที่ทำมาจาก Stainless Steel แทน แต่ส่วนของ Housing ยังคงเป็นอะลูมิเนียมอยู่เช่นเดิมรวมไปถึงการออกแบบ modular design ด้วย ซึ่งแน่นอนว่าความแตกต่างนี้ก็ส่งผลให้คาแรคเตอร์เสียงไม่เหมือนกับรุ่น HS1697Ti ครับ

ส่วนของไดรเวอร์ก็เป็นอีกจุดที่ต่างออกไป ในรุ่น HS1677SS จะใช้ไดรเวอร์ Myrinx 4th Generation ที่ถือว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของทาง Acoustune ซึ่งทุกอย่างของไดรเวอร์รุ่นนี้จะถูกปรับปรุงใหม่หมดไม่ว่าจะเป็นตัว membrane, coil และการปรับจูนทุกอย่าง ทำให้ไดรเวอร์รุ่นนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะของเสียงเบสที่ลงได้ลึกและตอบสนองต่อเสียงเบสที่ว่องไวได้เป็นอย่างดี

ตัวไดรเวอร์นั้นมีขนาด 10 mm. แบบ Single Dynamic Driver เช่นเดียวกัน แต่เป็นรหัส 10D5 ที่รองรับย่านความถี่ตั้งแต่ 10Hz～25KHz เมื่อรวมร่างบอดี้หูฟังเข้ากับตัวไดรเวอร์แล้ว ทำให้จุดเด่นของ HS1677SS คือการตอบสนองต่อไดนามิคเสียงและซาวด์สเตจได้เป็นอย่างดี ยิ่งบวกกับ Chamber ที่ทำจาก Stainless Steel จะช่วยให้เสียงร้องจากนักร้องหญิงมีความโดดเด่นคมชัดมากเป็นพิเศษอีกด้วยครับ

ในส่วนของสายสัญญาณจะเหมือนกับรุ่น HS1697Ti ทุกประการครับผม

Acoustune HS1657CU

 

ปิดท้ายด้วยรุ่น HS1657CU กันครับ ซึ่งในรุ่นนี้ก็ยังคงรูปแบบของ modular design เอาไว้เช่นเดิม แต่เปลี่ยนวัสดุที่ใช้สร้าง Chamber มาเป็น Brass หรือ ทองเหลืองแทนครับ ส่วนของ Housing ยังคงเป็นอะลูมิเนียมเช่นเดิม ซึ่งจุดเด่นของทองเหลืองนั้นทำให้ HS1657CU สามารถตอบสนองต่อย่านความถี่ต่ำได้ลึกมากยิ่งขึ้นไปอีกครับ สำหรับใครที่ชอบหูฟังที่ให้เบสแน่นๆ ให้ความรู้สึกของ Sub Bass เยอะๆ รุ่นนี้ตอบโจทย์แน่นอนครับ

ส่วนของไดรเวอร์จะเหมือนกับรุ่น HS1677SS ทุกประการนั่นคือไดรเวอร์ Myrinx 4th Generation ขนาด 10 mm. แบบ Single Dynamic Driver รหัส 10D5 อย่างที่บอกว่าไดรเวอร์รุ่นล่าสุดของ Acoustune นั้นออกแบบมาเพื่อการตอบสนองต่อเสียงเบสให้ดีอยู่แล้ว ฉะนั้นแล้วเมื่อไดรเวอร์ตัวนี้มารวมร่างเข้ากับบอดี้ที่ผสมผสานระหว่างทองเหลืองและอะลูมิเนียมก็ยิ่งทำให้หูฟังรุ่นนี้จะกลายเป็นขวัญใจคนชอบเบสแน่นอนครับ

การออกแบบหูฟังของ Acoustune ถือว่าใส่ใจในเอกลักษณ์และก็รายละเอียดมากๆนะครับ อย่างในส่วนของ modular design ที่มีการแยกส่วนของ Chamber และ Housing ออกจากกันนั้น แต่ในการเชื่อมต่อกันของทั้ง 2 ส่วนยังมีระบบ Complex Damper Rod ที่คอยประสานทั้งคู่เข้าด้วยกัน นอกจากความแข็งแรงแล้วก็ยังช่วยลดเรื่องเรโซแนนซ์ลงได้อีกทางครับ

ส่วนของสายสัญญาณสำหรับ HS1657CU ก็ยังคงเหมือนกับทั้ง 2 รุ่นก่อนหน้าทุกประการครับผม

อุปกรณ์ครบครัน

หูฟังทุกรุ่นของ Acoustune มาพร้อมอุปกรณ์ที่ครบถ้วนครับ ไม่ว่าจะเป็น Hard Case หรือว่า Soft Case และยังมีสายรัดหูฟังรวมถึงอุปกรณ์ทำความสะอาดให้ด้วย นอกจากนั้นยังมีจุกยางหูฟังที่จัดมาให้ครบๆทุกไซส์ ทุกขนาด และทุกประเภทครับผม ไม่ต้องปวดหัวไปวิ่งหาซื้อจุกยางหูฟังเพิ่มครับ

หูฟัง Acoustune Made in Japan พร้อมให้ทุกท่านเข้ามาทดสอบพลังเสียงด้วยตัวเองทุกรุ่นครับ รับประกันได้ว่าหูฟังจากญี่ปุ่นไม่เคยทำให้ใครผิดหวังอยู่แล้วครับ