3 คัสต้อมตัวท็อปจาก JH AUDIO, FitEar และ Ultimate Ears

สรุปรายละเอียดของหูฟัง Custom In-Ear Monitor ตัวท็อปจากสามค่ายดังมาไว้ให้ในที่เดียว นั่นก็คือ JH Audio Sharona, FitEar DC Ti และ Ultimate Ears Premier Pro ถ้าอยากได้หูฟังตัวจบแต่ยังนึกไม่ออกว่าจะเลือกค่ายไหนดี งานนี้เราบรีฟรายละเอียดแบบรวดเดียวจบมาให้ครับ

JH Audio Sharona

HIGHLIGHT

• ไดรเวอร์ Balanced Armature 16 ตัวต่อข้าง
• ระบบ RAU Quad Super tweeter แบบใหม่ล่าสุด
• เทคโนโลยีเฉพาะของ JH Audio อย่าง Freqphase Time, Phase Waveguide และ Acoustic Sound Chamber

Sharona เรือธงรุ่นปัจจุบันของ JH Audio ค่ายดังที่ศิลปินระดับโลกมากมายเลือกใช้ ถ้าคุณเป็นสาย Pro Audio นี่คือหนึ่งในหูฟังที่คุณมองหาครับ

Sharona มีไฮไลท์สำคัญอยู่ที่ระบบไดรเวอร์ที่ใช้ไดรเวอร์แบบ Balanced Armature จำนวนถึง 16 ตัวต่อหูฟังหนึ่งข้าง ซึ่งจะแบ่งไดรเวอร์เป็นกลุ่มละ 4 ตัวคุมย่านความถี่ 4 ช่วงคือ Low / Mid Low / Mid High และ SuperTweeter สามารถตอบสนองย่านความถี่ได้กว้างถึง 10 Hz – 25 kHz  และส่วนของทวีตเตอร์ยังใช้ RAU Quad Supertweeter จาก Knowles ทำให้ High Frequency ของเค้าตอบสนองได้ดีเป็นพิเศษ

ยังมีเทคโนโลยีเฉพาะค่ายอัดแน่นอยู่ใน Sharona อีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นระบบครอสโอเวอร์ True 4-way Integrated Crossover เทคโนโลยี Freqphase Time & Phase Waveguide และ Acoustic Sound Chamber ที่เป็นเทคนิคการขึ้นรูปหูฟังด้วยพิมพ์ 3 มิติแบบพิเศษ ทำให้ JH Audio Sharona เป็นหูฟังมอนิเตอร์สำหรับมือโปรอย่างแท้จริง

FitEar DC Ti

HIGHLIGHT

• บอดี้ทำจากไทเทเนี่ยมขึ้นรูปด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติ
• ระบบไดรเวอร์แบบ Hybrid ผสมกันระหว่างไดรเวอร์ Electrostatic และ Dynamic
• ใช้ไดรเวอร์ไดนามิคแบบ Full Range ถึง 2 ตัวที่ผลิตโดยบริษัท Fostex

FitEar ค่ายดังจากประเทศญี่ปุ่นที่มีแฟนคลับอยู่ทั่วโลกรวมถึงไทยแลนด์อย่างพวกเราด้วย คุณภาพหูฟังของเค้าถทอว่าเป็นหนึ่งในตองอู ได้ชื่อว่าเป็นหูฟังมอนิเตอร์ที่มีสุ้มเสียงน่าฟังมากๆอีกค่ายนึง

เตะตาตั้งแรกเห็นด้วยบอดี้หูฟังที่ทำมาจากไทเทเนียม ซึ่งค่ายหูฟัง Custom ส่วนใหญ่ไม่มีใครเลือกวัสดุชนิดนี้มาทำ เพราะมันขึ้นรูปยากไม่ใช่เล่น นอกจากเรื่องวัสดุแล้วรูปร่างของ FitEar DC Ti ยังเป็นดีไซน์แบบ Short Leg Shell ที่ส่งผลต่อการควบคุมแรงดันอากาศภายในช่องหูของเราด้วย

ระบบไดรเวอร์ของ FitEar DC Ti เป็นแบบ Hybrid ที่ผสมระหว่างไดรเวอร์ Dynamic ขนาด 9mm. จำนวน 2 ตัวที่ผลิตโดย Fostex ทำหน้าที่ควบคุมย่าน Low End ไปจนถึง Mid Range ส่วนของความถี่สูงจะดูแลโดยไดรเวอร์ Elctrostatic ทำให้คาแรคเตอร์เสียงของเค้ามี Low ที่หนักแน่นมั่นคงและยังได้ High ที่คมชัดเต็มไปด้วยรายละเอียดครับ

Ultimate Ears Premier Pro

HIGHLIGHT

• หูฟัง CIEM ที่ใช้ไดรเวอร์ Balanced Armatures จำนวนมากถึง 21 ตัว
• ระบบ True Tone Plus ให้ฮาร์โมนิคและโอเวอร์โทนที่สมบูรณ์แบบ
• Crossover แบบ Passive 5 ทาง รองรับความถี่ 5Hz – 40kHz

ปิดท้ายกันกับอีกหนึ่งค่าย Custom ชื่อดังระดับโลกอย่าง Ultimate Ears ซึ่งชื่อชั้นของเค้าก็สูสีคู่คี่กับ JH Audio เลยทีเดียว เป็นหูฟังที่มีศิลปิน นักดนตรีมากมายให้การสนับสนุนครับ

สำหรับ Ultimate Ears Premier Pro จะเป็นรุ่นเรือธงที่อลังการงานสร้างด้วยไดรเวอร์ Balanced Armature ที่มากถึง 21 ตัวต่อหนึ่งข้าง จะมีใครให้มากกว่านี้มั้ยเนี่ย โดยเค้าจะแบ่งซอยย่านความถี่ถึง 5 ช่วงด้วยกัน ได้แก่ Low / Low-Mid / Mid / Mid-High และ High ในสามย่านความถี่แรกจะมีไดรเวอร์ทำงานอยู่ถึง 8 ตัว ส่วน Mid และ High ใช้ไดรเวอร์อย่างละ 4 ตัว นอกจากนั้นก็ยังมี True Tone ไดรเวอร์แยกออกมาต่างหากอีก 1 ตัวครับ

 Premier Pro สามารถตอบสนองย่านความถี่ได้กว้างตั้งแต่ 5Hz – 40kHz แถมยังมีเทคโนโลยีเฉพาะของค่ายที่ชื่อว่า True Tone Plus ที่สามารถถ่ายทอดฮาร์โมนิคและโอเวอร์โทนของเสียงเครื่องดนตรีออกมาได้อย่างสมบูรณ์หมดจดครับ ใครอยากสัมผัสประสบการณ์คุณภาพเสียงมาตราฐาน Pro Audio ก็ไม่ควรพลาด Ultimate Ears Premier Pro ครับ

---

Flagship Custom In-Ear Monitor

ไม่น่าเลือกยากครับสำหรับ 3 รุ่นนี้ จุดเด่นแต่ละตัวค่อนข้างชัดเจนและไม่สามารถเอามาเทียบกันได้โดยตรง เอาเป็นว่าถ้าถูกโฉลกรุ่นไหน หรือสเปครุ่นไหนที่โดนใจ แวะมาลองเสียงตัวเป็นๆ เสร็จแล้วก็หล่อแบบพิมพ์หูซะให้เรียบร้อย รับรองว่าไม่นานได้หูฟัง CIEM ตัวจบกลับไปนอนกอดแน่นอนครับ