เพราะเสียงดี มีผลกับพลังใจ 5 True Wireless เสียงดี ออกกำลังกายได้สบาย
หมดยุคกันแล้วนะครับ สำหรับแนวคิดที่ว่าหูฟังสำหรับออกกำลังจะเสียงดีไม่ได้ เพราะเดี๋ยวนี้หูฟัง True Wireless รุ่นใหม่ๆเสียงดีกว่าเดิมมากๆ ช่วยให้ความบันเทิงระหว่างออกกำลังได้ดียิ่งขึ้น แถมยังมีมาตราฐานความทนทานบวกกับฟังค์ชั่นที่เอื้อต่อการออกกำลังด้วย ว่าแล้วเราก็ลองไปชม 5 หูฟัง TWS ที่คุณภาพเสียงยอดเยี่ยม แถมยังใช้ออกกำลังได้สบายๆอีกด้วยครับ
1. Sony WF-1000XM4
HIGHLIGH FOR WORKOUT
- ให้คุณภาพเสียงยอดเยี่ยมด้วย LDAC Bluetooth Codec
- ระบบตัดเสียงรบกวนที่ยอดเยี่ยม ช่วยให้คุณมีสมาธิกับการออกกำลังในฟิตเนสมากขึ้น
- ระบบ Adaptive Noise Cancelling ช่วยให้คุณได้ยินเสียงรอบข้าง เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง
- ลดเสียงรบกวนจากลมได้
- มาตราฐานความทนทานระดับ IPX4
หูฟัง True Wireless ระบบ Adaptive Noise Cancelling อันดับหนึ่งของวงการในเวลานี้ เรื่องคุณภาพเสียงยอดเยี่ยมและฟังสนุกตามสไตล์โซนี่ ตั้งแต่เปิดตัวมาก็ได้รับคำชมกันไปอย่างล้นหลาม นอกจากเรื่องเสียงแล้วฟังค์ชั่นที่จัดเต็มมาให้ยังเหมาะกับการใช้งานในทุกกิจกรรมอีกด้วยครับ
WF-1000XM4 มีหลายฟังค์ชั่นที่เรานำไปประยุกต์ใช้กับการออกกำลังได้มากมายครับ โดยเฉพาะจุดเด่นของเค้าจากระบบ Adaptive Noise Cancelling ซึ่งจะปรับเปลี่ยนลักษณะการตัดเสียงรบกวนได้หลายระดับ
ในกรณีที่เราอยู่ในพื้นที่ออกกำลังที่ปลอดภัยอย่างเช่นในฟิตเนส ระบบจะสามารถตัดเสียงรบกวนได้แบบ 100% ช่วยให้เรามีสมาธิและรู้สึกเป็นส่วนตัวมากขึ้น แต่ถ้าคุณเป็นสายออกกำลังกลางแจ้งระบบจะสามารถให้คุณได้ยินเสียงรอบข้างได้ ช่วยป้องกันเราจากอุบัติเหตุที่ไม่พึงประสงค์ได้ ส่วนทางด้านความทนทานยังอยู่ในมาตราฐาน IPX4 ถือว่าตอบโจทย์การออกกำลังเต็มที่ เหงื่อไคลหรือแม้แต่ละอองฝนไม่อาจจะกล้ำกรายหูฟังของเราได้แน่นอนครับ
2. Bowers & Wilkins PI5
HIGHLIGH FOR WORKOUT
- คุณภาพเสียงยอดเยี่ยมจากไดรเวอร์ไดนามิคขนาด 9.2mm พร้อม aptX Bluetooth Codec
- ระบบตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancellation
- มาตราฐานความทนทานระดับ IP54
หูฟัง TWS รุ่นรองท็อปจากค่าย B&W ที่เรื่องเสียงไม่เป็นรองค่ายอื่นแต่อย่างใดครับ ยิ่งถ้าคุณชอบฟังเพลง Pop เพลง Rock หรือว่า Hip Hop ระหว่างออกกำลังล่ะก็ PI5 เป็นหูฟังที่เกิดมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะครับ ไม่ใช่แค่ฟังสนุกอย่างเดียว แต่นำ้เสียงและรายละเอียดจัดว่าเยี่ยมไปเลยครับ
นอกจากเรื่องเสียงที่ดีแล้ว ทาง B&W ก็ยังคงติดตั้งระบบ Active Noise Cancellation มาให้ด้วย สามารถลดเสียงรบกวนรอบข้างได้เป็นอย่างดี แต่ PI5 จะไม่มีระบบ Adaptive มาให้ฉะนั้นการใช้งานออกกำลังกลางแจ้งอาจจะต้องระวังซักหน่อยนะครับ เพราะเราแทบจะไม่ได้ยินเสียงรอบตัวเลย แต่การใช้งานในยิมหรือฟิตเนสนั้นหายห่วงครับ
ส่วนเรื่องของความแข็งแรงทนทานก็ไม่น้อยหน้าครับ เจ้าตัวนั้นได้มาตราฐาน IP54 มาทำให้ทนทานต่อฝุ่นและละอองน้ำจากทุกทิศทาง จะเหงื่อหรือจะฝนก็จัดมาเถอะ รับรองว่าบ่ยั่นครับ
3. Bowers & Wilkins PI7
HIGHLIGH FOR WORKOUT
- คุณภาพเสียงอันเป็นเลิศจากไดรเวอร์ระบบ Hybrid ที่มีการแยกชุดแอมป์สำหรับไดรเวอร์ทั้ง 2 ตัว
- ใช้ Bluetooth 5.0 พร้อม codec คุณภาพเยี่ยมอย่าง aptX HD
- ระบบตัดเสียงรบกวนแบบ Adaptive Noise Cancelling
- มาตราฐานความทนทานระดับ IP54
ต่อกันที่ตัวท็อป TWS จาก B&W กันเลยครับ สำหรับใครที่อยากเสียงดีให้สุดทางก็สามารถอัพเกรดจากรุ่น PI5 ขึ้นมาเป็น PI7 ได้เลยครับ เพราะ PI7 จะสามารถถ่ายทอดรายละเอียดเสียงได้ดียิ่งขึ้นด้วยการผสมไดรเวอร์ไดนามิคเข้ากับไดรเวอร์ BA ที่เรียกว่าระบบไฮบริดนั่นเอง แถมยังมีการแยกชุดแอมป์ของไดรเวอร์ทั้ง 2 อีกต่างหาก เรียกว่าทาง B&W บรรจงปั้นเสียงของ PI7 ให้ดีถึงขีดสุดจริงๆ
นอกจากเสียงดีแล้วระบบตัดเสียงรบกวนของเค้าก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน เพราะเป็นระบบ Adaptive เช่นเดียวกับ Sony WF-1000XM4 ทำให้ใช้งานได้ดีทั้งการออกกำลังทั้งแบบ Indoor และ Outdoor ตัวระบบ ANC สามารถปรับระดับการลดเสียงรบกวนให้เราได้โดยอัตโนมัติครับ
ส่วนเรื่องความทนทานทำได้ดีเท่ากับรุ่นน้องอย่าง PI5 ครับ สามารถฟังเพลงพร้อมออกกำลังได้เต็มสูบโดยไม่ต้องกังวลว่าหูฟังจะเสียหายครับ
4. EARIN A-3
HIGHLIGH FOR WORKOUT
- ฟังเพลงสนุกด้วยเบสลูกโต พร้อมซาวด์สเตจกว้างๆจากไดรเวอร์ไดนามิคขนาดใหญ่
- ขนาดเล็กและน้ำหนักเบาที่สุดในโลก ช่วยให้ใส่สบาย
- มีระบบ MONO Mode สามารถใช้งานข้างเดียวได้
- มาตราฐานความทนทานระดับ IP54
EARIN ค่ายที่เคยสร้างความสั่นสะเทือนให้แก่วงการหูฟัง TWS ตั้งแต่ปี 2015 กลับมาปี 2021 ก็ยังมีเซอร์ไพรซ์กับหูฟังรุ่นใหม่ที่เสียงดีกว่าเก่า ด้วยไดรเวอร์ไดนามิคขนาดใหญ่ถึง 14.3mm. ให้การตอบสนองเสียงเบสที่ยอดเยี่ยม ส่วนเรื่องซาวด์สเตจก็เป็นอีกจุดเด่นของพี่เค้า เพราะทำได้กว้างและสามารถแยกเลเยอร์เครื่องดนตรีต่างๆได้เป็นอย่างดี
อีกจุดเด่นของ EARIN A-3 ก็คือขนาดที่เล็กและน้ำหนักที่ถือว่าครองแชมป์หูฟัง TWS ที่เยาที่สุดในโลก ซึ่งส่งผลให้สามารถใช้งานออกกำลังไดด้เป็นอย่างดี เพราะช่วยให้เรารู้สีกสบายยามสวมใส่ครับ
สำหรับ A-3 นั้นไม่มีระบบตัดเสียงรบกวนมาให้ด้วย แต่ก็สามารถชดเชยด้วยระบบ MONO Mode ที่ทำให้เราใช้งานหูฟังข้างเดียวได้ ถ้าจำเป็นต้องออกกำลังกลางแจ้งการใส่หูฟังข้างเดียวบางครั้งก็ช่วยเรื่องความปลอดภัยได้ดีกว่าครับ
ส่วนเรื่องความทนทานยังมาพร้อมมาตราฐาน IP52 อาจจะไม่ได้แกร่งสุดๆ แต่ลำพังแค่เหงื่อจากการออกกำลัง EARIN A-3 ยังเอาอยู่ครับ
5. Klipsch T5 II McLaren ANC
HIGHLIGH FOR WORKOUT
- ให้คุณภาพเสียงยอดเยี่ยมด้วยเทคโนโลยี Dirac® HD Sound
- Transparency Mode ช่วยให้ได้ยินเสียงรอบข้าง
- มี Ear fins ทำให้สวมใส่ได้แน่นหนา กันหลุดเมื่อออกกำลังกาย
- เทคโนโลยี Moisture Removal System ระบบดูดความชื้นในเคส
- มาตราฐานความทนทานระดับ IP67
สำหรับ Klipsch T5 II McLaren ANC ต้องบอกว่าเป็นหูฟังสำหรับออกกำลังที่ออกแบบมาให้เสียงดีเป็นพิเศษครับ แถมยังสวยงามเป็นพิเศษอีกต่อนึงจากความเป็น McLaren Edition เรื่องเสียงนั้นโดดเด่นด้วยไดรเวอร์ Dynamic ขนาด 5 มิลลิเมตร แบบ Moving Coil บวกด้วยเทคโนโลยี Dirac® HD Sound ซึ่งเป็นการประมวลผลแบบดิจิตอลที่ทำให้คุณภาพเสียงดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะความชัดเจนของย่านเสียงกลางและย่านความถี่ต่ำที่เที่ยงตรงครับ
ถึงตัวหูฟังจะไม่มีระบบตัดเสียงรบกวนแบบ Active มาให้ แต่ตัวหูฟังและจุกยางซิลิโคนก็ออกแบบมาได้ดีจนช่วยลดเสียงรอบๆข้างเราลงไปได้เยอะมากครับ นอกจากนั้นทาง Klipsch ก็ยังมีโหมด Transparency มาด้วย ทำให้เราได้ยินเสียงรอบข้างขณะใช้งานได้ ทำให้ T5 II McLaren เป็นหูฟังที่ใช้ออกกำลังได้ในหลายสถานะการณ์ครับ
ตัวหูฟังยังมี Ear fins ที่ช่วยให้สวมใส่ได้แน่นหนา รับรองว่าออกกำลังหนักแค่ไหนก็ไม่มีหลุดครับ
ด้านความทนทานจัดว่าสุดยอดด้วยมาตราฐาน IP67 ทั้งฝุ่นทั้งน้ำหมดสิทธิ์ทำอันตราย เพราะแช่น้ำได้ลึกถึง 1 เมตร เรียกว่าแกร่งเป็นอันดับ 1 ใน 5 รุ่นของเซ็ทนี้เลยทีเดียวครับ
ถ้าคุณซีเรียสเรื่องคุณภาพเสียงพอๆกับเรื่องของสุขภาพล่ะก็ หูฟัง True Wireless ทั้ง 5 รุ่นสามารถตอบโจทย์ทั้ง 2 ข้อได้ภายในเวลาเดียวกันแน่นอนครับ