5 เซ็ตติ้งเสียงปัง Sony WF-1000XM4 หูฟังรุ่นนี้จูนเสียงแล้วเทพ

อีกหนึ่งหูฟังจาก Sony แบบ True Wireless ที่ประสบความสำเร็จทั้งยอดขายและรีวิวจากทั่วโลก ใครที่ได้ลองแล้วชมกันทุกคน แต่มันก็มีเคล็ดลับแห่งความเสียงดีที่หลายคนอาจจะพลาด ถ้ากำลังสงสัยว่าทำไม WF-1000XM4 ฉันที่เพิ่งได้มาเสียงมันจืดขนาดนี้ เสียงไม่เพราะเลย … หูฟังรุ่นนี้บอกเลย ต้องจูนเสียงครับ จูนแล้วดีจริง เห็นผลจริง ที่สำคัญจูนเสียงไม่เพี้ยน

โหลดแอพ Sony Headphones ลงในมือถือแล้วไปดูเซ็ตติ้งที่แนะนำกันเลย

5 เซ็ตติ้งที่ต้องปรับ ปรับแล้วปังโดนใจสุดๆ

#1 – Ambient Sound Control

หลายคนอาจจะคิดไม่ถึง แต่การปิดเปิดระบบ Noise Cancelling และ Ambient Sound ให้เข้ากับสถานการณ์ทำให้เสียงจะดีขึ้นอีกนิดนึงด้วยนะ

Noise Cancelling : โหมดนี้สำหรับตัดเสียงรบกวน ถ้าคุณอยู่ในที่ที่มีเสียงดังวุ่นวายก็เปิดใช้งาครับ แต่ถ้าอยู่บ้านหรือสถานที่นั่งทำงานแล้วไม่มีเสียงรบกวนมากมาย ก็แนะนำให้ปิดครับ

Ambient Sound : โหมดนี้หูฟังจะใช้ไมโครโฟนที่หูฟังดูเสียงรอบข้างเข้ามาในหูฟัง อาจจะรู้สึกว่ามิติดีขึ้น แต่ถ้าไม่ได้ต้องการฟังเสียงรอบข้างตอนที่ใช้หูฟังก็แนะนำให้ปิดครับ

OFF : ถ้าอยู่ในที่ที่บรรยากาศสงบ ไม่มีเสียงรบกวน แนะนำให้กด OFF ไปครับ

#2 – EQ หรือ Equalizer

WF-1000XM4 สามารถปรับ EQ ได้ละเอียดถึง 5 ช่วงความถี่ ซึ่งเป็นย่านความถี่สำคัญๆ ที่มีผลกับเสียงแบบเห็นผลได้ชัดเจน

ถ้าไม่รู้จะปรับยังไง ก็ลองใช้ EQ ที่ Sony ตั้งมาให้อย่าง Bright (เสียงแหลมชัด เบสคม), Excited (กลางแน่น กว้าง เบสแรง), Mellow (มีรายละเอียดนิดๆ กลางบางๆ เบสแผ่ๆ) และ อื่นๆ หลังจากที่ลองแล้วน่าจะพอให้ไอเดียในการปรับ EQ ที่เหมาะกับตัวเราเองได้ครับ ที่สำคัญ เราเปิดเพลงไปด้วยแล้วก็ปรับ EQ ได้เลยนะครับ ช่วยให้การปรับ EQ ทำได้ง่ายขึ้นหลายเท่าตัว

หลังจากเลือก EQ แล้ว เซ็ตติ้งนี้จะถูกบันทึกไว้ในหูฟังไม่ใช่บันทึกไว้ในแอพนะครับ ถ้าเราเอาหูฟังเสียบเชื่อมกับอุปกรณ์อื่น หรือ มือถือเครื่องใหม่ เสียงที่เราจูนไว้ก็จะถามเราไปด้วยครับ

#3 – Clear Bass

เซ็ตติ้งสำหรับปรับลักษณะของเบส เลือกได้ตั้งแต่ -10 ถึง +10 ซึ่งถ้าเลือก -10 คือการกดมวลเบสลงสุดๆ แต่ถ้าเลือก +10 เบสจะมาลูกโตๆ คมๆ

แนะนำให้ลองเล่นดูครับ จะมีอยู่ค่านึงที่โดนใจแน่ๆ

#4 – Bluetooth Connection Quality

เซ็ตติ้งนี้ใช้ในการปรับลักษณะการรับส่งสัญญาณ Bluetooth ของตัวหูฟังครับ

Priority on Sound Quality : โหมดนี้เลือกที่รับส่งข้อมูลให้เยอะที่สุด ข้อดี คือ ทำให้เสียงดีขึ้นไปในตัว รายละเอียดออกมาเด่นชัด ข้อเสีย คือ ถ้าอยู่ในที่ที่มีสัญญาณรบกวนช่วงความถี่ 2.4GHz มากๆ เสียงจะมาๆ ขาดๆ ครับ

Priority on Stable Connection : โหมดสำหรับเน้นความเสถียรในการรับส่งสัญญาณ Bluetooth เป็นหลัก แต่ก็แลกกับคุณภาพเสียงที่ลดลงอย่างที่สามารถฟังออกได้

ถ้าอยู่ในบ้าน หรือ ที่ทำงาน แนะนำให้เลือกใช้โหมด Priority on Sound Quality ครับ เสียงดีกว่าเห็นๆ

#5 – DSEE Extreme

นี่คือหัวใจหลักจากเครื่องเสียงจาก Sony ไม่ว่าจะเป็ฯ DAP , DAC หรือ หูฟังต่างๆ

DSEE คือระบบสร้างเสียงให้มีรายละเอียดที่สูง จากข้อมูลที่ถูกบีบอัดมาอย่างเช่นข้อมูลที่ถูกส่งผ่าน Bluetooth เสียงที่ได้จากระบบนี้จะมีความฉ่ำ รายละเอียดดีกว่าแบบปกติ

Auto : เปิดใช้ DSEE Extreme เสียงจะฉ่ำ รายละเอียดชัด มีช่องว่างเสียงที่ดีขึ้น

OFF: สำหรับคนที่ไม่ชอบ หรืออยากลองฟังเสียงปกติก็ลองปิดก็ได้ครับ เสียงที่ได้จะออกจืดๆ หน่อยซึ่งก็เหมาะกับเพลงบางแนว

Summary

ที่นี้รู้แล้วก็ลองปรับ 5 เซ็ตติ้งนี้ดูครับ ปรับแล้วเห็นผลไม่ยากเลยสำหรับหูฟังเล็กพริกขี้หนูอย่าง WF-1000XM4 รับรองว่าปรับแล้วเสียงต่างคนละโลกกับเสียงตอนเพิ่งเปิดกล่องแน่นอน