Apple AirPods Pro Gen 2 หูฟัง True Wireless ที่ขายดีที่สุดในโลกกลับมาแล้ว
จะมีหูฟังรุ่นไหนที่มีแฟนๆตั้งตารอคอยขนาดนี้อีกมั้ยถ้าไม่ใช่ Apple AirPods Pro Gen 2 กลับมารอบนี้ถึงหน้าตาจะเหมือนเดิม แต่ก็อัพเกรดภายในและเพิ่มฟังค์ชั่นบางอย่างมาให้อย่างจุใจ สำหรับสาวกค่ายผลไม้แล้วจะมีหูฟังรุ่นไหนใช้งานได้ดีไปกว่านี้อีกล่ะครับ
Apple AirPods Pro (2nd Generation)
HIGHLIGHT
- ชิปประมวลผล H2 ใหม่ล่าสุดที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเสียงโดยตรง
- มีระบบในการประมวลผลและปรับจูนเสียงให้เหมาะกับรูปทรงหูของผู้ใช้งาน
- ระบบตัดเสียงรบกวน ANC ที่ดีกว่ารุ่นก่อนถึง 2 เท่า
- ระบบควบคุมแบบสัมผัสที่ใช้งานสะดวกกว่าเดิม
- ระบบเสียงสามมิติตามศีรษะแบบไดนามิค
- เคสชาร์จ MagSafe ที่ใช้งานร่วมกับที่ชาร์จ Apple Watch
- เพิ่มจุกหูฟังซิลิโคนไซส์เล็กขนาด XS
ชิป H2 รุ่นใหม่ที่เป็นทุกอย่างให้ Gen 2 ดีขึ้นกว่าเดิม
อย่างที่เราเห็นๆกันครับว่าดีไซน์ของ AirPods Pro Gen 2 ถอดแบบมาจากรุ่นเดิมเลย เพียงแต่ว่าภายในนั้นอัพเดทประสิทธิภาพมาอย่างเต็มเปี่ยม ไฮไลท์ของหูฟังแอปเปิลรุ่นใหม่นี้ก็คือชิปประมวลผล H2 นี่เอง
การเปลี่ยนจากชิป H1 ดั้งเดิมมาเป็นชิป H2 จะส่งผลต่อการประมวลผลด้านเสียงโดยตรงรวมถึงการทำงานของไดรเวอร์ด้วย และยังเปลี่ยนเรื่องของระบบ Bluetooth ให้เป็นเวอร์ชั่น 5.3 อีกด้วยนะ
นอกจากจะควบคุมการทำงานของไดรเวอร์แล้ว เจ้าชิป H2 ยังส่งผลต่อระบบการปรับจูนเสียงให้เข้ากับสรีระของหูผู้ใช้งานแต่ละคนด้วย ทำให้เราได้คุณภาพเสียงที่เต็มประสิทธิภาพแน่นอน ระบบนี้มักจะเห็นได้จากหูฟังระดับไฮเอนด์เท่านั้นครับ
ระบบตัดเสียงรบกวนที่เจ๋งกว่าเดิม
ประสิทธิภาพของชิป H2 ยังส่งผลต่อระบบตัดเสียงรบกวนแบบ Active Noise Cancellation ที่ดียิ่งกว่าเดิมด้วยครับ แอปเปิลยืนยันในงานเปิดตัวมาเลยว่าดีกว่าเดิมถึง 2 เท่าตัวเลยล่ะ
ฟังค์ชั่นที่เพิ่มเข้ามายังมีระบบ Adaptive Transparency ที่จะช่วยควบคุมเสียงรอบข้างให้แบบอัตโนมัติ ถ้ามีเสียงรบกวนที่ดังมากจนเกินไป ระบบจะทำการตัดออกให้ทันที แอปเปิลบอกไว้เลยว่าระบบนี้ใช้การประมวลผลที่เร็วถึง 48,000 ครั้งต่อวินาที
โหมดเสียงรอบทิศทางที่น่าประทับใจ
หนึ่งในไฮไลท์ของแอปเปิล ณ ตอนนี้ก็คือระบบเสีย Spatial Audio ที่ดีกว่าเดิม โดยเราสามารถ custom profile ได้ครับ ซึ่งจากที่เราบอกไปว่าระบบจะทำการวัดค่าจากลักษณะหูของผู้ใช้งานแล้วมาปรับจูนเสียง มันจึงส่งผลต่อการทำงานของระบบเสียงแบบรอบทิศทางให้ทำได้ดียิ่งขึ้นด้วยครับ
ลูกเล่นมาอยู่ที่เคสก็ไม่ใช่น้อย
ชาร์จเคสของ AirPods Pro Gen 2 ก็ได้รับการเพิ่มความสามารถไม่ใช่น้อยครับ อย่างแรกที่ต้องพูดถึงเลยก็คือเราสามารถค้นหาเคสผ่านฟังค์ชั่น Find My ของ iOS ได้แล้วครับ ใครที่ขี้ลืมก็ไม่ต้องห่วง วางไว้ตรงไหนก็หาเจอแน่ๆ เพราะตัวเคสมีลำโพงติดตั้งมาด้วย สามารถส่งเสียงบอกพิกัดให้คุณทราบได้เลย
สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ก็สะดวกยิ่งขึ้น เพราะเราสามารถใช้งานเจ้าชาร์จเคส MagSafe เข้ากับที่ชาร์จ Apple Watch ได้ด้วยหรือจะชาร์จแบบไร้สายผ่านแท่นชาร์จาตราฐาน Qi ก็ได้เช่นกัน
ตัวหูฟังสามารถใช้งานต่อเนื่องได้ถึง 6 ชั่วโมงและเมื่อสลับกับการเก็บเข้าไปชาร์จในเคสจะใช้งานได้ยาวถึง 30 ชั่วโมงเลยทีเดียว
การควบคุมที่ง่ายยิ่งขึ้น
โอเค ถึงแม้ว่าหน้าตาของหูฟังจะไม่ได้เปลี่ยนจากรุ่นเดิม แต่ถ้าพูดถึงลักษณะภายนอกแอปเปิลก็ได้เพิ่มความสามารถในการควบคุมตัวหูฟังให้ง่ายยิ่งขึ้นครับ
นอกจากการบีบเพื่อควบคุมการเล่นที่เราคุ้นเคยจากรุ่นก่อนแล้วเรายังควบคุมด้วยการแตะได้ด้วย หรือเราจะปรับระดับเสียงด้วยการไถที่ก้านหูฟังขึ้นหรือลงก็ทำได้เช่นกันครับ
พูดถึงภายนอกแล้วแอปเปิลยังเพิ่มจุกหูฟังซิลิโคนไซส์ XS มาให้ด้วยครับ สำหรับใครที่ช่องหูเล็กก็จะได้ประโยชน์มากขึ้นในเรื่องความสบายเวลาสวมใส่และช่วยให้ระบบตัดเสียงรบกวน ANC ทำงานได้ดียิ่งขึ้นด้วย
Apple AirPods Pro Gen 2 ยืนหนึ่งในใจแฟนๆ
ไม่ใช่ว่าจะไม่มีหูฟัง TWS รุ่นอื่นที่สู้ Apple AirPods Pro Gen 2 ไม่ได้ แต่สำหรับผู้ที่ใช้งานอุปกรณ์ของแอปเปิลแล้ว AirPods Pro ยังคงเป็นสุดยอดหูฟังที่ใช้งานง่าย เข้ากับ Eco System ที่สาวกต่างก็ถอนตัวไม่ขึ้น และคุณภาพเสียงก็ถือว่าอยู่ในมาตราฐานที่ดีมากแม้ว่าจะไม่ได้มี codec ระดับซูเปอร์ Hi-Res เหมือนเจ้าอื่นๆ
ถ้าคุณเป็นแฟนคลับแอปเปิลและใช้ AirPods Pro รุ่นแรกอยู่แล้ว มาถึงตอนนี้ถึงแบตยังไม่เสื่อมแต่ก็น่าจะถึงเวลาได้อัพรุ่นกันแล้วล่ะครับ ยิ่งใครอัพโทรศัพท์ไปเป็น iPhone 14 แล้วล่ะก็แทบไม่มีเหตุผลอะไรที่จะหยุดเราจากการอัพหูฟังไปเป็น Apple AirPods Pro Gen 2 เลยครับ