Audio Technica ATH-ADX5000 สุดยอดหูฟังจากประเทศญี่ปุ่น
Audio Technica รุ่น ATH-ADX5000 หูฟังฟูลไซส์ชั้นเรือธงที่ผลิตส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่น ภายในตัวหูฟังแฝงไว้ด้วยเทคโนโลยีเฉพาะของทางค่ายที่ไม่เหมือนกับหูฟังเจ้าอื่นๆ แถมยังให้ผลลัพธ์ของเสียงที่ยอดเยี่ยม ชาว Audiophile ที่ต้องการสุดยอดหูฟังไว้ประจำการที่บ้านล่ะก็ไม่ควรพลาด ATH-ADX5000 เป็นอันขาดครับ
Audio Technica ATH-ADX5000 Dynamic Open-back Headphone
จุดเด่น
- หูฟัง Full Size ขนาดใหญ่ ใช้ไดรเวอร์แบบไดนามิคขนาด 58mm. ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ
- ดีไซน์แบบ Open-Back พร้อม Housing แบบรังผึ้งที่ช่วยคุณภาพเสียงดีขึ้น
- ตอบสนองความถี่ได้มากตั้งแต่ 5 – 50,000 Hz
- หูฟังมีน้ำหนักเบา ใช้โครงสร้างที่ทำมาจากแมกนีเซี่ยม
- Earpad และ Headband หุ้มด้วยหนัง Alcantara แบบเดียวกับที่ใช้ในรถซูเปอร์คาร์
- ผลิตที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
Audio Technica เป็นอีกหนึ่งแบรนด์จากประเทศญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงในด้านหูฟัง รวมไปถึง Audio Gear ต่างๆมากมายนะครับ และสำหรับหูฟังรุ่นท็อปสุดประจำค่ายตอนนี้ก็คือ ATH-ADX5000 นี่ล่ะครับ พี่ใหญ่รุ่นนี้ถูกออกแบบและสร้างขึ้นมาด้วยเทคโนโลยีที่ดีที่สุดของทางค่าย เพื่อให้ได้สุดยอดหูฟัง Reference ที่สามารถตอบโจทย์นักฟังเพลงระดับ Audiophile โดยเฉพาะ ถ้าสนใจหูฟังไฮเอนด์ซักรุ่นอยู่ล่ะก็ลองไปทำความรู้จักกับ ATH-ADX5000 เพิ่มเติมกันเลยดีกว่าครับ
ดีไซน์เรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยรายละเอียด
ATH-ADX5000 จัดว่ามีดีไซน์ที่ไม่ได้หวือหวามากนักเมื่อเทียบกับค่ายอื่น ภายนอกจะเห็นได้ทันทีว่าเป็นหูฟังแบบเปิดหรือ Open-Back ด้วยช่องระบายอากาศที่เรียกว่า Honeycomb ซึ่งนอกจากความสวยงามแล้วยังส่งผลโดยตรงกับระบบอะคูสติคของหูฟังด้วยครับ ทาง Audio Technica บอกว่าการออกแบบนี้จะช่วยให้เสียงมีความเป็นธรรมชาติ ตอบสนองได้แม่นยำและยังไม่มีปัญหาของแรงดันอากาศที่จะส่งผลให้คุณภาพเสียงลดลงไปด้วยครับ
ส่วนของเฟรมทั้งหมดจะทำมาจากแม็กนีเซี่ยมครับ ซึ่งเป็นโลหะที่มีน้ำหนักเบาแต่ในขณะเดียวกันก็มีความแข็งแรงสูงมาก ตัวหูฟังจะมีน้ำหนักรวมอยู่ที่ 270 กรัมเท่านั้น ถือว่าเบามากสำหรับหูฟังไซส์ยักษ์แบบนี้ครับ ส่วนของ Earpad และ Headband จะถูกหุ้มด้วยหนัง Alcantara ซึ่งเป็นหนังสังเคราะห์ที่ไม่ได้ทำมาจากสัตว์ครับ หนังกลับชนิดนี้ส่วนมากจะเป็นวัสดุสำหรับทำเบาะรถสปอร์ตหรือรถระดับซูเปอร์คาร์ เรียกว่าเป็นวัสดุระดับไฮเอนด์ครับ นอกจากความสวยงามงามแล้วก็ยังให้สัมผัสที่ยอดเยี่ยมไม่เหมือนฟองน้ำทั่วไปครับ
เทคโนโลยีไดรเวอร์เฉพาะของ Audio Technica
ATH-ADX5000 ถือว่าแตกต่างจากหูฟังฟูลไซส์ระดับเรือธงของหลายๆค่ายที่มักจะใช้ไดรเวอร์แบบ Magnetic หรือ Electrostatic แต่สำหรับ Audio Technica พวกเค้ายังลงเลือกจะพัฒนาไดรเวอร์ Dynamic แบบดั้งเดิม ซึ่งที่ไม่เหมือนไดรเวอร์ไดนามิคทั่วๆไปก็คือเทคโนโลยีเฉพาะของทางค่ายเนี่ยล่ะครับ
ไดรเวอร์ไดนามิคของ ATH-ADX5000 มีขนาดใหญ่ถึง 58 มิลลิเมตร ส่วนของไดอะแฟรมจะเคลือบด้วยทังสเตน การยึดระบบไดรเวอร์ทั้งหมดรวมไปถึงชุด voice coil จะใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า Core Mount Technology ซึ่งจะยึดอุปกรณ์แต่ละชิ้นให้เป็นชิ้นเดียวกัน ช่วยลดปัญหาเรื่องการสั่นสะเทือนที่เกินมาได้ แถมการยึดติดอุปกรณ์ทั้งหมดก็ไม่ใช้น็อตเลยด้วยครับ ช่วยลดน้ำหนักลงไปได้อีกทางนึง สุดท้ายจะเป็นส่วนของ baffle ที่ทำมากจาก polyphenylene sulfide (PPS) บวกเข้ากับไฟเบอร์กลาส ช่วยให้การเคลื่อนตัวของไดอะแฟรมมีความเสถียรมากยิ่งขึ้นด้วยครับ
สายสัญญาณยาว 3 เมตรพร้อมขั้วต่อแบบ A2DC
ATH-ADX5000 มาพร้อมกับสายสัญญาณความยาว 3 เมตรที่เชื่อมต่อเข้ากับหูฟังด้วยขั้วแบบ A2DC ส่วนหัวแจ็คจะเป็นขนาด 6.3mm เคลือบทอง ในอนาคตถ้าอยากอัพเกรดสายสัญญาณก็ไม่ใช่ปัญหาครับ
การใช้งาน ATH-ADX5000 จำเป็นต้องจับคู่กับแอมป์หูฟังคุณภาพดีที่มีกำลังขับสูงซักหน่อย เนื่องจากตัวหูฟังเองมีค่าความต้านทานมากถึง 420 ohms ถือว่าบริโภคพลังงานสูงเอาการ นอกจากจะต้องใช้งานคู่กับแอมป์ที่มีประสิทธิภาพแล้ว แอมป์แบบหลอดก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจครับ ข้อมูลจากสำนักรีวิวบอกไว้ว่าแอมป์หลอดจะช่วยเพิ่มความอิ่ม ความหนาให้กับหูฟัง เติมเต็มโทนเสียงของ ATH-ADX5000 ให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้นครับ
Audio Technica ATH-ADX5000 เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการหูฟัง Reference ระดับเรือธง ที่สามารถตอบสนองทุกรายละเอียดเสียงได้อย่างสมบูรณ์แบบ สามารถให้มิติเสียงที่กว้างขวางและแยกแยะทุกเลเยอร์ได้อย่างชัดเจนที่สุด ถ้าคุณภาพเสียงคือโจทย์สำคัญสำหรับคุณแล้วล่ะก็ ATH-ADX5000 ก็คือหนึ่งในคำตอบสำหรับสมการครับ
Specifications:
Type : Open-back dynamic
Driver Diameter : 58 mm
Frequency Response : 5 – 50,000 Hz
Maximum Input Power : 1,000 mw
Sensitivity : 100 dB/mW
Impedance : 420 ohms
Weight : 270 g
Cable : Detachable 3.0 m (9.8′) cable with A2DC connectors
Connector : 6.3 mm (1/4″) gold-plated stereo plug
Accessories Included : Hard carrying case