AudioQuest Golden Gate vs Big Sur สาย Interconnect เหนือชั้นสำหรับคนฟังเพลง
เรื่องสายสัญญาณคุณภาพคงไม่มีใครเกินค่าย AudioQuest ไปได้ครับ เพราะเค้ามีผลิตภัณฑ์คุณภาพเป็นที่ยอมรับของนักเล่นเครื่องเสียงมาเป็นเวลานาน และยังมีอุปกรณ์ให้เลือกในทุกระดับราคาตั้งแต่สายสัญญาณหลักร้อยไปจนถึงหลักล้านก็ยังมี แต่รอบนี้เราจะมาทำความรู้จักสายอัพเกรดระดับเริ่มต้นที่ราคาไม่แรง แต่เพิ่มคุณภาพเสียงให้กับซิสเต็มของคุณได้เป็นอย่างดีครับ
AudioQuest Golden Gate vs Big Sur
ในบทความพรีวิวรอบนี้เราอยากจะขอแนะนำให้ทุกท่านได้รู้จักกับสายสัญญาณ 2 รุ่น ที่มาจากซีรี่ย์ Bridges & Falls นั่นก็คือสายสัญญาณรุ่น Golden Gate และ Big Sur ครับ ทั้งสองรุ่นเป็นสายอัพเกรดที่ถูกพัฒนาให้ดีขึ้นกว่ารุ่นเริ่มต้นอย่าง Evergreen ถ้าใครเคยผ่าน Evergreen มาบ้างแล้วอยากได้เสียงที่ดีขึ้นไปอีก Golden Gate และ Big Sur ก็เป็นตัวเลือกที่น่าลองและลงทุนไม่สูงจนเกินไปครับ
AudioQuest Bridges & Falls Series
จุดเด่นของสายสัญญาณ interconnect ทั้งสองรุ่นก็เริ่มกันจากชื่อก่อนเลยครับ เพราะว่ามาจากซีรี่ย์ Bridges & Falls สายสัญญาณทั้งคู่จึงได้ชื่อรุ่นมาจากสะพานชื่อดังในสหรัฐอเมริกา โดย Golden Gate ก็เป็นสะพานที่เป็นไอคอนของซานฟรานซิสโก ส่วน Big Sur ก็มาจากสะพาน Bixby Creek ที่อยู่บริเวณถนนเรียบอ่าวในรัฐแคลิฟอร์เนียนั่นเองครับ
คุณภาพสูง ราคาไม่แพง
ถัดจากเรื่องชื่อก็จะเป็นเสปคของสายที่ถูกเพิ่มความสามารถให้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นวัสดุคุณภาพสูง เทคโนโลยีในการผลิตที่เป็นแบบแฮนด์เมดและมีความซับซ้อนในการสร้าง การออกแบบก็เน้นให้ลดการเกิด Noise ให้ได้มากที่สุด ซึ่งทั้งหมดนี้ยังอยู่ในราคาที่ทุกคนสามารถจับต้องได้ครับ
จุดเด่น
- สายตระกูล Bridges & Falls ตัวสายสัญญาณทั้งสองขั้วจะถูกมัดรวมกันอยู่ในสายเส้นเดียว และไปแยกออกเป็นสองหัวที่ปลายสายครับ แต่ภายในที่มัดรวมกันอยู่นั้นจะมีการชิลด์สัญญาณทั้งสองออกจากกันอย่างชัดเจน ทำให้ไม่เกิดสัญญาณรบกวนและสายก็ไม่เกะกะอีกด้วย
- ประเภทหัวแจ็คที่มีให้เลือกใช้ก็จะได้แก่ 3.5mm (ตัวผู้และตัวเมีย) , DIN และ RCA
- วัสดุตัวนำคุณภาพสูงอย่าง PSC ในรุ่น Golden Gate และ PSC+ ในรุ่น Big Sur
- ใช้เทคโนโลยีเฉพาะจาก AudioQuest ในการผลิตไม่ว่าจะเป็น ASYMMETRICAL DOUBLE-BALANCED GEOMETRY, COLD-WELDED หรือ FOAMED-POLYETHYLENE INSULATION
แนะนำกันเล็กน้อยว่าในกรณีที่อุปกรณ์ของคุณมีช่องอินพุตที่กว้างกว่า 7.6 เซนติเมตร ก็อาจจะไม่เหมาะกับ Golden Gate หรือ Big Sur ครับ แนะนำให้ลองดูสายแยกอย่างซีรี่ย์ River หรือ Element จะสะดวกกว่าครับ
เทคโนโลยีร่วมที่อยู่ใน Golden Gate และ Big Sur
อันที่จริงแล้วสายสัญญาณทั้ง 2 รุ่นนั้นจะมีจุดต่างสำคัญอยู่ที่ตัวนำสัญญาณที่แตกต่างกันครับ แต่เทคโนโลยีอื่นๆในการสร้างเหมือนกันทุกประการ ก่อนอื่นเรามาดูเทคโนโลยีที่อยู่ในสายทั้ง 2 รุ่นกันก่อนนะครับ
ASYMMETRICAL DOUBLE-BALANCED GEOMETRY
สายสัญญาณทั้ง 2 รุ่นถือว่าออกแบบมาเพื่อระบบ single-ended โดยเฉพาะ ซึ่งแตกต่างจากสาย single-ended ทั่วไปที่มักจะมัดรวมเส้น Ground และ Shield เอาไว้ด้วยกัน แต่สำหรับดีไซน์แบบ Double-Balanced จะแยกทั้งสองเส้นออก ทำให้ได้สัญญาณที่สะอาดกว่าสายทั่วๆไปมากครับ
METAL-LAYER NOISE-DISSIPATION
เทคโนโลยีนี้จะเหมือนกับการทำ Shiled ซ้อน Shield อีกทีนึงซึ่งจะช่วยดูดกลืนและสะท้อนสัญญาณรบกวนอย่าง radio-frequency interference (RFI) ก่อนที่จะมาถึงส่วนที่เป็น Ground ทำให้ช่วยลดปัญหา distortion ลงไปได้อีกสเตปนึงครับ
COLD-WELDED
เป็นระบบเข้าหัวและบัดกรีสายของ AudioQuest ที่ไม่ต้องใช้ความร้อนในการเชื่อมโลหะให้ติดกัน แต่จะใช้วิธีบีบอัดด้วยเครื่องมือแบบแรงดันสูง ซึ่งให้คุณภาพเสียงที่ดีกว่าการบัดกรีแบบปกติที่มีโอกาสทำให้สัญญาณเกิด distortion ได้ครับ
FOAMED-POLYETHYLENE INSULATION
สายสัญญาณทั้ง 2 รุ่นจะใช้โฟมโฟลี่เอธิลีนเป็นวัสดุในการทำฉนวน ด้วยคุณสมบัติของโฟมชนิดนี้ที่มีช่องว่างเป็นอากาศอยู่มาก ทำให้สามารถดูดกลืนพลังงานที่อาจสะท้อนกลับมาเป็นอาการ distortion ได้ดีกว่าวัสดุชนิดอื่นๆครับ
ข้อแตกต่างของสายทั้ง 2 รุ่น
และแล้วเราก็มาถึงข้อแตกต่างของสายทั้ง 2 รุ่นกันแล้วล่ะครับ อย่างที่บอกไปว่าสิ่งที่สายทั้งคู่แตกต่างกันก็เป็นเรื่องของตัวนำสัญญาณนั่นเอง เริ่มกันที่
AudioQuest Golden Gate : SOLID PERFECT-SURFACE COPPER (PSC) CONDUCTORS
วัสดุที่เป็นตัวนำสัญญาณของรุ่น Golden Gate จะเป็นทองแดงแบบ PSC ซึ่งโมเลกุลของทองแดงชนิดนี้ทำได้ละเอียดมากๆจนแทบจะเป็นเนื้อเดียวกันเลยทีเดียว ซึ่งก็มาจากกระบวนการผลิตคุณภาพสูงในการรีดทองแดงออกมา ผลลัพธ์ที่ได้คือการนำสัญญาณที่มีประสิทธิภาพมากๆ เพราะเนื้อทองแดงนั้นละเอียด สัญญาณสามารถไหลผ่านได้สะดวกกว่าทองแดงทั่วไป ทำให้ได้โทนเสียงที่ดีและสัญญาณมีความสะอาดสูงครับ
AudioQuest Big Sur : SOLID PERFECT-SURFACE COPPER+ (PSC+) CONDUCTORS
สำหรับรุ่น Big Sur ก็จะเป็นตัวนำสัญญาณแบบทองแดงที่ดีขึ้นไปอีกเรียกกันว่า PSC+ ครับ ซึ่งทำให้โมเลกุลทองแดงละเอียดมากยิ่งขึ้นกว่าแบบ PSC เข้าไปอีก จากแบบ PSC ที่ว่าเนื้อละเอียดแล้ว ถ้าเป็น PSC+ จะเนียนละเอียดมากๆจนแทบเป็นเนื้อเดียวกันในระดับโมเลกุล ต้องส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์แล้วจะเห็นความแตกต่างของทั้ง 2 แบบนี้เลยทีเดียวครับ และเมื่อตัวนำสัญญาณมีคุณภาพดีขึ้น เสียงที่ได้ก็ยิ่งดีขึ้นไปอีกนั่นเองครับ
เสียงดีทั้งคู่อยู่ที่คุณเลือก
ทั้ง Golden Gate และ Big Sur ถือว่าเป็นสาย interconncet สำหรับอัพเกรดที่คุณภาพสูงทั้งคู่ครับ เมื่อเทียบกับรุ่นเริ่มต้นของ AudioQuest อย่าง Evergreen ที่ใช้ตัวนำสัญญาณแบบ LGC หรือ LONG-GRAIN COPPER แล้ว เสียงที่ได้แตกต่างกันอย่างชัดเจนครับ ขึ้นอยู่กับงบประมาณเลยว่าสะดวกในการเล่นรุ่นไหนมากกว่ากัน แต่รับรองว่าคุ้มค่า สามารถใช้ฟังได้ยาวๆทั้งคู่ จนกว่าจะมีงบอัพเกรดไปเล่นรุ่นที่ใหญ่ขึ้นกว่านี้ครับ