2 หูฟังไร้สายตัวเด่น B&W PI7 vs B&W PI5 เหมือนหรือต่างกันยังไง
ถ้าพูดถึงหูฟัง True Wireless ที่ให้คุณภาพเสียงยอดเยี่ยมสุดๆในเวลานี้คงหนีไม่พ้นหูฟังรุ่น PI7 และ PI5 จากค่าย Bowers & Wilkins แน่นอนครับ ด้วยเทคโนโลยีอันโดดเด่นและมาตราฐานความที่เป็นค่าย Audiophile อย่างแท้จริง ทำให้ B&W สามารถสร้างหูฟัง TWS ที่ทำให้ทุกสำนักรีวิวต่างชื่นชอบกันถ้วนหน้าครับ
B&W PI7 vs B&W PI5
ทาง B&W ได้เปิดตัวหูฟัง TWS ของพวกเค้าออกมาสองรุ่นด้วยกัน ซึ่งทั้ง PI7 และ PI5 นั้นมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนครับ ใครที่กำลังสนใจหูฟังทั้ง 2 รุ่นนี้อยู่ล่ะก็ เดี๋ยวเราจะพาไปดูข้อแตกต่างให้เห็นกันแบบชัดๆทีละส่วนไปเลยครับ
ดีไซน์และวัสดุ
ถ้าพูดถึงเรื่องดีไซน์แล้วทั้ง PI7 และ PI5 ใกล้เคียงกันมากเลยทีเดียวครับ ตัวหูฟังจะมีส่วนของเฮาส์ซิ่งที่ทำมาจากพลากสติคและส่วนของโดมลำโพงที่ทำมาจาโลหะเหมือนๆกันครับ สัมผัสของวัสดุที่ทาง B&W เลือกใช้บอกเลยว่าไฮเอนด์มากๆครับ รับประกันความสวยงาม หรูหราแน่นอน
ทั้งสองรุ่นมีให้เลือก 2 สีด้วยกันได้แก่ ขาว (White) กับ ดำ (Charcoal) ซึ่งจุดที่แตกต่างกันชัดๆของ PI7 และ PI5 ก็คือตัวท็อปอย่าง PI7 จะมีขลิบทองที่โดมลำโพงอย่างชัดเจนครับ ทำให้ดีไซน์ของ PI7 จะมีความสะดุดตาและดูสวยงามยิ่งขึ้นไปอีก
ซึ่งสีสันทูโทนตัดทองแบบนี้จะลามไปถึงส่วนของชาร์จเคสด้วยครับ แน่นอนว่าส่วน PI5 จะเป็นเคสสีเดียวทั้งชิ้นเช่นเดียวกับตัวหูฟังครับ
ระบบไดรเวอร์
B&W PI7 : Dual Hybrid Driver
B&W PI5 : Single Dynamic Driver
หัวใจสำคัญของหูฟังอย่างไดรเวอร์ก็แตกต่างกันอย่างชัดเจนครับ สำหรับรุ่นท็อปอย่าง PI7 มาพร้อมไดรเวอร์ 2 ชุดแบบไฮบริดผสมกันระหว่าง balanced armature และ dynamic แถมยังแยกชุดแอมป์ขับกันอย่างชัดเจน เมื่อบวกกับการปรับจูนที่ดีเยี่ยมทำให้ประสิทธิภาพการแสดงผลของ PI7 นั้นสุดยอดมากๆครับ
ส่วนของ PI5 จะใช้ไดรเวอร์เดี่ยวแบบ Dyamic ซึ่งถือเป็นมาตราฐานหลักของหูฟัง True Wireless ส่วนใหญ่อยู่แล้วครับ แต่อย่าพึ่งด้อยค่าไดรเวอร์ตัวเดียวแบบนี้นะครับ เพราะทาง B&W จูนเสียงมาได้ดีมาก ถึงจะตอบสนองได้ไม่เท่า PI7 แต่ในสนามของหูฟัง TWS บอกเลยว่า PI5 ไม่ธรรมดาเลยล่ะครับ
ระบบตัดเสียงรบกวน
B&W PI7 : Adaptive Noise Cancelling
B&W PI5 : Adaptive Noise Cancelling
หูฟังทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับระบบตัดเสียงรบกวนที่ช่วยให้เราฟังเพลงได้อย่างเงียบสงบ ไม่โดนรบกวนจากเสียงรอบข้างครับ แต่ระบบตัดเสียงรบกวนของทั้ง 2 รุ่นก็ต่างกันอย่างชัดเจนครับ
ตัวท็อปอย่าง PI7 จะใช้ไมค์โครโฟนถึง 6 ตัวในการรับเสียงรอบตัวเราและทำการขจัดออก และยังมีระบบที่จะปรับระดับการลดเสียงรบกวนได้อัตโนมัติตามลักษณะหรือพื้นที่ๆเราใช้งานอยู่ได้ด้วยครับ
ส่วนของ PI5 ถึงจะไม่ได้มีระบบอัตโนมัติหรือ Adaptive แบบ PI7 แต่ก็ใช้ไมค์โครโฟน 4 ตัวในการใช้งานโหมด Noise Cancelling ทำให้สามารถตอบสนองการลดเสียงรบกวนได้อย่างเพียงพอและมีประสิทธิภาพครับ
ส่วนของแบตเตอรี่และชาร์จเคส
B&W PI7 : ฟังเพลงต่อเนื่องได้ 4 ชั่วโมง / ชาร์จเคสพร้อม Bluetooth Transmitter
B&W PI5 : ฟังเพลงต่อเนื่องได้ 4.5 ชั่วโมง
ถึง PI5 จะมีไดรเวอร์แค่ชุดเดียว แต่ก็ทำให้มีข้อได้เปรียบในเรื่องระยะเวลาการใช้งานที่มากกว่า PI7 อยู่ครึ่งชั่วโมงครับ นั่นก็คือ PI5 สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ 4 ชั่วโมงครึ่ง ส่วน PI7 จะใช้งานต่อเนื่องได้ 4 ชั่วโมงครับ ทั้งสองรุ่นสามารถชาร์จผ่านเคสเพิ่มได้อีก 4 ครั้ง
อีกจุดนึงที่ PI7 ค่อนข้างโดดเด่นมากๆและไม่มีใน PI5 ก็คือส่วนของชาร์จเคสที่สามารถทำหน้าที่เป็น Bluetooth Transmitter หรือเป็นตัวส่งสัญญาณบลูทูธได้ด้วย เพียงแค่เรานำเคสไปเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่ไม่มี Bluetooth ผ่านช่อง USB-C ยกตัวอย่างเช่น Music Player หรือ เครื่องเกมส์คอนโซล ตัวเคสจะส่งสัญญาณบลูทูธเป็น codec aptX Low Latency ออกไป ทำให้ PI7 ใช้งานได้สะดวกมากๆครับ
ฟีเจอร์อื่นๆล้วนสูสีกันสุดๆ
นอกจากข้อแตกต่างหลักๆที่เห็นกันชัดๆแล้ว ส่วนของฟีเจอร์อื่นของทั้ง 2 รุ่นจัดว่าสูสีกันมากๆครับ ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกในการสวมใส่ ระบบ Touch Control ที่ตอบสนองได้ดี และยังมีระบบ Wear Sensor ที่จะตรวจจับว่าเราสวมใส่หูฟังอยู่รึเปล่าเพื่อที่จะทำการเล่นและหยุดเพลงให้โดยอัตโนมัติครับ
ทั้ง B&W PI7 และ PI5 จัดว่าเป็นหูฟัง True Wireless ในหมวดไฮเอนด์ทั้งคู่ครับ สำหรับผู้ที่มองหาหูฟังไร้สายที่ตอบสนองเรื่องเสียงได้อย่างยอดเยี่ยมล่ะก็ หูฟังทั้งสองรุ่นควรอยู่ในลิสท์รายการหูฟังที่ต้องเทสของคุณเลยล่ะครับ