Bowers & Wilkins Pi7 S2 vs Pi5 S2 อัพเกรดใหม่รับปี 2023
Bowers & Wilkins Pi7 S2 และ Pi5 S2 สองคู่หูตัวตึงที่สร้างชื่อให้กับตระกูลหูฟัง True Wireless ของ B&W เป็นอย่างมาก กลับมาในเจเนอเรชั่นที่ 2 ก็ยังเจ๋งครบเครื่องสมฐานะหูฟัง TWS ระดับไฮเอนด์ทั้งคู่ ถึงแม้ว่าหน้าตาจะคล้ายๆกัน แต่สเปคไม่เหมือนกันแน่นอน ซึ่งเราเอามาสรุปให้คุณได้อ่านเรียบร้อยครับ
Bowers & Wilkins Pi7 S2 vs Pi5 S2
Pi7 S2 | Pi5 S2 | |
ไดรเวอร์ | ไฮบริดไดรเวอร์ระหว่าง Dynamic และ BA | ไดรเวอร์ไดนามิค |
ระบบตัดเสียงรบกวน | Adaptive ANC | Active Noise Cancelling |
Bluetooth | Bluetooth 5.0 with aptX HD | Bluetooth 5.0 with aptX |
ไมค์โครโฟน | ใช้ไมค์โครโฟน 3 ตัว | ใช้ไมค์โครโฟน 2 ตัว |
แบตเตอรี่ | ใช้งานต่อเนื่อง 5 ชั่วโมง ชารจ์ผ่านเคสได้อีก 16 ชั่วโมง | ใช้งานต่อเนื่อง 5 ชั่วโมง ชารจ์ผ่านเคสได้อีก 19 ชั่วโมง |
ฟีเจอร์เสริม | ระบบ DSP และ True 24-bit audio connection | None |
ดีไซน์เดิม แต่เพิ่มเติมสีมาให้ใหม่
รูปร่างหน้าตาของทั้ง Pi7 และ Pi5 ในรุ่นที่สองนี้ยึดตามดีเอ็นเอจากรุ่นก่อนเป๊ะๆ แบบโขลกมาจากพิมพ์เดิมเลยก็ว่าได้ครับ ฉะนั้นเรื่องความสวยงามไม่ต้องพูดถึงดูดีเหมือนเดิม ขนาดกำลังดีใส่สบายทั้งคู่ แถมยังได้ความแข็งแรงระดับมาตราฐาน IP54 ทั้งคู่ สามารถใช้งานร่วมกับการออกกำลังได้สบายๆ
ทั้งสองรุ่นจะไปต่างกันตรงสีสันที่มีให้เลือกอย่างละ 3 สีครับ ถ้าสังเกตดูฝั่ง Pi7 จะให้โทนสีที่ดูหรูหรากว่าหน่อยประกอบด้วย Canvas White, Midnight Blue และ Satin Black
ทางฝั่ง Pi5 สีสันจะดูสดใสเอาใจวัยรุ่นซะมากกว่า สังเกตได้ว่าจะเป็นสีแบบทูโทนทั้งสามแบบ ได้แก่ Cloud Grey, Spring Lilac และ Storm Grey ฉะนั้นเมื่อพูดถึงภายนอกแล้วความแตกต่างของทั้งคู่จะอยู่แค่เรื่องสีเท่านั้นครับ
ระบบไดรเวอร์ที่อัพเกรดให้เสียงดีขึ้น
เว่ากันซื่อๆระบบไดรเวอร์ของทั้ง Pi7 และ Pi5 ยังคงใช้ไอเดียวแบบเดิมกับเจเนอเรชั่นก่อน แต่ก็ได้รับการตรวจสอบปรับปรุงใหม่ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าเดิม
อย่างเช่น Pi7 S2 ก็จะเป็นส่วนผสมของระบบไดรเวอร์แบบไฮบริดที่ใช้ไดรเวอร์ไดนามิคขนาด 5.2 มิลลิเมตร บวกกับไดรเวอร์ Balanced Armature ทำให้ตอบสนองได้ครบถ้วนและเป็นธรรมชาติ เรียกว่าเบสอิ่มฟังสนุก เสียงกลางและแหลมก็ยังคมชัดสดใสครับ
รุ่นน้องอย่าง Pi5 S2 ก็จะลดสเปคลงมาอีกหน่อย โดยจะเป็นไดรเวอร์ไดนามิคขนาด 9.2 มิลลิเมตรเพียวๆ แต่ว่างานออกแบบชนิด semi-open back ก็ทำให้ Pi5 เป็นหูฟังไฮเอนด์ที่ฟังมันส์เอาเรื่อง แต่ก็ยังไม่ทิ้งบาลานซ์ที่ดี และรายละเอียดที่เก็บได้อย่างน่าทึ่งในหมวดหมู่ของหูฟัง TWS เช่นนี้
ระบบตัดเสียงรบกวน
ระบบตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancelling ของทั้งคู่ยังทำได้ดีเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน ข้อแตกต่างที่สำคัญก็คือ ถ้าเป็น Pi7 S2 ระบบนี้จะเป็นแบบ Adaptive ANC ส่วน Pi5 S2 เป็นระบบ ANC ปกติ ทำให้รุ่นท็อปจะใช้งานได้ยืดหยุ่นมากกว่า
อย่างระบบไมค์โครโฟนที่ใช้สำหรับโทรศัพท์และการตัดเสียงรบกวน Pi7 ก็มีถึง 3 ตัว ส่วน Pi5 จะมี 2 ตัวก็ทำให้ได้เปรียบกว่าเล็กน้อย แต่โดยพื้นฐานแล้วบอกได้ว่าใช้งานจริงแล้วแจ่มทั้งคู่ครับสำหรับระบบตัดเสียงรบกวน
ระบบ Bluetooth
ฟังเพลงแบบไร้สายภายใต้มาตราฐาน Bluetooth เวอร์ชั่น 5.0 พร้อมรองรับ codec คุณภาพสูงอย่าง aptX แต่สำหรับ Pi7 S2 จะเพิ่ม codec อย่าง aptX Adaptive และ aptX HD ให้ใช้ด้วย แน่นอนว่าช่วยเพิ่มคุณภาพเสียงให้ดียิ่งขึ้นถ้าเรามีอุปกรณ์ที่รองรับ
สำหรับในหมวด Bluetooth แล้วตัวพ่ออย่าง Pi7 S2 ยังมีข้อได้เปรียบอีกครับ อย่างเช่นระบบ DSP ที่ช่วยประมวลผลภายในหูฟังและ True 24-bit audio connection ที่ทำให้การส่งข้อมูลเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ
และที่แจ่มที่สุดเลยก็คือตัวเคสของ Pi7 S2 สามารถใช้เป็น Bluetooth Transmitter หรือตัวส่งสัญญาณบลูทูธมาให้หูฟังเราได้ด้วย ว่าง่ายๆก็คือถ้าเรามีอุปกรณ์ที่ไม่รองรับการส่งสัญญาณบลูทูธอย่างเช่น Nintendo Switch เราสามารถเอาเคสมาเชื่อมต่อกับ Switch แล้วส่งสัญญาณเสียงไปยังหูฟัง Pi7 S2 ของเราได้เลย จัดว่าสะดวกมากๆครับ
ระบบ Battery
ความจุแบตเตอรี่ที่ทั้งคู่ได้มาถือว่าแทบจะเสมอกันครับ ลำพังแบตเตอรี่ในตัวหูฟังเองทำให้ทั้งสองสามารถใช้งานต่อเนื่องได้ถึง 5 ชั่วโมง (ในกรณีที่ไม่ได้ใช้งานโหมด ANC) ส่วนของตัวชาร์จเคส Pi5 ที่เป็นศิษย์น้องกลับให้พลังงานได้มากว่า โดยจะต่อเวลาใช้งานไปได้อีก 19 ชั่วโมง แต่สำหรับเคสของ Pi7 ทำได้ที่ 16 ชั่วโมงครับ
ทั้งคู่สามารถใช้งาน Wireless Charge ได้ครับ และยังมีระบบ Fast Charge ให้เช่นกัน โดยการชาร์จเร่งด่วนเพียง 15 นาทีทำให้เราใช้งานได้ทันที 2 ชั่วโมงครับ
Bowers & Wilkins Pi7 S2 vs Pi5 S2
Pi7 S2 และ Pi5 S2 ยังคงรักษามาตราฐานหูฟัง True Wireless ระดับไฮเอนด์ไว้ได้อย่างคงเส้นคงวาทั้งคู่ครับ ชื่อชั้นของ Bowers & Wilkins ไม่เคยตกอยู่แล้ว โดยภาพรวมทั้งสองรุ่นเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟัง TWS และซีเรียสกับเรื่องคุณภาพเสียงพอสมควร ซึ่งทั้งสองรุ่นตอบโจทย์แน่ๆ แต่ถ้าเน้นเรื่องระบบตัดเสียงรบกวนที่ดีที่สุด บวกกับอยากได้ลูกเล่น Bluetooth Transmitter ไปใช้งานด้วยล่ะก็ B&W Pi7 S2 ก็จะตอบโจทย์ได้ดีสมฐานะรุ่นท็อปของค่ายครับ