Bowers & Wilkins 606 S2 vs 607 S2 ลำโพงเสียงสุขุม ความแตกต่างที่ลงตัว
Bowers & Wilkins 600 Series ลำโพงซีรี่ส์น้องเล็กจาก B&W ที่บอกเลยว่าคุณภาพเสียงไม่เล็กแถมเสียงยังใหญ่เกินตัวอีกต่างหาก ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมเพราะ 600 Series นั้นเป็นลำโพงที่สร้างชื่อมากว่า 25 ปีเข้าไปแล้ว และล่าสุดกับลำโพงแบบ Bookshelf เจเนอเรชั่นที่ 7 รุ่น 606 S2 และ 607 S2 ที่ยังคงความยอดเยี่ยมไว้อย่างคงเส้นคงวา ถ้าอยากเริ่มต้นกับลำโพง Passive ดีๆซักรุ่นล่ะก็ ลำโพงทั้งสองเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทั้งคู่ครับ
Bowers & Wilkins 606 S2 & 607 S2 Bookshelf speaker
จุดเด่น
- ใช้ไดอะแฟรมแบบ Continuum Cone วัสดุพิเศษที่ดึงมาจากลำโพงรุ่นท็อปของค่าย
- วูฟเฟอร์ Continuum Cone ขนาด 5 นิ้ว สำหรับ 607 และ ขนาด 6.5 นิ้วสำหรับ 606
- ทวีตเตอร์รุ่นใหม่แบบ Decoupled Double Dome Tweeter
- อัพเกรดระบบ Crossover ใหม่ให้มีคุณภาพเสียงดีกว่าเดิม
- ใช้ขั้วต่อแบบไบร์ไวริ่ง (Bi-wirable)
Bowers & Wilkins 600 Series ลำโพงที่อยู่ยั้งยืนยงมาตั้งแต่ปี 1995
ตำนานของ Bowers & Wilkins 600 Series นั้นเริ่มตั้งแต่ปี 1995 ครับจนมาถึงรุ่นล่าสุดที่เรากำลังพูดถึงกันอยู่นี่ก็ปาเข้าไปรุ่นที่ 7 แล้ว โดยจุดเด่นของ 600 Series ก็คือเป็นลำโพงรุ่นประหยัดของ B&W แต่คุณภาพเสียงที่ได้นั้นยอดเยี่ยมเกินตัวมากๆ โดยเฉพาะรุ่น 606 S2 และ 607 S2 ซึ่งเป็นลำโพง Bookshelf เพียงสองรุ่นของซีรี่ส์นี้ครับ
สเปคของลำโพงทั้งสองรุ่นนั้นใกล้เคียงกันมากเลยทีเดียวครับ เทคโนโลยีเรียกว่าใช้ร่วมกันหมดต่างกันที่ขนาดของดอกและตัวลำโพงเท่านั้นเองครับ
ไดรเวอร์แบบ Continuum Cone อันลือชื่อ
ไฮไลท์สำคัญของลำโพงทั้งสองรุ่นจะมาจากลำโพงวูฟเฟอร์ที่ใช้ไดอะแฟรมแบบ Continuum Cone ครับ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่นำมากจากลำโพงระดับไฮเอนด์รุ่นพี่อย่างลำโพง 700 Series และรุ่นท็อป 800 Diamond Series ฉะนั้นไม่ต้องห่วงเลยว่าความสามารถในการตอบสนองเสียงจะยอดเยี่ยมขนาดไหน
รุ่น 607 S2 จะใช้ดอกลำโพงขนาด 5 นิ้ว
รุ่น 606 S2 จะใช้ดอกลำโพงขนาด 6.5 นิ้ว
ทวีตเตอร์โดมรุ่นใหม่แบบ Decoupled Double Dome
ส่วนของทวีตเตอร์ก็ได้รับการปรับปรุงใหม่หมดจดเช่นกันครับ โดยมีชื่อว่า Decoupled Double Dome tweeter ขนาด 1 นิ้ว โดยได้รับการอัพเกรดแม่เหล็กแรงสูงอย่าง “นีโอไดเมียม” มาใช้งาน
ทั้งวูฟเฟอร์และทวีตเตอร์แบบใหม่นี้ทำให้ลำโพงทั้งสองรุ่นสามารถตอบสนองย่านความถี่ได้กว้างมากตั้งแต่ 52Hz – 28kHz ±3dB จะเห็นว่าเสียงแหลมเก็บรายละเอียดไปได้ไกลมากๆ ใครชอบปลายแหลมพริ้วๆล่ะก็ไม่มีผิดหวังครับ
ปรับปรุงระบบ Crossover ใหม่
ระบบวงจรครอสโอเวอร์ก็เป็นอีกส่วนที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ครับ โดยนำคาปาซิเตอร์จากรุ่น 700 Series มาประยุกต์ใช้งานทำให้ดอกลำโพงทั้งสองแบ่งหน้าที่การทำงานกันได้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนั้นยังนำขั้วต่อแบบไบร์ไวริ่ง (Bi-wirable) มาใช้ในลำโพงทั้ง 2 รุ่นอีกด้วยครับ ซึ่งถ้าได้สายสัญญาณที่ดีบวกกับแอมป์คุณภาพเยี่ยมจะส่งผลให้เสียงทะยานออกไปไกลกว่าขนาดลำโพงเลยทีเดียวครับ
ลำโพงที่สวยงามลงตัวกับทุกห้อง
ลำโพงทั้งสองรุ่นออกแบบได้เรียบง่ายและสวยงามมากๆครับ เป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างความทันสมัยและความวินเทจ ถึงแม้จะมีหน้าตาเหมือนกัน แต่ขนาดก็แตกต่างกันอยู่พอสมควรครับ
รุ่น 607 S2 สูง 300mm. กว้าง 165mm. และมีความลึก 207mm.
รุ่น 606 S2 สูง 345mm. กว้าง 190mm. และมีความลึก 300mm.
การเลือกลำโพงทั้งสองรุ่นก็ขึ้นอยู่กับขนาดห้องและพื้นที่ในการใช้งานนะครับ ถ้าห้องมีขนาดใหญ่ก็ควรจัดรุ่นพี่ 606 S2 ไปใช้งานจะได้พลังเสียงเต็มขนาดห้องมากกว่าครับ
ตัวลำโพงนอกจากประณีตสวยงามแล้วก็ยังมีสีให้เลือกหลักๆคือสีขาวและสีดำครับ แต่ก็ยังมี Red Cherry ให้เลือกใช้ แต่ถ้าเป็นรุ่น 607 S2 ก็จะมีสีไม้ Oak ให้เลือกเพิ่มเติมอีกด้วยครับ
ลำโพงรุ่น 606 S2 และ 607 S2 เป็นลำโพงคุณภาพสูงที่เหมาะทั้งผู้ที่ต้องการเริ่มเล่นลำโพง Passive Bookshelf รวมถึงนักฟังผู้โชกโชนที่ต้องการลำโพงราคาสมเหตุสม ให้น้ำเสียงที่ไพเราะน่าฟัง ตอบโจทย์การฟังเพลงแบบ Audiophile โดยเฉพาะดนตรีป๊อปและแจ๊ส ถ้าได้ฟังผ่านลำโพง 600 Series ล่ะก็รับประกันความฟินแน่นอนครับ