แพทย์ในอเมริกาแสดงความกังวลเกี่ยวกับอาการลดความสามารถในการได้ยิน ในสัปดาห์แห่งการหูอื้อที่กำลังจะมาถึง
องค์การอนามัยโลกประเมินว่าคนหนุ่มสาวหลายพันล้านคน มีความเสี่ยงที่จะสูญเสียการได้ยินจากการได้ยินเสียงรบกวนจากการพักผ่อนหย่อนใจโดยสมัครใจ ระหว่างความความบันเทิงก็มีสิ่งบอกว่าพวกเขากำลังฟังเพลงดังเกินไป
นอกจากนี้ยังอาจทำให้หูอื้อได้
ดร. ซูซานน์ แจ็กสัน นักโสตสัมผัสวิทยาจาก Hear USA กล่าวว่า ชาวอเมริกันหลายล้านคนมีอาการหูอื้อหรือมีเสียงกริ่ง เสียงหึ่งๆ หรือมีเสียงในหูไม่หยุด
แจ็คสันกล่าวว่า สถิติแสดงให้เห็นว่าประมาณ 10 ถึง 15% ของชาวอเมริกันมีอาการดังกล่าว ซึ่งรวมถึงชาวอเมริกันประมาณ 25 ล้านคน
“เราอยู่ในโลกที่ผู้คนมักจะฟังหูฟัง หรือคุยโทรศัพท์โดยกดแนบหู บางครั้งก็ดังเกินไป” แจ็คสันกล่าว
เธอย้ำว่าแม้อาการดังกล่าวอาจนำไปสู่อาการหูอื้อ หรือสูญเสียการได้ยิน แต่ก็มีปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้เกิดอาการนี้ได้เช่นกัน
การศึกษาจากกลุ่มที่ชื่อว่า BMJ Global Health เมื่อฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้วพบว่าคนหนุ่มสาวมักฟังเสียงดังเกินไปแ ละนานเกินไป แจ็กสันกล่าวว่าเธอเห็นกรณีต่างๆ กับคนที่ไม่ได้ควบคุมความดัง
“ฉันไม่คิดว่าแค่ฟังผ่านหูฟังเท่านั้นที่เป็นปัญหา ฉันสนใจแต่ว่าเสียงมันดังแค่ไหน” แจ็คสันอธิบาย “ดังนั้น หากคุณกำลังฟังบางอย่างที่ดังพอที่คนที่นั่งข้างคุณจะร้องตามได้ คุณก็ควรหร่เสียงนั้นลง เพราะเมื่อเสียงดังขนาดนั้นคุณอาจสูญเสียการได้ยินบางส่วนได้”
องค์การอนามัยโลกประเมินว่ามีคนมากกว่า 430 ล้านคนทั่วโลกที่สูญเสียการได้ยิน ซึ่งเป็นจำนวนที่ทางกลุ่มระบุว่าอาจเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า หากไม่ให้ความสำคัญกับการป้องกัน
ดร.แจ็คสันกล่าวว่า 90% ของผู้ที่มีอาการหูอื้อก็มีโอกาสสูญเสียการได้ยินเช่นกัน ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นการใช้หูฟัง หรืออยู่ในคอนเสิร์ตที่มีเสียงดังมากเกินไป สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการสูญเสียการได้ยินสามรรถรับการรักษาเพื่อบรรเทาอาการหูอื้อ และเสียงที่ดังก้องอยู่ในหูได้