FiiO FF3 vs FF5 หูฟังเอียร์บัดคุณภาพสุดเฟี้ยวรับปี 2023
FiiO ไม่เคยทอดทิ้งแฟนๆที่ชื่นชอบหูฟังสไตล์เอียร์บัดครับ สำหรับไลน์อัพล่าสุดของหูฟังประเภทนี้ก็ยังมี FF3 และ FF5 เป็นตัวชูโรงอยู่ครับ ซึ่งในคราวนี้เราก็หยิบทั้งสองรุ่นมาเปรียบเทียบสเปคให้ดูกันไปเลย ใครสนใจอยู่รับรองว่าเลือกได้ไม่ยากครับ
FiiO FF3 vs FiiO FF5
FiiO FF3 | FiiO FF5 | |
Driver | ไดรเวอร์ Dynamic ขนาด 14.2mm Beryllium + PU gasket | ไดรเวอร์ Dynamic ขนาด 14.2mm Carbon-Based Composite + PU gasket |
Housing | สแตนเลสขัดเงาเกรด 316L | โลหะผสมอลูมิเนียม CNC |
Cable | สายทองแดงชุบเงิน Monocrystalline | สายทองแดงชุบเงิน Monocrystalline พร้อมขั้วต่อ MMCX |
Plug | Plug 3.5 mm. และ 4.4 mm. แบบถอดเปลี่ยนได้ | Plug 3.5 mm. และ 4.4 mm. แบบถอดเปลี่ยนได้ |
สองหูฟังเอียร์บัดคุณภาพเยี่ยมจาก FiiO
เรียกได้ว่า FiiO เก็บทุกผลิตภัณฑ์ในตลาด Audio Gadget จริงๆครับ ไม่ว่าจะ DAC / Amp / DAP ไปจนถึงหูฟัง แม้แต่ในไลน์โปรดัคส์ของหูฟังเอียร์บัดก็มีกับเค้าเหมือนกัน แถมยังเป็นหูฟังเอียร์บัดที่มีประสิทธิภาพสูงซะด้วย
FF3 และ FF5 เป็นสองพี่น้องร่วมซีรี่ส์กันครับ โดยทั้งสองก็จะมีข้อแตกต่างในรายละเอียดเล็กๆน้อย ซึ่งเดี๋ยวเราจะพูดถึงภายนอกของทั้งคู่กันก่อนครับ
เริ่มกันด้วย FF3 ที่เป็นรุ่นราคาน่ารักที่สุด ก็ยังให้บอดี้ที่โครงสร้างทำมาจากสแตนเลสขัดเงาเกรด 316L มาเลย เป็นวัสดุที่ดีในแง่น้ำหนักที่เบาและความทนทานครับ FF3 มีลวดลายที่โดดเด่นบริเวณ faceplate แล้วก็ยังมีให้เลือกอีกสองสีคือสีดำกับสีเงินครับ
จริงๆแล้ว FF3 ไม่ได้ออกแบบให้มีแค่ความสวยงามนะครับ ตัวเฮาส์ซิ่งยังมีระบบ acoustic tube ที่ช่วยระบายแรงดันอากาศ ส่งผลให้การตอบสนองย่านความถี่ต่ำดีขึ้นด้วย
ขยับมาดู FF5 กันบ้างครับ หน้าตาจะดูดุดันกว่า FF3 ซะหน่อย บอดี้จะเป็นโลหะผสมอลูมิเนียม CNC สัมผัสที่ได้จะดูมีน้ำหนัก ดูบึกบึนขึ้น สำหรับ FF5 จะมีให้เลือกใช้แค่สีเดียวคือสีดำครับ
ที่ด้านหลังของเฮาส์ซิ่งเราจะเห็นเป็นแนวตะแกรงโลหะด้านใน ออกแบบมาให้ลดปัญหาของเสียงสะท้อนหรือการสั่นสะเทือนด้านในตัวหูฟัง ซึ่งก็เป็นการทำให้ระบบอะคูสติคดีขึ้นนั่นเอง โดยเฉพาะการโฟกัสพวกความถี่ต่ำครับ
ระบบไดรเวอร์ของตระกูล FF
ถ้าพูดถึงหูฟังประเภทเอียร์บัด ไดรเวอร์คู่บุญก็คงหนีไม่พ้นระบบไดนามิคนี่ล่ะครับ ลักษณะไดรเวอร์ของทั้ง FF3 และ FF5 มีความใกล้เคียงกันครับ แน่นอนว่าเป็นไดรเวอร์ Dynamic อย่างที่เราเกริ่นไว้ โดยมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางอยู่ที่ 14.2mm. เท่ากันทั้งคู่
ความแตกต่างจะมาตกอยู่ที่วัสดุที่ใช้ครับ เริ่มกันที่ FF3 จะเป็น Beryllium บวกกับ PU gasket พร้อมทั้งมีวอยซ์คอยล์ Daikoku ทองแดงเส้นผ่านศูนย์กลางเพียง 0.033 mm. มีหน้าที่ทำให้ระบบไดรเวอร์สามารถตอบสนองสัญญาณได้ว่องไว
ส่วนของ FF5 จะเปลี่ยนวัสดุมาเป็น Carbon-Based Composite บวกกับ PU gasket ซึ่งทำให้ความสามารถในการตอบสนองต่อ Transient ของเสียงดีขึ้น ถ้าเทียบกับ FF3 แล้วตัวของ FF5 จะให้ย่านกลางและเแหลมที่ดีขึ้น รวมถึงการแยกแยะรายละเอียดเสียงต่างๆด้วย
สายสัญญาณของทั้งสองรุ่น
จุดเด่นของหูฟังทั้งสองรุ่นที่ต้องขอพูดก่อนเลยก็คือสามารถถอดเปลี่ยนหัวแจ็คได้เลย ในชุดจะให้มาทั้งขนาด 3.5mm. และ 4.4mm. ช่วยให้ใช้งานได้สะดวกมากครับ ไม่ต้องเปลี่ยนสายให้ยุ่งยาก แต่สำหรับ FF5 จะเปิดโอกาสให้คุณอัพเกรดสายได้ด้วย เพราะใช้ขั้วต่อแบบ MMCX ส่วน FF3 จะหมดสิทธิ์ครับไม่สามรถถอดเปลี่ยนสายได้
ตัวนำสัญญาณภายในสายจะเหมือนกันทั้งคู่ครับ ใช้สายทองแดงชุบเงิน Monocrystalline แต่จะต่างกันที่จำนวนขดลวดภายในโดย FF3 จะมีอยู่ทั้งหมด 152 เส้น ส่วน FF5 ให้เพิ่มมาอีกเท่าตัวอยู่ที่ 392 เส้น ฉะนั้นก็จะมีประสิทธิภาพในการนำสัญญาณที่ดีกว่าครับ
ชุดของแถมที่ให้มา
FiiOให้ฟองน้ำหูฟังสำหรับ FF3 มาถึงสามแบบครับ โดยมีให้เลือกใช้ตามแนวเสียงที่ต่างกัน คือมีทั้งแบบเพิ่มเสียงเบส, แบบเน้นเสียงแหลม หรือแบบที่ทำให้ทุกย่านความถี่มีความบาลานซ์เท่าๆกัน
สำหรับ FF5 ก็ให้ฟองน้ำหูฟังทั้ง 3 แบบมาเช่นเดียวกันครับ แต่ที่พิเศษกว่าก็จะมี anti-slip silicone rings หรือยางซิลิโคนกันลื่นมาให้ด้วยครับ ทำให้เราสามารถใส่หูฟังได้กระชับแน่นหนายิ่งกว่าเดิม
FiiO FF Series
ถ้าดูจากสเปคแล้วก็ต้องบอกว่า FF5 ยังคงดูโดดเด่นกว่า FF3 ในทุกๆจุดครับ ยกเว้นเรื่องของดีไซน์ซึ่งอันนี้ก็ต้องแล้วแต่ความชอบเลย อันที่จริงก็ต้องบอกว่าบางทีอย่าพึ่งไปสนใจเรื่องของตัวเลข เรื่องของสเปคกันเกินไปครับ ของแบบนี้มันต้องลองฟังเท่านั้นถึงจะบอกได้ว่ารุ่นไหนจะถูกใจจ๊อดมากกว่ากัน เพราะว่าทั้ง FF3 และ FF5 ต่างก็เป็นหูฟังเอียร์บัดที่มีดีกันทั้งคู่ครับ