FiiO UTWS3 vs UTWS1 ดูคล้ายกัน แต่ข้างในอัพเกรดไปอีกขั้น
เปลี่ยนหูฟัง in-ear ตัวโปรดของคุณให้กลายเป็นหูฟัง True Wireless ได้อย่างง๊าย ง่ายด้วย FiiO UTWS3 และ UTWS1 สองโมดูล Bluetooth ที่ฟังค์ชั่นครบๆและราคาไม่แรง แต่ก็มีความแตกต่างกันอยู่บ้าง ต้องลองมาดูกันครับว่ารุ่นไหนถึงจะเหมาะกับการใช้งานของเรามากกว่ากัน
FiiO UTWS3 & UTWS1 True Wireless Bluetooth Module
จุดที่เหมือนกัน
- ชิปเซ็ตบลูทูธ Qualcomm QCC3020 รองรับ Bluetooth 5.0
- รองรับ Codec aptX / AAC และ SBC
- มีให้เลือกใช้งานทั้งขั้ว MMCX และ 0.78mm
- มีไมค์โครโฟนในตัวสำหรับใช้โทรศัพท์
- มีปุ่มควบคุมการทำงานและปรับระดับเสียง
จุดที่แตกต่าง
FiiO UTWS3
- มาพร้อมชาร์จเคสที่สามารถเก็บหูฟังได้หลายขนาด
- แอมป์ TPA6140A2 ให้กำลังขับสูง รองรับหูฟังหลายไดรเวอร์
- สามารถปรับแต่งการใช้งานเพิ่มเติมได้ด้วย FiiO Music App
- ระบบ Dual Microphone ช่วยให้การสนทนาชัดเจนยิ่งขึ้น พร้อมระบบตัดเสียงรบกวน CVC
- ระบบ Dual Direct Connections ทำให้เลือกใช้หูฟังเป็น Host ได้ทั้งสองข้าง
- มาตราฐานความทนทานระดับ IPX4 กันน้ำได้
- ใช้งานต่อเนื่องได้ประมาณ 5 ชั่วโมง และชาร์จผ่านเคสเพิ่มได้รวมเป็น 30 ชั่วโมง
FiiO UTWS1
- เคลือบ Nano Coat กันละอองน้ำ
- ระบบตัดเสียงรบกวน QCC สำหรับไมค์โครโฟน
- ใช้งานต่อเนื่องได้ประมาณ 8 ชั่วโมง และแสตนด์บายได้สูงสุด 180 ชั่วโมง
- รองรับโหมด Individual และ Binaural
FiiO UTWS3 vs UTWS1
ระบบ Bluetooth
ดูเผินๆแล้วทั้งสองรุ่นนั้นใกล้เคียงกันมากเลยทีเดียวครับ ก็แน่ล่ะเพราะว่าเป็น Bluetooth Module รุ่นพี่รุ่นน้องนี่นา ทำให้ไฮไลท์หลักๆในส่วนของชิปเซ็ทบลูทูธนั้นเหมือนกันเป๊ะครับ ทำงานด้วย ชิปเซ็ต Qualcomm QCC3020 สามารถรองรับ Bluetooth 5.0 ได้ ช่วยให้มีความเสถียรของการรับสัญญาณที่ดี และยังมีระยะทำการที่ไกล นอกจากนั้นก็ยังมีข้อดีในเรื่องความประหยัดพลังงานอีกด้วยครับ
ส่วนของ codec ที่รองรับก็ยังคงเหมือนกันครับ เริ่มตั้งแต่ codec มาตราฐานอย่าง SBC ถัดไปก็จะเป็น codec สำหรับชาว iOS อย่าง AAC ซึ่งจะทำให้ FiiO UTWS ทั้งสองรุ่นน่าเล่นมากๆในการไปจับคู่ใช้งานกับ Apple Music ที่มีไฟล์ Lossless ให้ใช้งานแล้ว
และ codec สุดท้ายก็คือ aptX ซึ่งมีคุณภาพเสียงที่ดีที่สุด
การเชื่อมต่อ
ทั้งสองรุ่นสามารถใช้งานกับหูฟัง IEM ที่รองรับขั้วต่อแบบ MMCX และ 0.78mm ซึ่งก็เป็นขั้วต่อแบบยอดฮิตทั้ง 2 รุ่น หูฟังส่วนใหญ่ที่สามารถถอดเปลี่ยนสายได้มักจะใช้งานขั้วต่อ 2 รูปแบบนี้กันอยู่แล้วครับ
การใช้งาน
ในการใช้งานโดยๆทั่วไปทำได้ใกล้เคียงกันครับ ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลงทั่วๆไป มีไมค์โครโฟนมาให้ในตัวพร้อมระบบตัดเสียงรบกวนที่ช่วยให้เสียงพูดของเราชัดเจน แต่ระบบตัดเสียงรบกวนของรุ่นพี่ UTWS3 จะดีกว่าเล็กน้อยนะครับ ทั้งคู่ยังมีปุ่มควบคุมการทำงานมาให้ที่ตัวโมดูล ใช้สำหรับควบคุมการเล่นเพลง, ปรับระดับเสียง และใช้ในการรับหรือวางสายโทรศัพท์ครับ
FiiO UTWS3 สำหรับคนชอบความครบเครื่อง
สำหรับพี่ใหญ่ UTWS3 จะมีลูกเล่นที่โดดเด่นกว่าในบางจุดครับ เริ่มกันที่แอมป์ TPA6140A2 ที่ทำให้ UTWS3 มีกำลังขับที่ดีกว่า รองรับหูฟังได้ถึง 32 โอห์ม พวกหูฟัง IEM หลายไดรเวอร์หรือหูฟังไฮบริดสามารถใช้งานได้สบาย และยังเป็นจุดที่ทำให้ UTWS3 มีคุณภาพเสียงที่นำหน้า UTWS1 อยู่ด้วยครับ
อีกจุดนึงที่ UTWS3 ค่อนข้างจะกินขาดก็คือมีชาร์จเคสมาให้ด้วย ทำให้สะดวกในการพกพาไปใช้งานมากกว่า สามารถชาร์จเพิ่มได้ร่วม 30 ชั่วโมงการใช้งาน ตัวเคสก็มีขนาดค่อนข้างใหญ่สามารถรองรับหูฟังได้ทุกขนาดแน่นอน แต่ UTWS3 จะมีชั่วโมงการใช้งานต่อเนื่องที่น้อยกว่า UTWS1 ประมาณ 3 ชั่วโมงครับ ส่วนนึงมาจากระบบแอมป์ที่กินพลังงานมากกว่าด้วย
ตัวโมดูลสามารถเลือกได้อิสระว่าจะให้ข้างไหนเป็น Host ไม่ได้บังคับเหมือนกับหูฟัง TWS บางรุ่นที่จะมีข้างนึงเป็น Host อีกข้างเป็น Slave แถมยังเลือกใช้งานหูฟังข้างเดียวก็ได้ครับ ซึ่งจะเหมาะกับการสนทนาทางโทรศัพท์มากครับ
ด้านความทนทานก็ยังเหนือกว่าด้วยมาตราฐาน IPX4 สามารถกันน้ำได้ระดับนึงเลยล่ะ แต่อย่าให้โดนน้ำดีกว่าครับ เพราะหูฟังบางรุ่นก็ไม่ได้กันน้ำด้วยนะ ฮ่าๆ อีกจุดนึงที่ UTWS3 จะมีภาษีดีกว่าก็คือสามารถปรับแต่งการใช้งานเพิ่มผ่าน FiiO Music App ด้วยครับ
FiiO UTWS1 สุดจัดประหยัดกว่า
ถึงลูกเล่นจะน้อยกว่าแต่ UTWS1 ก็ยังถือว่าน่าใช้ไม่แพ้กันครับ ใครที่ใช้หูฟัง IEM ซึ่งไม่ได้บริโภคพลังงานสูง UTWS1 ก็เป็นตัวเลือกที่เวิร์คมาก แถมยังช่วยให้คุณประหยัดงบลงไปได้อีกเกือบหนึ่งพันบาท
ลูกเล่นที่น่าสนใจของ UTWS1 ก็คือโหมด Individual และ Binaural ซึ่งจะทำให้เราสามารถใช้หูฟังข้างเดียวแล้วแบ่งให้หวานใจฟังอีกข้างโรแมนติคไปกับเสียงเพลงพร้อมๆกันได้ครับ ส่วนในยามปกติก็ฟังแบบสเตอริโอด้วยโหมด Binaural ปกติได้ครับ
ด้านความทนทานถึงจะไม่ได้ IPX4 แต่ก็เคลือบ Nano Coating มาให้ซึ่งจะช่วยกันเหงื่อหรือละอองน้ำได้ในระดับนึง ซึ่งก็เหมาะสำหรับผู้ที่จะนำหูฟังไปใช้ใส่ออกกำลังกายครับ
ส่วนชั่วโมงการใช้งานจุดนี้เรียกว่าเหนือกว่า UTWS3 ซะอีกเพราะใช้งานได้ยาวรวดเดียว 8 ชั่วโมงเลยทีเดียว เสียอย่างเดียวว่าไม่มีชาร์จเคสมาให้ ถ้าแบตหมดก็ต้องเอาสาย USB ไปหาที่ชาร์จเสียบแทนนะครับ