FitEar DC Ti VS TITAN หูฟังไทเทเนี่ยมกับความเหมือนที่แตกต่าง
FitEar น่าจะเป็นค่ายหูฟังค่ายเดียวในโลกที่เลือกเอาไทเทเนี่ยมมาเป็นวัสดุในการสร้างหูฟังนะครับ จากตอนแรกที่ประเดิมด้วยรุ่น TITAN มาเป็นลำดับแรกทาง FitEar ก็ยังไม่หยุดพัฒนาและปรับปรุงรุ่น DC Ti ตามมาทำให้ตอนนี้ FitEar มีหูฟังอินเอียร์มอนิเตอร์แบบไทเทนี่ยมอยู่ 2 รุ่นด้วยกันครับ
FitEar Titanium CIEM
FitEar DC Ti | FitEar TITAN |
Driver แบบ Hybrid ระหว่าง Electrostatic และ Dynamic | Driver แบบ Hybrid ระหว่าง Balanced Armature และ Dynamic |
ไม่มีสายมาให้ สามารถเลือกแมทช์สายได้ตามต้องการ | สายหูฟัง CreatorCable C108 ออกแบบพิเศษสำหรับ TITAN |
ดีไซน์บอดี้แบบ Short Leg Shell | ดีไซน์บอดี้แบบ Short Leg Shell |
สองหูฟัง CIEM บอดี้ไทเทเนี่ยมหนึ่งเดียวในโลก
FitEar ทำให้วงการหูฟังต้องตื่นเต้นเมื่อได้เปิดตัวหูฟังคัสต้อมที่ทำจากไทเทเนี่ยมเป็นตัวแรกของโลกและหูฟังรุ่นนั้นก็คือ TITAN นั่นเองครับ
ที่ทำให้นักฟังทั่วโลกต้องร้องว้าวแน่นอนก็เพราะว่าไม่เคยมีใครอาจหาญเอาไทเทนี่ยมมาสร้างหูฟังมาก่อน อย่างเก่งก็เป็นวัสดุส่วนประกอบของไดรเวอร์เท่านั้น แต่การที่ FitEar สามารถเอาวัสดุโลหะระดับไฮเอนด์ที่ขึ้นเชื่อเรื่องค่าตัวและความยากในการสร้างมาขึ้นรูปเป็นหูฟัง CIEM ตัวเล็กได้ก็ต้องนับว่ายอดเยี่ยมมากทีเดียวเชียว
ด้วยฝีมือของ FitEar บวกกับ Suyama Dental Laboratory ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในการผลิตบอดี้ของหูฟังคัสต้อมพวกเค้าไม่ได้หยุดอยู่แค่ TITAN เท่านั้น ยังมีการอัพเกรดรุ่นน้องร่วมซีรี่ส์อย่าง FitEar DC ให้มาในโฉมใหม่ด้วยบอดี้ไทเทเนี่ยมในรหัสใหม่ DC Ti นั่นเองครับ
Short Leg Shell Design รูปแบบเฉพาะตัวของ FitEar
นอกจากไฮไลท์ของตัววัสดุแล้วทั้ง TITAN และ DC Ti จะมีรูปแบบของบอดี้ที่เป็นเอกลักษณ์ของ FitEar อยู่ครับนั่นก็คือดีไซน์แบบ Short Leg Shell นั่นเอง
ดีไซน์แบบ Short Leg Shell นั้นเดิมทีเริ่มต้นมาจากหูฟังรุ่น Air ของ FitEar เองครับ ลักษณะบอดี้หรือ shell จะมีก้านท่อนำเสียงสั้นลงกว่าปกติตามชื่อเลยครับ
ดีไซน์แบบนี้ทำมาเพื่อรองรับหูฟังที่มีไดรเวอร์ไดนามิคเป็นส่วนประกอบโดยเฉพาะ สาหตุก็เพราะว่าโดยปกติหูฟังคัสต้อมที่ใช้ไดรเวอร์แบบไดนามิคมักจะมีการออกแบบช่องระบายอากาศภายในหรือที่เรียกกันว่า “Vent” เพื่อช่วยควบคุมแรงดันอากาศ แต่ปัญหาของระบบนี้จะทำให้เสียงรบกวนภายนอกสามารถเล็ดลอดเข้ามาได้ง่ายทำให้คุณภาพเสียงที่แท้จริงของหูฟังไม่ดีเท่าที่ควร
ทาง FiEar เลยออกแบบบอดี้ใหม่พร้อมขึ้นรูปบอดี้ด้วยเครื่องเครื่องปรินท์ 3 มิติ ทำให้ไม่ต้องสร้างช่องระบายอากาศบนตัวหูฟัง ผลที่ตามมาคือการตอบสนองของไดรเวอร์แบบไดนามิคที่ทำได้ดีขึ้น แต่ยังสามารถป้องกันเสียงรบกวนภายนอกได้เหมือนเดิมครับ
ระบบ Driver ที่แตกต่างกัน
ถึงจะสร้างจากไทเทเนี่ยมและใช้ดีไซน์แบบเดียวกัน แต่สิ่งที่ทำให้ TITAN และ DC Ti แตกต่างกันอย่างชัดเจนก็คือระบบไดรเวอร์นั่นเองครับ
จริงๆแล้วทั้งคู่มีรูปแบบไดรเวอร์ที่เหมือนกันอย่างนึงนั่นคือคือใช้ระบบไดรเวอร์แบบผสมหรือ Hybrid Driver แต่สำหรับ TITAN จะใช้คอมบิเนชั่นระหว่าง Balanced Armature และ Dynamic ซึ่งเป็นระบบที่ถูกถอดแบบมาจากรุ่น Air2 แถมยังได้ค่าย Fostex มาร่วมพัฒนาไดรเวอร์ด้วย ซึ่งไดรเวอร์ full-range dynamic ทำให้หูฟังตอบสนองย่านความถี่ต่ำได้ดี และถูกชดเชยความสามารถในย่านความถี่กลางไปจนถึงสูงด้วยไดรเวอร์ balanced armature ทำให้ได้คาแรคเตอร์เสียงที่คมชัดจะแจ้งครับ
ส่วนของ DC Ti ก็แน่นอนว่ายกระบบไดรเวอร์มาจากรุ่น DC ดั้งเดิมนั่นก็คือ Electrostatic บวกกับ Dynamic แน่นอนว่าในความถี่ต่ำไปจนถึงเสียงกลางยังเป็นหน้าที่ไดรเวอร์ไดนามิคเช่นเดิม แต่หรับเสียงแหลมจะถูกดูแลด้วย Electrostatic ซึ่งเป็นไดรเวอร์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการถ่ายทอดเสียงแหลมอันยอดเยี่ยมอยู่แล้วครับ
สายสัญญาณก็ต้องคู่ควร

หูฟังระดับเรือธงทั้งคู่สายที่ให้มาก็ต้องไม่ธรรมดาเช่นกัน โดยในฝั่งของ TITAN จะมาพร้อมกับสายหูฟังจาก CreatorCable C108 ที่ออกแบบพิเศษให้แมทช์กับ TITAN โดยเฉพาะ บอกเลยว่าเฉพาะค่าตัวสายก็ไม่ะรรมดาแล้วล่ะครับ
ส่วนของ DC Ti ทาง FitEar เลือกที่จะไม่แถมสายมาให้ แต่ปล่อยให้ผู้ใช้สามารถเลือกแมทช์หูฟังได้อิสระว่าอยากจะได้โทนเสียงแบบไหน ซึ่งสายหูฟังที่เราแนะนำก็อยู่ใน ลิสท์นี้ ครับ
ทั้ง FitEar TITAN และ DC Ti ต่างก็ให้น้ำเสียงที่คมชัดเต็มไปด้วยรายละเอียดสไตล์หูฟังมอนิเตอร์ระดับ Hi-Res ครับ ในแง่ของคาแรคเตอร์ต้องแล้วแต่ความชอบ แต่ในเรื่องวัสดุและดีไซน์ต้องยอมรับในความสวยงามและความทนทานระดับสุดยอดจริงๆครับ รับรองว่านี้จะเป็นหูฟังที่อยู่กับคุณไปแบบยาวโดยไม่บุบสลายแน่นอนครับ