FOCAL Radiance VS Celestee หูฟังรุ่นใหม่ล่าสุดจาก FOCAL

Radiance และ Celestee สองหูฟังรุ่นใหม่ล่าสุดจากค่ายยักษ์ใหญ่เมืองน้ำหอมอย่าง Focal ซึ่งได้รับการปรับปรุงโดยใช้หูฟัง Closed-Back รุ่นท็อปอย่าง Stellia มาเป็นแม่แบบ โดยยังคงความสวยงามเฉพาะตัวและสุ้มเสียงสไตล์ Audiophile ที่แฟนๆชื่นชอบในค่าตัวที่ถูกลงมากกว่าครึ่ง รับประกันว่าถ้าได้ลองแล้วจะวางไม่ลงแน่นอนครับ

FOCAL Radiance VS Celestee

1. หูฟัง Closed-Back คู่เหมือนที่แตกต่าง

ทั้ง Radiance และ Celestee จัดเป็นหูฟัง Closed-Back ระดับกลางของ Focal ทั้งคู่ครับ สเปคของทั้ง 2 รุ่นนั้นใกล้เคียงกันชนิดที่เรียกว่าถอดแบบกันมาเลยก็ว่าได้ ข้อแตกต่างสำคัญจะอยู่ที่รูปร่างหน้าตาของทั้งคู่มากกว่าครับ โดยเฉพาะ Radiance จัดเป็นรุ่นพิเศษที่ออกแบบมาสำหรับค่ายรถยนต์สุดหรูอย่าง Bentley มีรูปลักษณ์สีดำดุดันตัดกับทองแดง พร้อมโลโก้ Bentley ที่บริเวณ Headband ขอบอกว่าสวยงามลงตัวมากๆครับ บนตัวหูฟังและหัวแจ็คก็ยังออกแบบเป็นลวดลายที่เรียกว่า ‘Diamond’ motif  อันเป็นเอกลักษณ์อีกอย่างของ Bentley นั่นเองครับ เรียกว่า Radiance เป็นหูฟังอีกรุ่นของ Focal ที่มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์มากๆครับ

ส่วนของ headband และ ear pads ก็ยังถูกห่อหุ้มด้วยหนัง “Pittard” อย่างดีให้ความรู้สึกนุ่มสบายไม่ต่างกับการนั่งบนเบาะหนังสุดหรูบนรถ Bentley เลยล่ะครับ

ถัดมาที่ Celestee กันบ้าง ซึ่งมีรูปร่างที่แถบจะถอดแบบมาจาก Stellia เลยทีเดียว ยกตัวอย่างเช่นลวดลายบนตัวหูฟัง แต่ภายนอกก็ถูกปรับรูปโฉมด้วยสีสันใหม่อย่าง Navy Blue ตัดกับ Soft Copper ที่ยังคงเน้นความหรูหราเช่นเดิม แต่ที่ Focal เลือกใช้โทนสีนี้ก็เพื่อให้ Celestee สามารถใช้งานได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ทั้งดูขรึมและนุ่มนวลภายในตัวเดียวครับ

ส่วนของ headband และ earcup ของ Celestee จะใช้หนังแบบ “Semi-Aniline” ซึ่งเป็นหนังที่มีสัมผัสดีแล้วก็ยังมีความทนทานสูงเป็นพิเศษอีกด้วยครับ

2.ใช้เทคโนโลยี “M” Shape Dome อันเลื่องชื่อของ Focal

ทั้งสองรุ่นยังมีจุดร่วมกันอีกอย่างนึงก็คือเทคโนโลยี “M” Shape Dome ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของทาง Focal ครับ ซึ่งก็คือไดรเวอร์แบบ Full Range ขนาด 40 มิลลิเมตร ทรงโดมคว่ำรูปตัว “M” ทำมาจากอลูมิเนียม และ แมกนีเซียม ทำให้ได้คุณภาพเสียงยอดเยี่ยมของหูฟังระดับไฮเอนด์เอาไว้เช่นเดิม สามารถตอบสนองย่านความถี่ได้กว้างมากๆตั้งแต่ 5Hz ไปจนถึง 23 kHz เลยทีเดียว

ในรุ่น Celestee นอกจากระบบไดรเวอร์ที่ดีแล้วภายใน Earcup ยังถูกออกแบบเรื่องของ Acoustic Treatment ใหม่ทั้งหมด มีทั้ง Diffuser และ Absorber ที่ช่วยลดเรื่องของเรโซแนนซ์ที่จะเกิดขึ้นภายในตัวหูฟังได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ก็ยังมีส่วนของระบบระบายอากาศ (Ventilation) เพื่อช่วยลดปัญหา Distortion ที่จะเกิดขึ้นได้อีกด้วยครับ

กลับมาที่ Radiance บ้างครับ เพราะนอกจากระบบอะคูสติคที่ยอดเยี่ยมแล้วก็ยังได้รับการพัฒนาพาร์ทอิเล็คโทรนิคร่วมกับ Naim ค่ายผู้ผลิต Amplifier ชื่อดังจากประเทศอังกฤษอีกด้วยครับ บอกเลยว่าจัดเต็มไม่แพ้ Celestee ครับ

3. ใช้งานได้ทุกสถานที่ ทุกอุปกรณ์

จุดเด่นของหูฟังทั้งสองรุ่นนอกจากคุณภาพเสียงระดับ Audiophile แล้วก็ยังมีความสะดวกในการใช้งานเป็นเลิศครับ เนื่องด้วยพื้นฐานของหูฟัง Closed-Back ที่ใช้งานได้ดีในทุกสถานที่ ไม่ว่ารอบข้างจะเอะอะวุ่นวายแต่ตัวหูฟังก็ยังสามารถป้องกันเสียงรบกวนได้เป็นอย่างดีครับ

ถัดมาจะเป็นเรื่องของ impedance ซึ่งอยู่ที่ 35 Ohms เท่ากันทั้งคู่ จัดว่าเป็นค่าความต้านทานที่ไม่สูงจนเกินไป จะใช้งานกับสมาร์ทโฟนก็พอไหว ถ้าได้จับคู่กับเพลเยอร์ก็ยิ่งเลิศ หรือถ้าได้แมทช์กับแอมป์ดีๆก็ยังขยายขอบเขตคุณภาพเสียงไปได้ไกลขึ้นอีก สรุปได้ว่าทั้ง Radiance และ Celestee เป็นหูฟังที่ใช้งานได้กับทุกอุปกรณ์เลยล่ะครับ

ทั้งคู่ยังมาพร้อมกับ Carrying Case อย่างดีที่มีสีสันเข้ากับหูฟังแต่ละรุ่น พร้อมกับมีสายสัญญาณมาให้คนละ 1 เส้น เป็นสายขนาด 3.5mm TRS Jack connector ความยาว 1.2 เมตร จัดว่ายาวกำลังดีเหมาะแก่การใช้งานกับสมาร์ทโฟนและ DAP ครับ แน่นอนว่ามีอะแดปเตอร์ขนาด 6.35mm มาให้เผื่อใช้งานกับ DAC/Amp ได้ด้วยครับ

Focal Radiance Specs

Type : Circum-aural closed-back headphones

Impedance : 35 Ohms

Sensitivity : 101dB SPL / 1mW @ 1kHz

THD : 0.1% @ 1kHz / 100 dB SPL

Frequency response : 5Hz–23kHz

Loudspeaker : 1.625″ (40mm) Aluminum/Magnesium “M” shape dome

Weight : 0.96lb (435g)

Cables provided : • 1 x 4ft OFC 24 AWG cable with 1/8″ (3.5mm) TRS Jack connector • 1 x Jack adapter, 1/8″ (3.5mm) female – 1/4″ (6.35mm) male

Carrying case provided : 9-7/8″ x 9-1/2″ x 4-3/4″ (250 x 240 x 120 mm)

 

Focal Celestee Specs

Type : Circum-aural closed-back headphones
Impedance : 35 Ohms
Sensitivity : 105dB SPL / 1 mW @ 1 kHz
THD : 0,1 % @ 1 kHz / 100 dB SPL
Frequency response : 5Hz – 23kHz
Loudspeaker : 15/8″ (40mm) Aluminum / Magnesium ‘M’-shaped dome
Weight : 0.95lb (430g)
Cables provided
• 1 x 1 x 4 ft. (1.2m) OFC 24 AWG cable with 1/8″ (3.5mm) unbalanced TRS Jack connector
• 1 x 1 x Jack adapter, 1/8″ (3.5mm) point socket 1/4″ (6.35mm) point plug
Carrying case provided : 97/8×91/2×43/4″ (250x240x120mm)