HiBy R6 2020 VS R8 DAP เทพชนรองเทพ จะเล่นทั้งทีต้องไปรุ่นไหน?
HiBy R6 2020 และ HiBy R8 สองทูท็อปประจำค่ายที่หลายสำนักยกนิ้วโป้งมอบเยี่ยมให้ถ้วนหน้า โดยเฉพาะ R6 2020 ที่ถูกอัพเกรดขึ้นดีกว่าเดิมจน R8 ยังต้องสะเทือน ใครที่สนใจหา DAP ระดับเทพมาใช้งานซักเครื่องต้องลองมาดูกันครับว่าจะจบที่รุ่นรองท็อปหรือขยับไปสุดทางที่รุ่นเรือธงถึงจะเหมาะกับเราที่สุดครับ
HiBy R6 2020 VS HiBy R8 DAP
1. เทียบชั้น ความแรง และคุณภาพ DAC
HiBy R8 : หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 660 SoC / DAC Dual AKM4497 / ระบบ Clock Dual Oscillator
HiBy R6 2020 : หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 660 SoC / DAC Dual ES9038Q2M / ระบบ Clock Dual Oscillator
จากการอัพเดทล่าสุดของ HiBy R6 2020 ทำให้ระบบซีพียูนั้นขึ้นไปเทียบชั้นกับ HiBy R8 เป็นที่เรียบร้อย พร้อม RAM 4GB เท่ากันเป๊ะ ฉะนั้นในเรื่องความไวในการทำงานร่วมกับ OS Android นั้นว่องไวหายห่วงทั้งคู่ครับ ลืมบอกไปว่า R6 นั้นก็พึ่งอัพเดทมาเป็น Android 9 เช่นเดียวกับ R8 ครับ
สิ่งที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนยังคงเป็นภาคคอนเวอร์เตอร์หรือ DAC ซึ่งเป็นคนละค่ายเลย ถึงแม้ว่าตามสเปคแล้วจะให้ความละเอียดที่เท่ากันนั่นคือ PCM 32Bit / 768kHz และ DSD512 แต่ตามเนื้อเสียงแล้ว R8 ก็ยังคงให้คุณภาพเสียงที่ดีกว่าครับ แต่ทาง HiBy ก็ยังคงคุณภาพเสียงของ R6 เอาไว้ด้วยระบบ Clock Dual Oscillator แบบเดียวกับ R8 ทำให้ความแม่นยำในการถ่ายทอดสัญญาณนั้นสูงมาก บอกได้เลยว่า R6 ก็ยังคงมาตราฐานที่ยอดเยี่ยมเอาไว้มีมีผิดหวังครับ
2. หน้า จอใหญ่ ไซส์ใกล้เคียงกัน
HiBy R8 : จอแสดงผล IPS LCD ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD พร้อมกระจก Corning Gorilla Glass
HiBy R6 2020 : หน้าจอ IPS ขนาด 5.0” Full HD 1080P พร้อมกระจก Corning Gorilla Glass
ขนาดจอของรุ่นท็อปอย่าง R8 ยังคงใหญ่กว่า 0.5 นิ้วครับ ถือว่าใกล้เคียงสูสีกันมากเลยทีเดียว ด้านความคมชัดก็แทบจะไม่ต่างกัน เพราะรองรับรายละเอียด Full HD ทั้งคู่ รับรองว่าปกอัลบั้มคมชัดทุกอันแน่นอน ส่วนด้านความทนทานก็ไม่มีปัญหาเพราะเป็นกระจก Corning Gorilla Glass เหมือนกันทั้งคู่ครับ
3. Output ที่กินกันไม่ลง
HiBy R8 : Headphone และ Line Out แบบ Balanced 4.4mm / Headphone และ Line Out แบบ Single-End 3.5mm / USB Digital Out สามารถแปลงออกไปเป็น Coaxial
HiBy R6 2020 : Headphone และ Line Out แบบ Balanced 4.4mm / Headphone และ Line Out แบบ Single-End 3.5mm / USB Digital Out สามารถแปลงออกไปเป็น Coaxial
ด้านของ I/O ตอนนี้ต้องบอกว่าเท่าเทียมกันทั้งคู่ครับ นั้นคือมีทั้ง Headphone และ Line Output แยกให้ใช้งานอย่างชัดเจน แถมยังรองรับทั้ง Single-End และ Balanced ครบถ้วน รวมไปถึงยังมี USB Digital Out ที่สามารถแปลงออกไปเป็น Coaxial ได้อีกครับ
4. รองรับ MQA 16x Unfolding เท่ากันแล้ว
ความสามารถ MQA 16x Support นั้นมีอยู่ใน R8 รวมถึง DAP รุ่นใหญ่หลายๆค่ายอยู่แล้วครับ และเมื่อ R6 ได้รับการอัพเดทก็ถูกเพิ่มความสามารถนี้เข้าไปด้วย ทำให้กลายเป็น DAP ที่ยิ่งโดดเด่นเข้าไปใหญ่เมื่อเทียบกับ DAP ในพิกัดเดียวกัน ใครที่ชอบฟังเพลงกับไฟล์ MQA หรือสตรีมมิ่งผ่าน Tidal ล่ะก็ ทั้ง 2 รุ่นจะทำให้คุณฟังเพลงได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเช่นเดียวกันครับ
5. สั่งการผ่าน HiBy Link ได้เช่นเดียวกัน
ทั้งสองรุ่นรองรับการใช้งาน Bluetooth 5.0 ส่วน Wi-Fi ก็รองรับ Dual Band ใช้งานได้ทั้ง 2.4 GHz และ 5 GHz จะอัพเดทเฟิร์มแวร์หรือโอนถ่ายข้อมูลเพลงก็ใช้งานแบบไร้สายได้เลย
และที่เป็นทีเด็ดของค่ายนี้เลยก็คือเรายังสามารถควบคุมการใช้งานระยะไกลผ่านรีโมทด้วยแอพ HiBy Link บนสมาร์ทโฟนครับ ทำให้เราสามารถเชื่อมต่อทั้ง R6 2020 และ R8 ไว้กับชุดเครื่องเสียงและควบคุมการเล่นเพลงผ่านโทรศัพท์ได้เลย ไม่ต้องเดินไปกดที่ตัวเครื่องให้เมื่อยตุ้มแต่อย่างใดครับ
6. R8 กับแบตที่ใหญ่กว่าเท่าตัว
HiBy R8 : แบตเตอรี่ในตัวความจุ 10,000 มิลลิแอมป์
HiBy R6 2020 : แบตเตอรี่ในตัวความจุ 4,500 มิลลิแอมป์
ในหัวข้อสุดท้ายคงเป็นชัยชนะที่ขาดลอยของ R8 นะครับ เพราะจัดแบตเตอรี่มาให้ใหญ่มากๆถึง 10,000 มิลลิแอมป์ มากกว่า R6 2020 เป็นเท่าตัว สามารถเล่นเพลงต่อเนื่องได้ไม่ต่ำกว่า 15 ชั่วโมงแน่นอนครับ
สรุป
ดูเผินๆแล้ว R6 2020 เหมือนจะใกล้เคียงกับเรือธงอย่าง R8 มากเลยทีเดียวนะครับ แต่ต้องไม่ลืมว่ารุ่นใหญ่เค้ายังคงอัดแน่นด้วยวงจร Op-Amp รวมไปถึง Capacitor คุณภาพสูงอีกแถมยังมี Turbo Mode ซึ่งจะเพิ่มกำลังขับให้แก่เอาท์พุตเพิ่มได้ ทำให้ควบคุมหูฟังที่บริโภคพลังงานสูงๆได้อย่างอยู่หมัด ทำให้ความได้เปรียบยังไงก็ยังหนี R8 ที่เป็นพี่ใหญ่ไปไม่พ้นครับ ก็แน่ล่ะว่าราคาต่างกันตั้งเท่าตัวนี่นา ฮ่าๆ
แต่สำหรับใครที่อยากเซฟเงินในกระเป๋าไว้บ้าง R6 2020 ก็ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆอยู่ดีครับ บอกเลยว่าสเปคระดับนี้เมื่อเทียบกับค่าตัวแล้วคุ้มยิ่งกว่าคุ้มครับผม