Huawei FreeBuds Studio หูฟังไร้สาย มาพร้อม Noise Cancelling สุดโฉบเฉี่ยว

Freebuds Studio อีกหนึ่งสุดยอดหูฟังจาก Huawei ที่ต่อยอดมาจากรุ่น True Wireless อย่าง FreeBuds Pro แต่ออกแบบมาให้ถูกใจคนชอบหูฟังไร้สายแบบฟูลไซส์ ด้านฟังค์ชั่นนั้นยอดเยี่ยมเช่นเดียวกันทั้งคู่ครับ โดยเฉพาะความสามารถด้านการตัดเสียงรบกวนที่คู่แข่งต้องหนาวๆร้อนๆกันเลยทีเดียว

Huawei Freebuds Studio Wireless Headphone

จุดเด่น

• หูฟังไร้สายแบบ Full Size พร้อม Active Noise Cancelling ช่วยตัดเสียงรบกวน
• ใช้ไดรเวอร์แบบไดนามิค พร้อมไดอะแฟรมโพลีเมอร์ 4 ชั้น ขนาด 40 มม.
• เชื่อมต่อแบบไร้สายด้วย Bluetooth 5.2 พร้อม codec ระดับ Hi-Res
• ระบบเสาอากาศคู่ ช่วยให้การเชื่อมต่อนั้นสเถียรและเชื่อมต่อ 2 อุปกรณ์ได้ในเวลาเดียวกัน
• ใช้ไมค์โครโฟนแยกระหว่างการสนทนาและการตัดเสียงรบกวน
• ใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุดถึง 24 ชั่วโมงและรองรับระบบ Quick Charge

ระบบ Active Noise Cancellation อันยอดเยี่ยม

การมาถึงของหูฟัง Active Noise Cancellation จากค่าย Huawei ถือว่าทำได้ยอดเยี่ยมจนหลายๆค่ายที่กรุยทางมาก่อนต้องหันมามองเลยทีเดียวครับ ด้วยระบบชิปเซ็ทที่ฉลาดและไมค์โครโฟนแบบ omnidirection ที่สามารถรับเสียงรอบข้างได้เป็นอย่างดี ทำให้การกำจัดเสียงรบกวนของ Freebuds Studio นั้นมีประสิทธิภาพสูงมากๆครับ นอกจากนั้นก็ยังมีโหมดสำหรับการตัดเสียงรบกวนมาให้เราเลือกใช้งานอีกด้วยครับ

Ultra Mode จะเป็นโหมดที่เปิดใช้งานการตัดเสียงรบกวนอย่างสมบูรณ์แบบ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวในการฟังเพลง

Cozy Mode จะทำให้เราได้ยินรอบข้าง เสียงสนทนาหรือเสียงประกาศ ได้อยู่บ้าง เหมาะสำหรับใช้ในที่ทำงาน

General Mode เป็นโหมดปกติหรือระบบ Passive Noise Cancellation ซึ่งเป็นการลดเสียงรบกวนทางกายภาพเหมือนหูฟังปกติครับ

ที่เจ๋งอีกอย่างก็คือเราสามารถฟังเสียงภายนอกหรือคุยกับผู้อื่นได้โดยไม่ต้องถอดหูฟังครับ แค่กดปุ่ม ANC ที่ตัวหูฟังค้างไว้ก็จะเปลี่ยนมาเป็นโหมด Awareness ซึ่งจะทำให้เราได้ยินเสียงรอบข้างหรือเสียงคู่สนทนาได้ทันที เป็นฟังค์ชั่นที่คล้ายกับหูฟัง ANC ของ Sony นั่นเองครับ

เสียงดีด้วยเทคโนโลยีไดรเวอร์จาก Huawei

นอกจากจะตัดเสียงรบกวนได้ดีแล้ว แต่คุณภาพเสียงเพียวๆของ Freebuds Studio ก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กันเลยทีเดียวครับ ซึ่งก็มาจากชิปเสียงระดับ Hi-Fi บวกกับไดรเวอร์แบบไดนามิคที่มีขนาด 40 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าเป็นขนาดมาตราฐานที่ใช้กันอยู่ในหูฟังฟูลไซส์ส่วนใหญ่ครับ แต่การออกแบบไดอะแฟรมของ Huawei นั้นได้เลือกใช้วัสดุเป็นโพลีเมอร์วางซ้อนกันถึง 4 ชั้น ทั้งหมดนี้ทำให้หูฟังสามารถตอบสนองความถี่ไปได้สูงถึง 48kHz  เรียกได้ว่าผ่านมาตราฐาน Hi-Res ไปได้อย่างสบายๆเลยทีเดียวครับ

ระบบเสาอากาศคู่ที่เป็นอีกจุดเด่นสำคัญ

Huawei Freebuds Studio ทำงานแบบไร้สายผ่านระบบ Bluetooth 5.2 ที่อัพเดทสุดๆ ทำให้การเชื่อมต่อนั้นรวดเร็วและสเถียรมากๆครับ แต่แค่นั้นยังไม่พอเพราะภายในของ Freebuds Studio นั้นมีระบบเสาอากาศแบบคู่ทำให้สามารถครอบคลุมการรับสัญญาณได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่าไม่มีจุดอับสัญญาณก็ว่าได้ครับ ทำให้ความเสถียรในการใช้งานหูฟังรุ่นนี้ต้องบอกว่าสุดยอดจริงๆ

ในการค้นหาและเชื่อมต่อหูฟังครั้งแรกก็ทำได้ว่องไวและเชื่อมต่อได้ง่ายมากๆครับ แถมเมื่อใช้งานครั้งแรกไปแล้วการใช้งานในครั้งต่อๆไประบบก็จะช่วยเชื่อมต่อให้โดยอัติโนมัติอีกด้วย

จุดเด่นของเสาสัญญาณยังส่งผลให้ Freebuds Studio สามารถเชื่อมต่อใช้งานพร้อมกัน 2 อุปกรณ์ได้เป็นอย่างดี ยกตัวอย่างการเชื่อมต่อ Freebuds Studio เข้ากับสมาร์ทโฟนเพื่อฟังเพลงและเชื่อมต่อเข้ากับแทปเล็ทเพื่อดูคลิปวีดีโอ เราสามารถเชื่อมต่อทั้งสองเครื่องได้พร้อมกัน และสลับการใช้งานไปมาได้ในทันที ไม่ต้องไปปลดบลูทูธแล้วเชื่อมต่อใหม่เหมือนหูฟังทั่วๆไป

แบตเตอรี่ที่ถึกทนนาน

ส่วนของความจุแบตเตอรี่นั้นก็อึดไม่ธรรมดาเลยล่ะครับ ด้วยความจุแบตเตอรี่ขนาด 410 mAh ทำให้เราสามารถใช้งานหูฟังได้สูงสุดถึง 24 ชั่วโมงเมื่อปิดการใช้งานโหมด ANC แต่ถ้าใช้งานโหมด ANC ก็จะใช้งานได้ราวๆ 20 ชั่วโมงซึ่งก็ถือว่าอึดมากเลยทีเดียวครับ

แต่ถ้าแบตเตอรี่จะหมดก็ไม่ต้องวอรี่ครับเพราะ Freebuds Studio รองรับระบบ Quick Charge หรือการชาร์จไวมาให้ด้วย โดยการชาร์จแค่เพียง 10 นาทีก็ทำให้เราสามารถใช้งานหูฟังต่อได้ทันทีอีก 5 ชั่วโมงแม้จะเปิดโหมด ANC เอาไว้ก็ตามครับ

ควบคุมการใช้งานง่ายๆแค่ปลายนิ้ว

Huawei Freebuds Studio สามารถควบคุมการใช้งานด้วยระบบสัมผัสที่ด้านข้างของหูฟังครับ โดยการคลิกหรือปัดบนหูฟังด้านขวาจะเป็นการควบคุมเพลงหรือปรับระดับเสียง ยกตัวอย่างเช่น

• ปัดขึ้น : เพื่อเพิ่มระดับเสียงขึ้น
• ปัดลง : เพื่อลดระดับเสียงลง
• ปัดไปทางซ้าย : เพื่อเล่นเพลงก่อนหน้า
• ปัดไปทางขวา : เพื่อเล่นเพลงถัดไป
• ดับเบิลคลิก : เพื่อเล่นเพลง / หยุดเพลงชั่วคราว / รับสาย-วางสาย
• กดค้างไว้ 2 วินาที : เปิดใช้งานระบบสั่งงานด้วยเสียง / ปฏิเสธสาย

นอกจากนั้นยังมีระบบตรวจจับการสวมใส่ โดยเพลงจะหยุดชั่วคราวเมื่อคุณวางหูฟังลงและจะเล่นต่อเมื่อคุณสวมหูฟังอีกครั้งครับ

ใช้งานได้หลากหลายทั้งดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์

Huawei Freebuds Studio ถูกออกแบบให้มีความหน่วงสัญญาณหรือ Latency ที่ต่ำมากๆครับ ทำให้การใช้งานเพื่อเล่นเกมส์หรือดูหนังจะมีอาการดีเลย์ของเสียงน้อยมากๆ ถือว่าเป็นหูฟังไร้สายที่ใช้งานได้อเนกประสงค์จริงๆ

คุณภาพเสียงของ Freebuds Studio ก็จัดอยู่ในหมวดของหูฟังแบบ Over All ที่ใช้ฟังเพลงได้ดีในทุกๆสไตล์ครับ ตัวเนื้อเสียงถูกปรับจูนมาให้ฟังเพราะไม่ว่าจะเจอดนตรีแบบไหนก็ตาม เป็นหูฟังแนวมหาชนที่เชื่อว่าผู้ใช้งานส่วนมากน่าจะชอบกับคุณภาพเสียงแบบนี้ครับ

ใครที่สนใจหูฟังไร้สายแบบฟูลไซส์ที่เสียงดี มีระบบตัดเสียงรบกวนที่ยอดเยี่ยม แถมราคายังจับต้องได้ไม่ยาก Huawei Freebuds Studio ดูจะเป็นอีกหนึ่งคำตอบที่ไม่ควรพลาดการทดสอบพลังเสียงเป็นอันขาดครับ

ข้อมูลจำเฉพาะ

ขนาด
สูง : 165 มม
กว้าง : 150 มม
หนา : 81.5 มม

น้ำหนัก
ประมาณ 260 g
*ขนาดผลิตภัณฑ์น้ำหนักผลิตภัณฑ์และข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องเป็นค่าทางทฤษฎีเท่านั้น การวัดจริงระหว่างผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นอาจแตกต่างกันไป ข้อมูลจำเพาะทั้งหมดขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์จริง

เทคโนโลยีเสียง
การตัดเสียงรบกวน, การตัดเสียงรบกวนระหว่างการโทรสนทนา

เซนเซอร์
เซ็นเซอร์ไมโครโฟน, เซ็นเซอร์ความจุ, เซ็นเซอร์ IMU

ไดร์เวอร์
ไดนามิก 40 มม

การเชื่อมต่อ
เวอร์ชั่นบลูทูธ:บลูทูธเวอร์ชั่น 5.2
Pop-up pair:รองรับ *
การตรวจจับการสวมใส่:รองรับ
* ต้องใช้สมาร์ทโฟนที่ใช้ EMUI 10 ขึ้นไป *

แบตเตอรี่
ความจุแบตเตอรี่ : 410 mAh (นาที) *

ระยะเวลาในการใช้งาน
เล่น 24 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (ปิดใช้งาน ANC)*
เล่น 5 ชั่วโมงต่อการชาร์จเร็ว 10 นาที (เมื่อเปิดใช้งาน ANC)*
เล่นได้ 8 ชั่วโมงต่อการชาร์จเร็ว 10 นาที (เมื่อปิดใช้งาน ANC)*

สายชาร์จ
สาย : USB Type-C

เวลาในการชาร์จ
ประมาณ 60 นาที **
* ค่าปกติ ความจุจริงอาจแตกต่างกันเล็กน้อย ความจุนี้เป็นความจุของแบตเตอรี่ที่ระบุ ความจุแบตเตอรี่จริงสำหรับโทรศัพท์แต่ละเครื่องอาจสูงกว่าหรือต่ำกว่าความจุของแบตเตอรี่เล็กน้อย *
** อ้างอิงจากผลการทดสอบของห้องปฏิบัติการ HUAWEI สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น **

การควบคุม
ปุ่มกด : เชื่อมต่อ, เปิด-ปิดการตัดเสียงรบกวน, เปิด-ปิดเครื่อง
ปุ่มสัมผัส : อยู่ด้านข้างของหูฟัง

ในกล่อง
หูฟัง
เคสสำหรับใส่พกพา
สายชาร์จ USB-C
คู่มือเริ่มใช้งาน
ข้อมูลด้านความปลอดภัย
ใบรับประกัน