iFi Audio GO bar : DAC หางหนูที่คุณภาพดีที่สุด และ แพงที่สุด
iFi Audio เปิดตัวโปรดัคส์ใหม่รอบนี้มาแรงจริงๆกับ GO bar : Dongle DAC หรือ DAC หางหนูรุ่นล่าสุด ที่ทรงประสิทธิภาพมากๆทั้งน้ำเสียงและพลังขับ ชนิดที่ว่า DAC ตั้งโต๊ะทั้งหลายต้องหันมามองค้อนกันเลยทีเดียว
iFi Audio GO bar Premium Portable DAC
HIGHLIGHT
- ชิป DAC 32bit จาก Cirrus Logic รองรับ PCM 32bit/384kHz, DSD Bit-Perfect, MQA เต็มรูปแบบและ DXD 384kHz
- ชิป XMOS แบบ 16 Core ให้ความเร็วสัญญาณนาฬิกาสองเท่า (2000MIPS) และหน่วยความจำสี่เท่า (512KB)
- มี Digital Filter ให้เลือกใช้งาน 4 รูปแบบ
- รองรับ Output Balanced 4.4 mm. และ Unbalanced ระบบ S-Balanced 3.5 mm.
- มาพร้อมฟังค์ชั่น Xbass ช่วยเพิ่มเสียงทุ้ม และ iEMatch เพื่อการใช้งานร่วมกับหูฟังขนาดเล็กที่มีความไวสูง
ขุมพลังระดับ Desktop ในขนาดตัวแบบ Portable
คอนเซปต์ง่ายๆของ iFi Audio ในการออกแบบเจ้า GO bar ก็คือประสิทธิภาพของ DAC-Amp แบบตั้งโต๊ะในขนาดตัวที่คุณพกพาได้สบาย โดยไซส์ของ GO bar อยู่ในพิกัดใกล้เคียงกับ Dongle DAC ในตลาดส่วนใหญ่ครับ มิติของบอดี้จะอยู่ที่ 65 x 22 x 13.2 mm และมีน้ำหนักตัวเพียง 28.5 กรัมเท่านั้น
ภายในของ DAC-Amp ไซส์กะทัดรัดจะเป็นที่ประจำการของชิป DAC 32-bit จาก Cirrus Logic บวกด้วยชิป XMOS แบบ 16 Core ที่ใช้ประมวลผลข้อมูลที่เข้ามาทางอินพุต USB ทำให้ GO bar รองรับการถอดรหัสข้อมูลได้สูงและหลากหลายทั้ง
- 32-bit/384kHz PCM
- DSD256 แบบ Native
- DXD แบบ 2X
- MQA
ออกแบบให้เป็นระบบ Fully Balanced แต้ๆ
นอกจากภาคแปลงสัญญาณและระบบประมวลผลจะดีเยี่ยมแล้ว ภาคขยายก็แจ่มมากๆเช่นกัน ด้วยการออกแบบวงจรแบบ Fully Balanced ทำให้ผู้ที่ใช้หูฟังแบบ 4.4mm. จะรีดประสิทธิภาพจาก GO bar ออกมาได้อย่างสมบูรณ์ทุกหยด
แต่สำหรับผู้ที่ใช้หูฟังแบบ Single-Ended 3.5mm. ก็ไม่ต้องกังวลเพราะ iFi Audio ติดตั้งระบบ S-Balanced ทีเด็ดประจำค่ายมาให้ ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพของระบบ Single-Ended ขึ้นมาได้อีก 50% ด้วยการลดสัญญาณรบกวนและเพิ่มคุณภาพในส่วน Crosstalk
มาดูด้านกำลังขับกันบ้างครับ GO bar สามารถให้กำลังขับสูงสุดได้ที่ 475mW กับหูฟัง 32 โอห์ม และให้กำลัง 7.5V เมื่อใช้งานกับหูฟัง 600 โอห์ม สำหรับหูฟังขนาดเล็กที่มีค่า Sensitivity สูงยังมีระบบ iEMatch ช่วยลดทอนกำลังขับให้แมทช์กับหูฟังขนาดเล็กได้ง่ายขึ้น แถมยังช่วยลดสัญญาณรบกวนได้อีกทางด้วยครับ
แต่กลับกันถ้าต้องเจอกับหูฟังที่บริโภคเก่งเหลือเกินก็ยังมีโหมด Turbo ช่วยเพิ่มกำลังขับให้ได้อีก 6dB เรียกว่ารีดกำลังทุกหยดออกมาใช้ได้เต็มประสิทธิภาพครับ
iFi Audio ยังคงติดตั้งลูกเล่นประจำค่ายอย่าง XBass+ และ XSpace มาให้ GO bar ด้วยครับ ถ้าอยากได้เบสมันส์ๆ หรือมิติเสียงแบบกว้างๆก็ยังปรับแต่งเพิ่มเติมได้เช่นเดิมครับ
ให้ Digital Filter มาอีก 4 โหมด
ทีเด็ดของ GO bar ยังมีซ่อนอีกครับ นั่นก็คือ Digital Filter 4 รูปแบบให้เราเลือกใช้งาน
- Bit Perfect – เป็นโหมดที่ไม่มีการปรับฟิลเตอร์ใดๆทั้งสิ้น
- Standard – ปรับฟิลเตอร์แต่พองาม ให้ซาวด์ที่กลมกล่อม
- Minimum Phase – roll-off ฟิลเตอร์แบบช้าๆนิ่มนวล
- Gibbs Transient Optimised – อันนี้ก็ฟิลเตอร์แบบเบามือเช่นกัน แต่ออกแบบมาเพื่อ Transient ของเสียงเป็นพิเศษ
ชิ้นส่วนภายในวงจรอื่นๆก็ยังอยู่ในระดับ Audio Grade เหมือนกับอุปกรณ์ของค่าย iFi Audio ทุกรุ่น ฉะนั้นก็มั่นใจเรื่องประสิทธิภาพของเค้าได้เช่นเคยครับ
ด้วยคุณภาพระดับ DAC-Amp ตั้งโต๊ะแต่สามารถพกพาไปฟังเพลงที่ไหนก็ได้ ทำให้ GO bar นั้นน่าสนใจมากครับ แถม iFi Audio ยังใจปล้ำมากๆ เพราะให้สาย USB มาทั้งแบบ Lightning และ USB-C จะเป็นฝั่ง iOS หรือว่า Android ก็พร้อมใช้งานทันทีไม่ต้องเปลืองตังค์ไปหาอุปกรณ์เพิ่ม