iFi Audio GO blu VS ZEN DAC ใช้งานในรถ จะเลือกตัวไหนดี
นักฟังเพลงอย่างเราๆจะฟังเพลงในรถทั้งทีคุณภาพมันต้องดีที่สุดจริงมั้ยครับ? ฉะนั้นแล้วต้นทางก่อนที่จะส่งสัญญาณไปยังชุดเครื่องเสียงรถยนต์จึงต้องดีเยี่ยมที่สุด และนั่นก็คือความจำเป็นสำหรับการใช้งาน DAC ในรถยนต์ครับ ซึ่งต้องบอกว่าเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นมากๆจริงถ้าเราอยากได้คุณภาพเสียงภายในรถยนต์ที่ดีจริงๆ และ iFi Audio ก็เป็นค่ายที่ตอบโจทย์ในจุดนี้ให้คุณได้ครับ
iFi Audio GO blu หรือ iFi Audio ZEN DAC?
ในหัวข้อนี้เราขออนุญาตนำเสนอ DAC สองรุ่นจาก iFi Audio ที่สามารถนำไปใช้งานร่วมกับชุดเครื่องเสียงรถยนต์ได้นั่นก็คือ iFi Audio GO blu และ ZEN DAC ครับ ลองมาดูความเหมาะสมในการใช้งานว่ารุ่นไหนจะเวิร์คและตอบโจทย์ลักษณะการใช้งานของคุณมากกว่าครับ
1# ขนาดใครว่าไม่สำคัญ
ขนาดตัวของ DAC ดูจะสำคัญเป็นเบอร์แรกเลยล่ะครับเมื่อคำนึงถึงการใช้งานบนรถยนต์ แน่นอนว่ารถยนต์ส่วนใหญ่ค่อนข้างมีพื้นบนคอนโซลที่จำกัดหรือแม้แต่รถ SUV ขนาดใหญ่เองก็ยังมีพื้นที่การจัดวางที่ไม่ได้ยืดหยุ่นมากนักเมื่อเทียบกับการใช้งาน DAC ที่บ้าน
ฉะนั้นแล้วในหัวข้อนี้ความได้เปรียบจะไปตกอยู่ที่ GO blu มากกว่าทันทีครับ ด้วยขนาดที่เล็กกว่าฝ่ามือคือกว้างยาวเพียง 54×34 mm. เท่านั้น ฉะนั้นเรื่องตำแหน่งการวางนั้นหายห่วงแน่นอน
ในรายของ ZEN DAC เนื่องจากถูกออกแบบมาในลักษณะของ Desktop DAC โดยมีความกว้างและยาวที่ 160x117mm. ทำให้ต้องคิดหนักเรื่องการจัดวางซะหน่อยถ้าคุณมีคอนโซลขนาดเล็ก แต่ถ้าใจรักจริงๆก็สามารถจัดวางได้ไม่ยากครับโดยอาจจะออกแบบให้ติดตั้งซ่อนไว้ด้านข้างของที่วางขาก็ยังได้ เช่นเดียวกับการติดตั้งแอมป์เพิ่มเติมในรถยนต์นั่นเองครับ
2# การเชื่อมต่อเข้ากับชุดเครื่องเสียงรถยนต์
สำหรับการเชื่อมต่อจากตัว DAC เข้าไปยังเครื่องเสียงรถยนต์ ทั้ง GO blu และ ZEN DAC สามารถทำได้เหมือนกันโดยใช้เอาท์พุต 3.5mm. ส่งสัญญาณไปเข้าชุดเครื่องเสียงที่ช่อง AUX IN ได้โดยตรงทั้งคู่ครับ แต่สิ่งที่ต่างกันก็คือการเชื่อมต่อเข้ากับ source ที่เราใช้ฟังเพลงนั่นเองครับ
- GO blu : ตามชื่อรุ่นเลยครับเพราะว่า GO blu ออกแบบให้เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth เราจึงสามารถใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนหรือ DAP ที่มีบลูทูธในตัวได้ทันที ซึ่งก็ถือว่าค่อนข้างสะดวกสบายมากและไม่ต้องใช้สายสัญญาณเยอะให้ดูวุ่นวายอีกด้วย
ตัว GO blu ไม่จำเป็นต้องพึ่งแหล่งพลังงานภายนอกครับ เพราะมีแบตเตอรี่ในตัวที่ใช้งานได้ถึง 10 ชั่วโมง แต่ยังไงก็อย่าใช้เพลินกันจนแบตหมดนะครับ
- ZEN DAC : สำหรับรุ่น ZEN เราจะไม่สามารถเชื่อมต่อแบบไร้สายได้แล้วล่ะครับ แต่ต้องมาใช้บริการระบบ USB แทน โดยจากสมาร์ทโฟนหรือ DAP เราต้องใช้สาย OTG หรือสาย Lightning to USB สำหรับผู้ที่ใช้ iOS แล้วต่อมายังสาย USB A to USB B อีกทีนึงเพื่อส่งสัญญาณไปยัง ZEN DAC จะเห็นได้ชัดเลยว่าค่อนข้างวุ่นวายกว่า GO blu อยู่พอสมควรครับ
ลืมบอกไปอีกนิดว่าสำหรับ ZEN DAC เรายังจำเป็นต้องดัดแปลงให้รถของเราสามารถจ่ายไฟผ่าน Power Supply แบบ DC ขนาด 5V ให้ได้ด้วยนะครับ
3# คุณภาพของอุปกรณ์
มาถึงเรื่องสำคัญอย่างคุณภาพเสียงกันล่ะครับทีนี้ ก่อนอื่นเราลองมาดูสเปคของทั้งสองรุ่นกันอีกทีครับ
GO blu : ชิปเซ็ท DAC 32bit จาก Cirrus Logic ให้รายละเอียดสูงสุดที่ 24Bit/96kHz (ผ่านการเชื่อมต่อ USB)
ZEN DAC : ชิปเซ็ท DAC แบบ Bit-Perfect จาก Burr-Brown True Native ให้รายละเอียดสูงสุดที่ PCM 32 Bit/384kHz DSD, DXD และ MQA
สำหรับหัวข้อนี้จะเห็นได้ว่า ZEN DAC ชนะไปอย่างเป็นเอกฉันท์ครับ ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเพราะว่าตัว ZEN DAC ถูกวางตำแหน่งให้เป็น DAC ตั้งโต๊ะขนาดเล็กที่สามารถออกแบบจัดการระบบได้มากกว่า GO blu ซึ่งมีขนาดที่ค่อนข้างจำกัด ฉะนั้นถ้าวัดเอาท์พุตที่ออกมาเพียวๆก็ถือว่า ZEN DAC ได้ปเรียบอยู่หลายช่วงตัว
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขึ้นอยู่กับไฟล์เพลงที่เราเอามาฟังด้วยนะครับ ถ้าเราฟังเพลงโดยใช้ไฟล์ Hi-Res ในโทรศัพท์หรือ DAP ของเราล่ะก็ ZEN DAC ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีแน่นอน แต่ถ้าฟังเพลงด้วยไฟล์ Lossy ทั่วๆไปอย่างเช่น MP3 หรือฟังเพลงผ่านสตรีมมิ่งที่ไม่ได้เป็น Lossless ทั้ง GO blu และ ZEN DAC ถือว่าทำหน้าที่ได้เพียงพอสำหรับการใช้งานในรถยนต์ครับ
4# ฟังค์ชั่นเสริมในการใช้งาน
GO blu : XBass และ XSpace
ZEN DAC : TrueBass และ Flexible Output
ในเรื่องลูกเล่นของการปรับแต่งโทนเสียงทั้ง GO blu และ ZEN DAC มีฟังค์ชั่นในการปรับเสียงเบสให้ฟังบึ้มบั๊มสนุกสนานได้คล้ายๆกันครับ แต่ในรายของ GO blu จะมีโหมด XSpace ที่ช่วยเพิ่มมิติของเวทีเสียงได้อีก แต่ผลลัพธ์สำหรับการใช้งานร่วมกับเครื่องเสียงรถยนต์ก็จะไม่เหมือนกับการใช้หูฟังนะครับ
สำหรับ ZEN DAC ยังมีระบบ Flexible Output ที่สามารถเลือกเปิดและปิดภาคปรีแอมป์ในตัวได้อีก ซึ่งก็จะช่วยให้เรามีตัวเลือกในการแมทช์สัญญาณเข้ากับชุดเครื่องเสียงรถยนต์แต่ละรุ่นได้อีกขั้นนึงครับ
ฟันธงไปเลยว่ารุ่นไหนเหมาะสำหรับรถยนต์
GO blu : ค่อนข้างตอบโจทย์ได้ดีทีเดียวสำหรับผู้ที่ใช้รถยนต์ขนาดเล็กและไม่ต้องการความวุ่นวายในการเซ็ทอัพอุปกรณ์ สามารถใช้งานได้ง่ายและให้คุณภาพเสียงที่ดีขึ้นอย่างแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นครับ
ZEN DAC : เหมาะสำหรับซีเรียสเพลเยอร์ ถ้าคุณลงทุนกับเครื่องเสียงไปเป็นจำนวนมากแล้ว การเลือก ZEN DAC เข้าประจำการเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลครับ ถึงแม้ว่าการเซ็ทอัพจะยุ่งยากกว่าก็ตามแต่เพื่อระบบเสียงรถยนต์ที่ดีที่สุดแล้ว ZEN DAC ตอบสนองคุณได้มากกว่าแน่นอนครับ