iFi Audio iDSD Diablo VS Micro iDSD SIGNATURE แตกต่างกันยังไง?
จัดว่าเป็น DAC/Amp ในพิกัดเดียวกันก็ว่าได้สำหรับพี่น้องร่วมค่าย iFi ระหว่าง iDSD Diablo สีแดงแรงฤทธิ์ กับ Micro iDSD SIGNATURE สีสันสุดขรึม ไม่ใช่แค่สีสันหน้าตาจะแตกต่างกันอย่างชัดเจนแต่ฟังค์ชั่นการใช้งานก็ต่างกันไปด้วย ว่าแล้วเราก็ลองมาดูข้อแตกต่างของทั้ง 2 รุ่นกันดีกว่าครับ
iFi Audio iDSD Diablo
จุดเด่น
- ชิป Dual DAC จาก Burr Brown ให้ความละเอียดสูงถึง PCM 32 บิต / 768kHz และ DSD512 แบบ bit-perfect
- ใช้แบตเตอรี่ในตัว ทำให้สัญญาณเสียงมีความสะอาดยิ่งขึ้น
- ใช้งานกับหูฟังได้ทุกประเภท มี Power Mode ให้เลือกแมทช์กับหูฟังได้ 3 รูปแบบ
- มีระบบ power supply แบบ High Bandwidth แยกการจ่ายไฟให้ทุกระบบอย่างชัดเจน
- เทคโนโลยี PureWave และ OptimaLoop ในภาคขยายช่วยเพิ่มความสะอาดให้สัญญาณ
- มีช่อง USB-C สำหรับการชาร์จไฟแยกต่างหาก
- มีเอาท์พุตแบบ Balanced 4.4mm
iFi Audio Micro iDSD SIGNATURE
จุดเด่น
- ชิป Dual DAC จาก Burr Brown ให้ความละเอียดสูงถึง PCM 32 บิต / 768kHz และ DSD512 แบบ bit-perfect
- ใช้แบตเตอรี่ในตัว ทำให้สัญญาณเสียงมีความสะอาดยิ่งขึ้น
- ใช้งานกับหูฟังได้ทุกประเภท มี Power Mode ให้เลือกแมทช์กับหูฟังได้ 3 รูปแบบ
- มี iEMatch technology ช่วยให้ Matching Gain ได้ละเอียดยิ่งขึ้น
- มีโหมด XBass+ และ 3D+ signature สำหรับปรับแต่งโทนเสียงเพิ่มเติมได้
- มี Filter Mode ให้เลือกใช้งาน
- มี RCA เอาท์พุตสำหรับเชื่อมต่อกับลำโพงหรือเพาเวอร์แอมป์
iDSD Diablo VS Micro iDSD SIGNATURE คู่เหมือนที่แตกต่าง
อย่างที่บอกครับว่าทั้ง 2 รุ่นถึงจะไซส์ใกล้เคียง แถมดูภายนอกฟังค์ชั่นยังคล้ายกันอีกต่างหาก แต่นอกจากสีสันแล้วก็มีอีกหลายจุดเลยทีเดียวที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนครับ เราลองมาดูจุดเหมือนที่ทั้งคู่มีร่วมกันก่อยดีกว่าครับ
- ระบบ Dual DAC ที่รองรับการทำงานแบบ bit-perfect
ทั้งคู่จัดว่าเป็น DAC/Amp ระบบ Fully Balanced ที่แยกการทำงานชองแชนแนลซ้าย-ขวาอย่างชัดเจนช่วยให้คุณภาพสัญญาณสูงมาก ด้านรายละเอียดสูงสุดที่ทำได้นั้นก็เท่ากันอยู่ที่ PCM 32 บิต / 768kHz และ DSD512 นอกจากนั้นก็ยังรองรับการถอดรหัสไฟล์ MQA ได้ทั้งคู่ครับ
- มีแบตเตอรี่ภายในตัว
เป็นความตั้งใจของทาง iFi Audio ที่ออกแบบทั้งสองรุ่นให้มีแบตเตอรี่ติดตั้งมาภายในตัว ด้วยระบบไฟแบบ DC ทำให้กระแสไฟมีความสะอาดมากกว่าต่อผ่านไฟบ้านหลายเท่า และยังสะดวกในการพกพาไปใช้งานด้วยครับ
- รูปแบบ input เที่เหมือนกัน
ที่ด้านหน้าของทั้งสองรุ่นจะมีช่องอินพุตขนาด 6.3mm สำหรับการเชื่อมต่อแบบ Single End และอินพุตขนาด 4.4mm สำหรับระบบ Balanced ให้ครับ ส่วนด้านหลังยังมีช่องอินพุตแบบ SPDIF มาให้อีกด้วย ถือว่าเท่าเทียมกันในเรื่องอินพุตครับ
- กำลังขับสูง ใช้งานกับหูฟังได้หลากหลาย
ทั้งคู่มีภาคขยายที่กำลังเหลือเฟือ สามารถขับหูฟังไซส์ใหญ่ได้อย่างสบาย และจุดเด่นที่มีร่วมกันก็คือ Power Mode ที่สามารถปรับได้ 3 แบบ ได้แก่
- Turbo : สำหรับหูฟังไซส์ใหญ่ที่บริโภคพลังงานสูง
- Normal : โหมดปกติสำหรับใช้กับหูฟังทั่วไป
- Eco : เหมาะสำหรับหูฟัง IE ที่มีความไวสูง แถมยังช่วยประหยัดแบตเตอรี่ด้วย
ไม่ว่าจะเลือกใช้ iDSD Diablo หรือ Micro iDSD SIGNATURE ก็สามารถใช้งานกับหูฟังทุกตัวในคลังแสงของคุณได้อย่างแน่นอนครับ
ข้อแตกต่างที่สำคัญ
เทคโนโลยี PureWave และ OptimaLoop ใน iDSD Diablo
ภาคขยายในรุ่น iDSD Diablo จะมีเทคโนโลยีใหม่ๆอย่าง PureWave ที่ทำให้ระบบ Fully Balanced นั้นดีขึ้นกว่าเดิมด้วยการให้สัญญาณเดินทางสั้นๆและเป็นเส้นตรงมากที่สุด ซ฿่งจะช่วยลดสัญญาณรบกวนและอาการ Distortion ลงไปได้อีก นอกจากนั้นยังมีเทคโนโลยี OptimaLoop ซึ่งเป็นการพัฒนาระบบ Negative feedback ให้แม่นยำยิ่งขึ้นอีกด้วย
Balanced Output และช่อง USB-C สำหรับชาร์จไฟแยกต่างหาก
ที่ด้านหลังของ iDSD Diablo จะมีเอาท์พุตแบบ 4.4mm Pentaconn balanced สำหรับเชื่อมต่อกับแอมป์ตัวอื่นได้ ทำให้ดูๆแล้ว iDSD Diablo จะตอบโจทย์สำหรับ Mobile User มากกว่าครับ โดยเฉพาะคนที่ชอบพกพาอุปกรณ์ไปฟังหรือไปเทสใช้งานนอกสถานที่
แถมยังแยกช่อง USB Power ออกจาก USB input ที่ใช้รับข้อมูลเสียงอย่างเดียวอีกด้วย ในด้านระบบไฟนั้น iDSD Diablo ทำได้ยอดเยี่ยมมากครับ
ฟังค์ชั่น iEMatch และ Filter mode ของ Micro iDSD SIGNATURE แถมด้วย XBass+ และ 3D+ signature
ถึงจะมี power mode เท่ากัน แต่สำหรับ Micro iDSD SIGNATURE นั้นจะมีลูกเล่นในการปรับแต่งเสียงได้มากกว่าครับ เริ่มที่ iEMatch ที่จะช่วยให้แมทช์ชิ่งเกนกับหูฟังอินเอียร์ที่มีความไวสูงมากๆได้อย่างสบาย และยังมี Filter Mode สำหรับภาคดิจิตอลที่ช่วยให้เราปรับ Bandwidth ให้เหมาะสมระหว่างการใช้งานไฟล์ PCM หรือว่า DSD ครับ
ยังไม่พอครับ เพราะ Micro iDSD SIGNATURE ยังมีฟังค์ชั่นในการปรับแต่งเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของค่ายอย่าง XBass+ ที่จะช่วยเพิ่มย่านความถี่ต่ำให้เพิ่มมากขึ้น หรือจะปรับแต่งมิติเสียงให้ต่างไปจากเดิมด้วย 3D+ signature ก็ยังได้ครับ ใครที่ชอบความยืดหยุ่นในการใช้งาน Micro iDSD SIGNATURE ก็ดูจะมีลูกเล่นที่เยอะมากกว่าครับ
ช่องเอาท์พุตแบบ RCA ของ Micro iDSD SIGNATURE
อีกหนึ่งจุดที่แตกต่างอย่างชัดเจนของ Micro iDSD SIGNATURE ก็คือเอาท์พุตแบบ RCA ครับทำให้สามารถเชื่อมต่อกับลำโพงแบบ Active หรือว่าแอมป์ภายนอกได้ทันที ซึ่งจุดนี้ก็ทำให้ Micro iDSD SIGNATURE อาจจะเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ DAC/Amp ไปใช้งานร่วมกับซิสเต็มหรือชุดเครื่องเสียงที่บ้าน ไม่ได้ต้องการเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ไปฟังที่อื่นมากนัก
ชอบพกพาไป iDSD Diablo ชอบฟังเพลงอยู่บ้านไป Micro iDSD SIGNATURE
นอกจากฟังค์ชั่นการใช้งานแล้ว เมื่อดูจากของแถมในชุดของ iDSD Diablo ที่มาพร้อมเคสให้เราพกพาอุปกรณ์ทุกอย่างไปฟังเพลงได้ทุกที่ ก็คงบอกได้ว่าทาง iFi Audio เลือกให้ Diablo เป็นตัวแทนสำหรับ Mobile User มากกว่า Micro iDSD SIGNATURE อยู่ซักหน่อยนะครับ แถมรูปร่างหน้าตาก็โดดเด่นมากๆเวลาหิ้วไปฟังในที่สาธารณะ รับรองว่าโดดเด่นสะดุดตาแน่ๆ
แต่สำหรับใครที่ชอบฟังเพลงอยู่บ้าน ใช้งานกับหูฟังหรือว่าชุดเครื่องเสียงบ้านบ่อยๆล่ะก็ ความเหมาะสมในการเชื่อมต่อก็คงเป็น Micro iDSD SIGNATURE มากกว่าครับ ลองดูจากนิสัยการใช้งานของเรานะครับ รับรองว่าการเลือก DAC/Amp ทั้งสองรุ่นนี้ไม่มีอะไรซับซ้อนแน่นอนครับ