iFi Audio UNO vs GO link สองรุ่นจิ๋วต่างไซส์
ปีนี้ทาง iFi Audio ปล่อย DAC/Amp รุ่นจิ๋วที่น่าสนใจออกมาถึงสองรุ่นด้วยกันครับ รุ่นนึงคือ iFi Audio UNO ที่เป็น Desktop DAC แต่ว่าขนาดก็น่าพกพาเอาซะเหลือเกิน ส่วนอีกรุ่นก็สำหรับสายพกพาโดยตรงอย่าง GO Link ที่เป็น DAC หางหนูตัวแรกจาก iFI Audio เลย ซึ่งคุณภาพของทั้งสองเรียกว่าว้าวเอามากๆครับ
iFi Audio UNO vs GO link
UNO | GO link | |
DAC | Discrete ESS Sabre Hyperstream | ESS Sabre ES9219MQ/Q 32-bit |
Amp | 3.5V @ 600ohm พร้อมฟังค์ชั่น Power Match | 2.05V @ 600ohm พร้อมโหมด S-Balanced |
Resolution | รองรับ PCM384kHz, DSD256 และ MQA | รองรับ PCM 384kHz,DSD256 และ MQA |
Highlight | มีสามโหมดเสียง Music, Movie และ Game ให้เลือกใช้ | เทคโนโลยี Quad DAC+ และ Time Domain Jitter Eliminator |
สองจิ๋วต่างไซส์
ถึงแม้ว่าทั้งสองรุ่นจะออกแบบมาให้มีฟังค์ชั่นที่ต่างกันอย่างชัดเจน อย่างทางฝั่ง UNO จะเป็น Desktop DAC ส่วน GO link จะเป็น Portable แต่ว่าขนาดของทั้งคู่ถือว่าเล็กที่สุดในรุ่นครับ
ทางด้าน GO link จะเป็น DAC/Amp แบบหางหนู ซึ่งหายห่วงเรื่องการพกพาเพราะเล็กแน่นอน ลักษณะของเค้าจะเป็นแบบ Dongle ผสมชุดสาย OTG
ส่วนของ UNO เรียกได้ว่าเป็น Desktop DAC/Amp ที่มีขนาดเล็กมากที่สุดรุ่นนึงในตลาด ไซส์ของเค้าใหญ่ไม่เกินฝ่ามือเราซะอีก เสียดายว่าถ้าบริโภคพลังงานไม่สูงนี่เอาไปใช้แบบพกพายังได้ครับ
รายละเอียดเสียงและกำลังขับ
เริ่มกันที่ฝั่ง UNO กันก่อนครับ ซึ่งหัวใจของระบบจะเป็นชิป DAC Discrete ESS Sabre Hyperstream ที่ใช้สถาปัตยกรรม 32Bit พ่วงด้วย discrete oscillator และ time domain jitter eliminator ที่ทำให้ระบบ Clock มีความแม่นยำสูงมากๆ แถมระบบ DAC ของ UNO ยังมี Dynamic Range สูงถึง 112dB สามารถรองรับไฟล์ความละเอียดสูงแบบ True NAtive ได้ครบครันทั้ง PCM384, DSD256, DXD384 รวมถึง MQA ด้วย
ด้านเอาท์พุตจะใช้ Headphone output ขนาด 3.5mm. มาตราฐาน ที่มีทั้งระบบ Power Match และระบบ S-Balanced ให้กำลังขับสูงถึง 3.5V ที่โหลด 600ohm
ส่วนของ GO link ใช้ชิป DAC ของ ESS Sabre เช่นเดียวกัน แต่เป็นรุ่น ES9219MQ/Q แถมยังใช้สถาปัตยกรรม 32Bit เหมือนกันด้วย ยังมีระบบ Quad DAC+ และ Time Domain Jitter Eliminator technologies ทำให้ตัวเครื่องสามารถรองรับรายละเอียดเสียงได้สูงถึง PCM 384 รวมถึง DSD256 และ MQA ครับ
ฝั่งเอาท์พุตจะเป็นแบบ 3.5mm. มาตราฐาน ใช้ขั้วต่อเป็นแบบเคลือบทองอย่างดี ทีเด็ดสำคัญอยู่ที่ระบบ S-Balanced อันขึ้นชื่อของ iFi เมื่อรีดกำลังขับสูงสุดแล้วจะได้ถึง 2.05V ที่โหลด 600ohm ถือว่าไม่ธรรมดาเลยสำหรับหางหนูแบบนี้
Highlight
ถ้าพูดถึงจุดเด่นของ UNO แน่นอนว่าต้องเป็นความสามารถในการปรับแต่งเสียงให้ตรงกับรูปแบบการใช้งานเราได้ครับ ซึ่งจะมี EQ Mode อยู่สามรูปแบบก็คือ Music, Movie และ Game Mode เราสามารถเลือกได้จากการกดสวิทช์ด้านหน้าตัวเครื่อง แล้วไฟ LED ด้านบนตัวเครื่องก็จะบอกว่าเราอยู่ในโหมดไหนนั่นเอง
ถึงจะเป็น DAC/Amp แบบหางหนู แต่ว่าความสามารถด้านรายละเอียดและกำลังขับก็ทำได้น่ากลัวเลยทีเดียว ยังมีลูกเล่นเสริมอีกเล็กน้อยสำหรับ GO link นั่นก็คือฟังค์ชั่น DRE (Dynamic Range Enhancement) ที่จะช่วยปรับค่า Gain ให้เหมาะสมตามหูฟังที่เชื่อมต่ออยู่ พร้อมด้วยระบบที่สามารถลดค่า THD (Total Harmonic Distortion) ลงไปได้อีก ทำให้สัญญาณสะอาดมากๆ
iFi Audio UNO vs GO link
ด้วยสเปคและสีสันของตัวเครื่องทำให้ iFi Audio ทั้งสองรุ่นนี้เหมือนกับพี่น้องกันก็ไม่ปาน ประสิทธิภาพนั้นสูสีคู่คี่กันมากๆ เรียกว่าสุดในรุ่นกันทั้งคู่ แต่สุดท้ายแล้วรูปแบบการใช้งานก็จะเป็นตัวตัดสินใจอยู่ดีว่าเราจะคว้า UNO หรือ GO link กลับบ้านครับผม