iFi Neo DAC-Amp VS TOPPING DX7 Pro รุ่นใหม่จะชนกัน มันต้องรุ่นนี้
iFi NEO iDSD และ TOPPING DX7 Pro DAC/Amp ระดับตัวท็อปจากสองค่ายที่ฮอตฮิตสุดๆ โดยเฉพาะ NEW iDSD ที่เป็นเรือธงน้องใหม่ฟังค์ชั่นจัดเต็ม วันนี้ต้องลองเอามาชนกับรุ่นใหญ่อย่าง DX7 Pro ดูซะหน่อย จะได้รู้กันว่ารุ่นไหนที่จะทำให้คุณเสียสตางค์ได้ครับ
เปรียบเทียบฟีเจอร์ iFi NEO iDSD vs TOPPING DX7 Pro
1. ชนกันด้วยขุมพลัง
iFi NEO iDSD : XMOS 16-Core / Burr-Brown DAC four-channel True Native design
TOPPING DX7 Pro : XMOS XU208 / ESS ES9038 Pro 32-bit
เริ่มกันด้วยขุมพลังของทั้งสองรุ่นกันก่อนเลยครับ ในด้านความแรงถือว่าสูสีใช้ได้ครับ ถึงแม้ว่าจะเป็นชิปเซ็ทที่ต่างกันคนละรุ่น โดยที่ NEO iDSD จะได้เปรียบที่ความสดใหม่นั่นคือ CPU และภาค DAC ที่อัพเดทกว่าเนื่องจากออกมาทีหลัง ฉะนั้นในยกนี้ NEO iDSD จะได้เปรียบกว่า DX7 Pro อยู่เล็กน้อย แต่ในภาพรวมแล้วทั้งสองรุ่นยังสามารถรองรับรายละเอียดเสียงสูงสุดที่ 32-bit / 768kHz รวมไปถึง DSD512 เท่ากันครับ
2. ชนกันด้วยระบบ Bluetooth
iFi NEO iDSD : Qualcomm QCC5100 Chipset
TOPPING DX7 Pro : CSR8675 Bluetooth Chipset
ในเรื่องของระบบ Bluetooth ถ้ามองกันที่ความสดใหม่ความได้เปรียบก็ยังเป็นของ NEO iDSD อยู่ครับเพราะได้ชิปเซ็ทรุ่นใหม่จาก Qualcomm เข้ามาประจำการ ส่วนในทางเทคนิคแล้วทั้งสองรุ่นสามารถรองรับ Bluetooth 5.0 ได้ทั้งคู่ครับ ฉะนั้นเรื่องความเสถียร ความแม่นยำของสัญญาณนั้นหายห่วง และทั้งสองรุ่นยังสามารถรองรับ codec Bluetooth ระดับ Hi-Res ได้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น aptX, aptX HD, aptX Low Latency, LDAC ของ Sony รวมไปถึง codec มาตราฐานอย่าง AAC (Apple iOS devices) และ SBC ครับ
แต่ถ้าจะให้ความได้เปรียบของ NEO iDSD เล็กน้อยก็ตรงที่รองรับ codec ใหม่ๆอย่าง HWA ด้วยครับ
3. ชนกันด้วยระบบ I/O
iFi NEO iDSD : Input Optical, Coaxial และ USB / HP Output 4.4 mm.Balanced และ 6.35 mm. Single-End / Line Output XLR และ RCA
TOPPING DX7 Pro : Input Optical, Coaxial, AES, HDMI และ USB / HP Output 4.4 mm. และ 4-Pin XLR Balanced, 6.35 mm. Single-End / Line Output XLR และ RCA
มาที่ภาค input และ output กันบ้างซึ่งยกนี้จะเป็นทีของรุ่นพี่ผู้มาก่อนอย่าง DX7 Pro บ้างล่ะครับ สำหรับใครที่มองหาภาค input อันหลากหลาย DX7 Pro จะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากครับ เรียกว่ามี digital input ครบทุกรูปแบบรวมไปถึง HDMI IIS ทำให้สามารถใช้งานได้กับทุกระบบเสียงแน่นอน
ส่วนของ Headphone output นั้น DX7 Pro ก็ยังได้เปรียบอยู่เพราะมีช่อง 4-Pin XLR Balanced มาให้เพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้งานหูฟังฟูลไซส์ขนาดใหญ่ใช้งานได้สะดวกครับ ส่วนของ Line Out ถือว่าเสมอกันครับ เพราะมีช่อง XLR และ RCA ให้ใช้งานเหมือนกันทั้งคู่ครับ
4. ชนกันด้วย Features
iFi NEO iDSD : ‘PureWave‘ balanced circuit design / MQA Support
TOPPING DX7 Pro : Pure DAC Application
ส่วนของอุปกรณ์ภายในของทั้ง 2 รุ่นถือว่าจัดเต็มทั้งคู่ครับ ไม่ว่าจะเป็นการเดินวงจร, ภาค Op-Amp รวมไปถึง capacitors ล้วนเป็นอุปกรณ์ระดับ audiophile grade ทั้งนั้น ถือว่ายอดเยี่ยมทั้งคู่ครับ ฉะนั้นในหัวข้อสุดท้ายเราจะมาดูที่ลูกเล่นเฉพาะของทั้งคู่กันครับ
เริ่มกันด้วย NEO iDSD ที่มีเอาท์พุตระบบ Fully Balanced ที่มีชื่อว่า PureWave โดยออกแบบภาคอะนาลอคเอาท์พุตให้มีความบริสุทธิ์มากที่สุดโดยปราศจาก DSP หรือ digital filter ที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสัญญาณในขณะที่เราฟังเพลง นอกจากนั้นยังออกแบบระบบให้เป็น Symmetrical Dual-Mono พยายามให้ทางเดินสัญญาณในแต่ละจุดนั้นสั้นมากๆ เพื่อให้สัญญานมีความสมบูรณ์มากที่สุดครับ
อีกหนึ่งจุดที่ NEO iDSD ได้เปรียบ DX7 Pro อยู่ก็คือรองรับการใช้งาน MQA ด้วยครับ ซึ่งก็เป็นคุณสมบัติที่จำเป็นมากๆในการฟังเพลงผ่านระบบ Streaming ในปัจจุบันครับ
วกกลับมาที่ฟีเจอร์เด่นของ DX7 Pro กันบ้างนั่นก็คือ Pure DAC Application ซึ่งโหมดนี้ออกแบบมาเพื่อให้เราได้ประสิทธิภาพเสียงที่สูงสุดจาก DX7 Pro โดยเฉพาะ ซึ่งจะเป็นการใช้แค่ภาค DAC เพียวๆ ในส่วนของ Headphone Amp หรือระบบอื่นๆจะถูกปิดหมด ทำให้ได้คุณภาพเสียงที่ดีกว่าครับ
สรุป
ถ้าเน้นที่ความสดใหม่ความได้เปรียบจะไปอยู่ที่ iFi NEO iDSD แน่นอนครับ เพราะเปิดตัวมาทีหลังเทคโนโลยีบางอย่างก็จะอัพเดทมากกว่าเป็นธรรมดา แต่ถ้าเน้นที่ฟังค์ชั่นการใช้งานล่ะก็ TOPPING DX7 Pro ถือว่ายอดเยี่ยมมากเลยทีเดียวครับ โดยเฉพาะ input และ output ที่ครบถ้วนกว่า ทำให้ใช้งานได้กับหลากหลายอุปกรณ์ ความสามารถในการตอบสนองรายละเอียดเสียงสูดสุดก็ทำได้เท่าเทียมกัน แต่น่าเสียดายนิดเดียวตรงที่ไม่ได้รองรับ MQA ครับ
น่าจะเห็นความแตกต่างที่ชัดเจนของทั้ง 2 รุ่นแล้วนะครับ เชื่อว่าใครที่สนใจหา DAC/Amp คุณภาพสูงเข้าประจำการซักเครื่องนึงคงตัดสินใจกันได้ไม่ยากแน่นอนครับ