/
/
/
ฟังเพลงไม่ OUT ไปกับหูฟังสาย รับปี 2022
Posted in ARTICLES

ฟังเพลงไม่ OUT ไปกับหูฟังสาย รับปี 2022

ถึงแม้ว่าตอนนี้เราจะเข้าสู่ยุคของหูฟังไร้สายกันอย่างเต็มตัว แต่ความคลาสสิคและคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมของหูฟังแบบปกติก็เป็นเรื่องที่เราปฎิเสธไม่ได้ครับ ว่าแล้วงานนี้เราก็จะมาแนะนำ 10 หูฟังแบบมีสายที่คุณภาพเยี่ยมคุ้มราคาให้ทุกท่านได้รู้จักกันครับ รวมถึงมีของแถมเป็น DAC/Amp ที่เหมาะกับการใช้งานร่วมกับมือถือให้ดูกันด้วยครับผม

1 – TFZ Live 1

TFZ Live 1 In-Ear Earphones หูฟังแบบ Dynamic Driver ใช้เทคโนโลยีเดียวกับหูฟังที่ได้รางวัล VGP Award 3 ปีซ้อน

HIGHLIGHT

  • Dynamic Driver ขนาด 11.4 mm. พร้อม Diaphragm Graphene ระดับนาโน ช่วยเพิ่มการตอบสนองของไดร์เวอร์ได้มากกว่า 50%
  • ระบบ Double Magnetic Circuit Coil ช่วยทำให้ชุด Voice Coil ตอบสนองได้ไว ทำให้เก็บรายละเอียดแม่นยำขึ้น
  • มีเทคโนโลยี Two Frequency Division ช่วยให้เสียงในแต่ละย่านมีความสมดุลย์

ประเดิมรุ่นแรกกันด้วยหูฟังราคามิตรภาพจาก TFZ ที่คุณภาพคับแก้วน่าลงทุนอย่างยิ่งครับ เริ่มกันที่ดีไซน์สวยงามบอดี้ทรงหูฟังคัสต้อมพร้อม Faceplate ที่มีให้เลือกถึง 8 สีด้วยกัน น่าจะตอบโจทย์เรื่องสีสันได้ทุกท่านครับ

ไฮไลท์สำคัญของ Live 1 จะอยู่ที่ระบบไดรเวอร์ซึ่งออกแบบมาอย่างใส่ใจและมีรายละเอียดที่เกินราคาครับ ตัวไดรเวอร์เป็นระบบ Dynamic Driver ขนาดใหญ่ถึง 11.4 มิลลิเมตร ส่วนไดอะแฟรมเป็น Graphene ระดับนาโนช่วยให้ไดรเวอร์ตอบสนองได้ดีขึ้น ตอบสนองย่านความถี่ได้กว้างตั้งแต่ 5Hz – 40KHz เหมาะกับการฟังเพลงระดับ Hi-Res

นอกจากนั้นยังมีระบบ Dual Magnetic Circuit ซึ่งทำให้ได้สนามแม่เหล็กที่มากขึ้น ส่งผลให้ Voice Coil ทำงานได้ไวขึ้นกว่าเดิม ยังไม่พอยังมีระบบ Two Frequency Division ทำหน้าที่คล้ายกับ Equalizer ที่จะช่วยให้การตอบสนองในทุกย่านความถี่นั้นมีความสมดุลย์มากยิ่งขึ้น บอกเลยว่า TFZ Live 1 เป็นหูฟังค่าตัวพันต้นๆที่จัดเต็มมากๆรุ่นนึงเลยครับ

2 – FiiO FH1s

Fiio FH1s หูฟังแบบ Hybrid In-Ear Monitor Earphones แบบ Dual Driver คุณภาพ Hi-Res

HIGHLIGHT

  • หูฟังแบบ Hybrid 2 Driver ระหว่าง Balanced Armature และ Dynamic Driver
  • เทคโนโลยีปรับลดแรงดันในหูฟัง
  • สายถักแบบ Custom made 120 แกน High Purity Monocrystalline Litz Wires

FiiO จัดเต็มจริงๆครับ เพราะค่าตัวสองพันนิดๆเราก็ได้หูฟังระบบ Hybrid มาใช้งานแล้ว รูปร่างหน้าตาถือว่าสวยงามให้คะแนนสามผ่านได้ง่ายๆ แต่ที่น่าสนใจคือไดรเวอร์ที่อยู่ภายในครับ

ระบบไฮบริดของ FH1s ผสมกันระหว่างไดรเวอร์ Balanced Armature จากค่ายดังอย่าง Knowles ผสมเข้ากับไดรเวอร์ Dynamic ขนาดใหญ่โตถึง 13.6mm ทำให้การแสดงย่านความถี่ทั้งสูง กลาง ต่ำทำได้อย่างน่าสนใจ

ตัว FH1s ยังมีระบบปรับแรงดันภายในตัวหูฟังด้วยครับ เพราะการผสมไดรเวอร์แบบนี้บวกกับการใช้ไดรเวอร์ไดนามิคขนาดใหญ่จำเป็นต้องออกแบบหูฟังให้ระบายแรงดันอากาศได้ดี เพื่อช่วยในเรื่องคุณภาพเสียงและยังส่งผลต่อความสบายเวลาใช้งานด้วยครับ

3 – Shozy V33 Pro

HIGHLIGHT

  • ส่วนของ Housing ทำมาจาก Streamlined Stainless Steel ที่สวยงามและทนทาน
  • ใช้ Acoustic filters และ dampers คุณภาพสูงเพื่อระบบอะคูสติคที่นำเข้าจากประเทศเกาหลี
  • สายสัญญาณระดับสายอัพเกรด เป็นสายทองแดง OFC เคลือบเงิน

ดีไซน์เรียบง่ายแต่สวยงามและดูแพงต้องยกให้ Shozy V33 Pro เค้าล่ะครับ โดยธีมในการออกแบบจะมาจากแผ่นไวนิลซึ่งสังเกตุได้อย่างชัดเจนที่ส่วนของ Faceplate ส่วนที่ตัว Housing ก็ใช้สแตนเลสอย่างดีดูเงางามสวยกิ้งสุดๆ

ส่วนระบบไดรเวอร์จะเป็นแบบไดนามิคครับ เห็นภายนอกเรียบๆแบบนี้แต่ภายในมีการปรับจูนระบบอะคูสติคเป็นอย่างดีมีทั้งฟิลเตอร์และแดมเปอร์ติดตั้งอยู่ภายใน ทำให้ได้เสียงที่มีหัวโน้ตชัดเจน เบสอิ่มมีน้ำหนักและเสียงร้องที่มีเนื้อมีหนังครับ

อีกจุดที่ทำมาดีเลยก็คือสายสัญญาณ โดยเป็นสายอัพเกรด SPC-5N Furukawa แบบ OFC หรือ ทองแดงปราศจากออกซิเจนและหุ้มด้วยแผ่นเงินด้านนอก ถึงจะอัพเกรดสายไม่ได้แต่ก็คุณภาพดีเทียบเท่าสายแพงๆเลยล่ะครับ

4 – Encore Rising#1

Encore Rising#1 หูฟัง In-Ear Monitor แรงบันดาลใจจาก ตูน ฺBodyslam

HIGHLIGHT

  • หูฟัง In-Ear Monitor ฝีมือคนไทยพร้อมพัฒนาร่วมกับพี่ตูน Bodyslam
  • บอดี้ทำจากเรซิ่นโปร่งใส ออกแบบตามหลัก Ergonomics สวมใส่สบาย
  • ไดร์เวอร์แบบ Balanced Armature จำนวน 5 ตัว จากค่าย Knowles

ไม่พูดถึงไม่ได้เลยเพราะนี่คือหนึ่งในหูฟัง IEM คุณภาพฝีมือคนไทยแถมยังพัฒนาเรื่องเสียงร่วมกับสุดยอดร็อคสตาร์เบอร์หนึ่งอย่างพี่ตูน บอดี้แสลม แค่นี้ก็ต้องบอกว่าจุดขายของ Encore Rising#1 นั้นสุดๆเลยล่ะครับ

ดีไซน์สวยงามด้วยเรซิ่นใสโชว์เครื่องเคราภายในครับ ออกแบบได้เหมือนหูฟังคัสต้อมมากๆ แต่การทำตัวบอดี้จะคำนึงถึงหลัก Ergonomics ทำให้ใส่ได้สบายแม้จะใช้งานเป็นเวลานานๆครับ

ส่วนของไดรเวอร์ก็จัดเต็มด้วย Balanced Armature ถึง 5 ตัวด้วยกันโดยใช้บริการจากค่าย Knowles แบ่งเป็น เสียงต่ำ 1, เสียงกลาง 1 และเสียงแหลมอีก 3 สุ้มเสียงออกไปในแนวหูฟังมอนิเตอร์อย่างชัดเจน โดยเฉพาะเสียงร้องนั้นสดใส สว่าง ชัดเจนสุดๆ สมแล้วที่ออกแบบโดยนักร้องชื่อดังครับ

5 – Acoustune RS1

Acoustune RS1 หูฟังอินเอียร์แบบ Stage Monitor Dynamic แบบ Myrinx EL

HIGHLIGHT

  • หูฟังอินเอียร์เพื่องาน Stage Monitor ใช้ Driver Dynamic Myrinx EL ขนาด 9.2mm. เทคโนโลยีเฉพาะของ Acoustune
  • บอดี้ขึ้นรูป 3D Custom ทำจากโพลีคาร์บอเนตที่มีความแข็งแรงสูง
  • ขั้วต่อหูฟังแบบ Pentaconn พร้อมสาย Cable ARM011 ที่พัฒนาขึ้นใหม่

ไลน์อัพใหม่จาก Acoustune ที่ตอบโจทย์นักดนตรีและคนชอบหูฟังมอนิเตอร์โดยเฉพาะ ด้วยค่าตัวที่ไม่แพงแต่ใช้เทคโนโลยีตัวเดียวกับหูฟังรุ่นใหญ่ RS1 จึงจัดว่าเป็นหูฟังมอนิเตอร์ราคาประหยัดที่คุ้มมากรุ่นนึงครับ

ส่วนของไดรเวอร์ยังคงนำเทคโนโลยีไดรเวอร์ไดนามิคแบบ Myrinx จากหูฟังรุ่นพี่มาใช้งานครับ สำหรับ RS1 จะใช้ Driver Dynamic Myrinx EL ขนาด 9.2mm. ให้มิติของเสียงที่ดี สามารถแจกแจงรายละเอียดเสียงในแต่ละเลเยอร์ได้ชัดเจน สามารถโฟกัสเสียงต่างๆได้ง่ายครับ

RS1 ใช้ขั้วต่อเช่นเดียวกับรุ่นพี่ๆนั่นก็คือขั้วต่อแบบ Pentaconn ซึ่งเป็นขั้วต่อที่มีประสิทธิภาพดีกว่าขั้วแบบ MMCX ซะอีกครับ ส่วนสายสัญญาณก็พัฒนาขึ้นมาใหม่เพื่อ RS1 โดยเฉพาะมีชื่อรุ่นว่า ARM011 เป็นส่วนผสมของ Litz บริสุทธิ์และ Kevlar ด้วยครับ

6 – TFZ Live X

TFZ Live X หูฟังอินเอียร์แบบ Single Dynamic Driver ขนาด 11.4 mm.

HIGHLIGHT

  • ใช้ Dynamic Driver รุ่นใหม่เจเนอเรชั่นที่ 4 ขนาดใหญ่ถึง 11.4 mm.
  • ระบบ Double Magnetic พร้อมเทคโนโลยี Tesla Magnetic
  • ใช้ระบบ Double Cavity และมีท่อระบายแรงดันที่ตัว Housing

TFZ Live X เป็นหูฟังรุ่นท็อปของซีรี่ส์ Live ครับ ภายนอกของหูฟังจะให้รู้สึกหรูหราดูดีด้วยบอดี้เงาวาวคล้ายหินอ่อนตัดกับลวดลายวงกลมสีทองที่ทำให้ดูไฮโซมากทีเดียว

ระบบไดรเวอร์ของ Live X จัดว่าสุดในรุ่นครับ ด้วยไดรเวอร์ไดนามิคขนาดใหญ่ 11.4mm. พร้อมกับไดอะแฟรมที่ทำจากฟิล์มโพลีเมอร์เคลือบด้วยทองคำระดับนาโนเข้าไปอีกชั้นเพื่อเพิ่มการตอบสนองให้ดีถึงขีดสุด

แน่นอนว่าระบบไดรเวอร์ยังมีการใช้เทคโนโลยี Double Magnetic ทำให้ Voice Coil ตอบสนองได้ดีมากเพราะสนามแม่เหล็กที่เพิ่มขึ้น และก็ยังมีระบบอะคูสติคภายในแบบ Double Cavity ที่ช่วยให้ระบายแรงดันจากการทำงานของไดรเวอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ

7 – DUNU Falcon Pro

DUNU Falcon Pro หูฟังอินเอียร์ระดับ Hi-Fi แบบ Single ECLIPSE Dynamic Driver

HIGHLIGHT

  • ไดรเวอร์ไดนามิครุ่น ECLIPSE แบบเดียวกับ Luna หูฟังตัวท็อปของค่าย
  • แม่เหล็กแรงสูง neodymium สามารถสร้างความหนาแน่นของสนามแม่เหล็กได้ถึง 1.6 Telsa
  • โครงสร้างภายในแบบ Dual Chambered และสามารถถอดเปลี่ยนท่อนำเสียงได้ 3 แบบ

Falcon Pro เป็นอีกหนึ่งหูฟังตัวแรงจาก DUNU ครับ ด้วยค่าตัวที่จับต้องได้และให้เทคโนโลยีจากหูฟังรุ่นท็อปมาเลย เอาแค่ภายนอกของ Falcon Pro ก็สวยงามสุดๆแล้วครับ ส่วนของบอดี้นั้นทำมาจากสแตนเลสเบอร์ 316 ขึ้นรูปแบบ CNC ทั้งเงางามทั้งทนทาน แต่ที่น่าสนใจกว่าจะอยู่ภายในตัวหูฟังครับ

โครงสร้างภายในเป็นแบบ Dual Chamber ออกแบบเพื่อควบคุมอะคูสติคให้เหมาะสมกับตัวไดรเวอร์ และยังมีช่องระบายอากาศที่ทำให้ DUNU จูนเสียงหูฟังได้อย่างสมบูรณ์พร้อมลดปัญหาเรโซแนนซ์ได้อีกทางครับ

ส่วนไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ไดรเวอร์แบบไดนามิคที่ทาง DUNU เรียกว่า ECLIPSE เป็นไดรเวอร์ขนาด 10mm. เทคโนโลยีเดียวกับหูฟังเรือธงที่ค่าตัวสูงกว่า 7 เท่าตัว แถม Falcon Pro ยังอนุญาตให้เราปรับแต่งท่อนำเสียงได้อิสระ โดยมีมาให้เลือกใช้งานถึง 3 แบบเลยล่ะครับ

8 – FiiO FD5

FiiO FD5 Flagship In-Ear Earphones หูฟังแบบ Dynamic Diaphragm ชุบด้วย Beryllium รองรับ Hi-Res Audio

HIGHLIGHT

  • บอดี้ Stainless Steel และ Housing ระบบ Semi-Open ให้ได้มิติเสียงที่ดีขึ้น
  • ไดรเวอร์ Dynamic พร้อม Diaphragm เคลือบ Beryllium
  • สามารถถอดเปลี่ยนท่อนำเสียงและเปลี่ยนหัวแจ็คได้ 3 ขนาด

ขยับกันมาที่หูฟังระดับเรือธงกันบ้างครับกับ FiiO FD5 ที่หรูหราสวยงามตั้งแต่ภายนอกด้วย Stainless Steel ขึ้นรูปแบบ 3D นอกจากสวยแล้วตัว Housing ยังเป็นระบบ semi-open design ให้อากาศสามารถถ่ายเทออกได้ ช่วยให้มิติเสียงดีขึ้นและทำให้ฟังได้สบายยิ่งขึ้นอีกด้วยครับ

ส่วนไดรเวอร์ก็เป็นรุ่นใหม่ของค่ายครับ เป็นไดรเวอร์ไดนามิคขนาด 12mm. ที่มีระบบแม่เหล็กแบบ N52 ให้สนามแม่เหล็กสูง พร้อมไดอะแฟรมทำจาก Beryllium เคลือบด้วย DLC ทำให้ไดอะแฟรมยืดหยุ่น แข็งแรง มี Damping Factor ที่สูง

เรายังสามารถปรับแต่งท่อนำเสียงได้อีก 2 แบบช่วยเพิ่มทางเลือกของแนวเสียงได้มากขึ้น แถมยังถอดเปลี่ยนหัวแจ็คได้อีก 3 แบบรองรับอุปกรณ์ทั้ง Single-Ended และ Balanced เป็นหูฟังตัวเดียวจบที่ใช้งานได้ทุกสถานการณ์ครับ

9 – Acoustune HS1300SS

Acoustune HS13000SS หูฟัง In-Ear Monitor Headphones แชมเบอร์ที่ขึ้นรูปจาก Stainless Steel

HIGHLIGHT

  • หูฟัง In-Ear ระบบไดนามิคไดรเวอร์ ไดอะแฟรม Myrinx เจนเนอเรชั่นที่ 3
  • บอดี้ทำจากอะลูมิเนียม ส่วนของแชมเบอร์ทำจากสแตนเลส CNC 100%
  • ขั้วต่อแบบใหม่ Pentaconn พร้อมสายทองแดง 99.99% แบบ 8 แกนรุ่นใหม่ ARC61

HS1300SS หูฟังที่คงเอกลักษณ์ของ Acoustune ไว้อย่างครบถ้วน เริ่มกันด้วยดีไซน์แบบไม่มีใครเหมือนอย่างบอดี้โลหะแบบโมดูลาร์ ที่แยกส่วน Housing อะลูมิเนียม และ Chamber สแตนเลสออกจากกัน นอกจากความเท่แล้วก็ยังส่งผลต่อเสียงโดยตรง โดยเฉพาะเรโซแนนซ์ที่ลดลงอย่างชัดเจนครับ

ถัดมาจะเป็นไดรเวอร์เฉพาะตัวของ Acoustune อย่างไดรเวอร์ไดนามิคแบบ Myrinx ไดอะแแฟรมเจนเนอเรชั่นที่ 3 มีขนาด 10mm. ด้วยกัน ทำมาจากวัสดุโพลีเมอร์ชีวภาพที่บางและยืดหยุ่นช่วยให้การขยับตัวของไดอะแฟรมทำได้อย่างละเอียด ตอบสนองไดนามิคเรนจ์ได้กว้าง

ส่วนสายสัญญาณก็ดีงามไม่แพ้กันซึ่งจะเป็นสายรุ่นใหม่  “ARC61” สาย 8-core แบบ Double-Twist ซึ่งจะเป็นสายคุณภาพสูงที่อยู่ใน 1500 series หุ้มด้วยฉนวน PVC ป้องกันสัญญาณรบกวนได้ดีและให้สัญญาณหลักที่มีคุณภาพ ส่วนขั้วต่อหูฟังก็เป็นรุ่นใหม่แบบ Pentaconn อีกด้วยครับ

10 – FiiO FD7

FiiO FD7 หูฟังอินเอียร์ระดับเรืองธง เลือกใช้ Diaphragm แบบ Pure Beryllium

HIGHLIGHT

  • ไดรเวอร์ไดนามิคขนาด 12mm. พร้อมไดอะแฟรมทำจาก beryllium บริสุทธิ์
  • Housing ระบบ Semi-Open ช่วยให้ได้มิติเสียงที่ดีขึ้น
  • สามารถถอดเปลี่ยนหัวแจ็คได้ด้วยระบบ Twist-lock และ เปลี่ยนท่อนำเสียงได้ 3 แบบ

ปิดท้ายกันด้วยรุ่นท็อปสุดจากค่าย FiiO กันครับจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก FD7 ที่ยังคงดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของตระกูล FD พร้อมวัสดุคุณภาพสูงอย่าง Stainless Steel และใช้ดีไซน์แบบ Semi-Open ภายในยังมีระบบ Volcanic Field ซึ่งจะช่วยลด Standing Wave ให้ลดน้อยลงได้อีกด้วยครับ

ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ระบบไดรเวอร์ที่อัพเกรดไดอะแฟรมให้เป็น beryllium แบบบริสุทธิ์ร้อยเปอร์เซ็นเรียบร้อย ทำให้ตอบสนองต่อสัญญาณเสียงได้ว่องไวมากๆ เรื่องของการเก็บรายละเอียด Transient ดีสุดๆครับ

ในรุ่นท็อปอย่าง FD7 สามารถเปลี่ยนท่อนำเสียงได้ถึง 3 แบบด้วยกัน ตอบโจทย์การฟังเพลงทุกรูปแบบ ส่วนสายสัญญาณจะเป็นสายเงิน Monocrystalline Pure Silver ความบริสุทธิ์สูงและยังสามารถถอดเปลี่ยนหัวแจ็คได้ 3 รูปแบบเช่นเคย ประสิทธิภาพสมกับที่เป็นรุ่นเรือธง เสียงดีสุดๆและรองรับการใช้งานทุกรูปแบบครับ


เทรนด์มือถือรุ่นใหม่ไม่มีช่องหูฟัง

ACCESSPORT AUDIO & CHARGE ADAPTOR FOR IPHONE

ปัญหาของหูฟังแบบสายสัญญาณทุกวันนี้ก็คือโทรศัพท์มือถือไม่มีช่องเอาท์พุตหูฟังมาให้ ซึ่งก็เป็นผลมาจากความสะดวกสบายของหูฟังไร้สาย ทำให้เทรนด์ของสมาร์ทโฟนในปัจจุบันมีแต่จะถอดช่องเอาท์พุต 3.5mm. ออกไปครับ

แต่สำหรับนักฟังเพลงเรื่องนี้อาจจะเป็นข้อดีก็ได้ เพราะมันบังคับเรากลายๆให้ต้องหา DAC/Amp พกพาเข้ามาใช้งาน ซึ่งก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าครับ นอกจากจะทำให้เราใช้งานหูฟังตัวโปรดเราได้แล้วก็ยังช่วยเพิ่มคุณภาพเสียงได้ดีขึ้นอีกหลายเท่าตัว

ถ้าใครที่ผ่านตากับ 10 หูฟังข้างต้นแล้วแต่ยังไม่มี DAC/Amp พกพาไว้ใช้งานล่ะก็เราก็มีมานำเสนอให้คุณดูเป็นตัวอย่างครับ โดย DAC/Amp พกพาสำหรับมือถือในตอนนี้ก็คงแบ่งได้เป็น 2 รูปแบบหลักๆนั่นก็คือ

DAC/Amp หางหนู

1 – Acoustune AS2000

Acoustune AS2000 หางหนูแบบ Lightning รองรับ MFI ถอดเปลี่ยนหัวได้

DAC/Amp หางหนูรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Acoustune ที่สร้างมาเพื่อชาว iOS โดยเฉพาะ มาพร้อมมาตราฐาน MFi หรือ Made for iPhone สามารถทำงานกับอุปกรณ์ของแอปเปิลได้อย่างสมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็น และยังไม่กินพลังงานของโทรศัพท์เราจนเกินพอดี ช่วยในเรื่องการประหยัดพลังงานครับ

อีกจุดเด่นก็คือเอาท์พุตโมดูลที่มีให้เลือกถึง 3 แบบ รองรับทั้ง Single-Ended และ Balanced ทำให้ใช้งานกับหูฟังได้ทุกรูปแบบ เพียงแต่ว่าเอาท์พุตบาลานซ์จะไม่ใช่ Native Balanced Output เนื่องจากข้อกำหนดของ MFi ที่จำกัดเรื่องพลังงานและกำลังขับเพื่อความปลอดภัยในการใช้งานครับ

2 – DD TC35B 2021

DD TC35B 2021 แจ็คแปลงหูฟัง USB Type-C to 3.5mm ใช้กับมือถือแอนดรอยด์ รองรับ 32-bit/384kHz/

ถ้าชอบความกะทัดรัดไม่มีอะไรจะดีไปกว่า DD TC35B 2021 ด้วยขนาดที่เล็กมากๆ ไม่ต้องมีสายพ่วงให้วุ่นวาย เรื่องการพกพาจึงง่ายที่สุดในรุ่น คุณภาพการผลิตก็จัดว่าดีเยี่ยมครับด้วยบอดี้อะลูมิเนียมสุดเนี้ยบ น้ำหนักเบาหวิวเพียง 3.6 กรัม

ฟังค์ชั่นการใช้งานมีทั้งระบบตรวจจับหูฟังว่ามีการเสียบใช้งานอยู่หรือไม่ สามารถรองรับหูฟังมาตราฐาน CTIA ได้เราจึงใช้หูฟังที่มีไมค์และรีโมทได้ปกติ นอกจากนั้นยังมีรุ่นย่อย TC35i ที่เป็นพอร์ต Lightning สำหรับใช้งานกับอุปกรณ์ของแอปเปิลด้วยครับ

3 – Cayin RU6

Cayin RU6 : R-2R DAC-Amp ขนาดพกพา USB-C รองรับ 24bit R-2R Decoding

มาดูอาวุธหนักของสายหางหนูกันบ้างครับ กับ Cayin RU6 DAC/Amp รุ่นใหม่ล่าสุดที่น่าจะเรียกได้ว่าประสิทธิภาพเทียบเคียงกับอุปกรณ์เดสก์ทอประดับไฮเอนด์เลยทีเดียว

ไฮไลท์สำคัญของ RU6 คือการเป็น DAC พกพาระบบ 24-Bit Discrete R-2R Resistor Ladder ตัวแรกของโลก แถมยังมีโหมด Oversampling (OS) และ Non-Oversampling (NOS) ที่นำจากเพลเยอร์รุ่นท็อปมาให้ใช้ด้วย ถ้าซีเรียสเรื่องเสียงล่ะก็ RU6 เท่านั้นครับนาทีนี้

Bluetooth Receiver

สำหรับผู้ที่ไม่ชอบพกโทรศัพท์ไว้กับตัวจะหันมาใช้ DAC-Amp รูปแบบตัวรับสัญญาณบลูทูธก็แจ่มไม่แพ้กันครับ คุณภาพเสียงที่ได้ก็ถือว่ายอดเยี่ยมและยังสะดวกสบายกว่าด้วยครับ

1 – iFi Audio GO blu

iFi Audio Go Blu DAC-Amp ขนาดพกพา รองรับ Hi-Res Audio | Bluetooth

Bluetooth Receiver รุ่นใหม่จาก iFi Audio ที่ขนาดเล็กจิ๋วแต่ให้คุณภาพเสียงระดับ Hi-Res เพราะว่าเลือกใช้ชิป DAC คุณภาพสูงพร้อมระบบ Clock ที่ยอดเยี่ยมอันเป็นของถนัดของ iFi Audio เค้าอยู่แล้ว

ด้านเอาท์พุตรองรับทั้ง 3.5mm Single-Ended และ 4.4mm Balanced แถมด้วยลูกเล่นเฉพาะตัวของ iFi Audio สำหรับปรับแต่งเสียงอย่าง XBass และ XSpace มาให้ด้วยครับ

2 – FiiO BTR5

FiiO BTR5 2021 DAC/AMP ขนาดพกพา รองรับ Bluetooth 5.0 | NFC | MQA

พูดถึง Bluetooth Receiver คงจะขาด FiiO ไปไม่ได้แน่ เพราะค่ายนี้เค้าเก่งเรื่อง Bluetooth Receiver ไม่แพ้ใครครับ ซึ่ง BTR5 ก็มาพร้อมกับชิป DAC ตัวโหดแบบ Dual DAC รองรับระบบ Balanced เต็มรูปแบบ ให้ค่า Signal to Noise Ratio ที่ดีขึ้น แถมยังรองรับการใช้งาน MQA ด้วยครับ

ถ้าใครที่เน้นการฟังเพลงแบบ Hi-Res ล่ะก็ BTR5 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากครับเพราะถอดรหัสได้สูงถึง 384kHz แบบ Native DSD และยังรองรับ codec คุณภาพอย่าง aptX HD และ LDAC ด้วยครับ

3 – Shanling UP5

SHANLING UP5 Bluetooth Amplifier รองรับ MQA 16x | Dual Hi-Res Audio

ปิดท้ายกันด้วย Bluetooth Receiver ตัวท็อปของ Shanling กันบ้างครับซึ่ง UP5 เปรียบได้กับคู่แข่งของ BTR5 เลยก็ว่าได้ เพราะมีประสิทธิภาพในการถอดรหัสสัญญาณระดับ Hi-Res ที่ทัดเทียมกัน แถมยังรองรับการใช้งาน MQA เหมือนกันอีกด้วยครับ

แต่จุดที่ UP5 ทำได้เยี่ยมมากๆก็คือมีเอาท์พุตถึง 3 รูปแบบให้ใช้งาน นั่นคือ 3.5mm Single-Ended และ 2.5mm / 4.4mm Balanced การปรับแต่งค่าต่างๆก็ทำได้ง่าย แถมยังสามารถใช้งานร่วมกับ Nintendo Switch ได้อีก จัดเป็น Bluetooth Receiver ที่ฟังค์ชั่นแน่นๆเลยครับ


สำหรับนักฟังสายซีเรียสใช้งานร่วมกับเพลเยอร์ดีที่สุด

แถมท้ายให้กันอีกซักนิด เพราะที่ผ่านมาเราเน้นการใช้งานหูฟังร่วมกับโทรศัพท์มือถือเป็นหลัก แต่ยังไงก็ตามถ้าเป็นนักฟังที่ซีเรียสกับคุณภาพเสียงจริงๆล่ะก็ การใช้งานร่วมกับ DAP หรือมิวสิคเพลเยอร์ย่อมให้ผลลัพธ์ของเสียงที่ดีที่สุดครับ

ว่าแล้วเราก็ขอแวะมาแนะนำ DAP น่าใช้รับต้นปีให้ดูกันอีกซัก 3 รุ่นนะครับ

Shanling M3X

Shanling M3X Digital Audio Player เครื่องเล่นเพลง Hi-Res ระบบ Android รองรับ PCM 32Bit/384kHz DSD256

DAP น้องเล็กจาก Shanling ที่คุณภาพไม่เล็กเลยครับ ฟังค์ชั่นจัดว่าอัดมาให้ล้นๆเลย เริ่มกันด้วยหน้าจอสัมผัสขนาด 4.2 นิ้วที่ชัดเจนเต็มตา สามารถใช้พื้นที่บนตัวเครื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ

ด้านการทำงานและคุณภาพเสียงก็ไม่ต้องห่วงเพราะใช้ CPU ระดับ 8 Core พร้อมระบบ Dual DAC จาก ESS Sabre ให้รายละเอียดสูงสุดที่ PCM 32Bit/384kHz และ DSD256 แน่นอนว่ารองรับ MQA ด้วยครับ

ด้านเอาท์พุตจะมีมาสองรูปแบบคือ SE 3.5mm. และ Balanced 4.4mm. แต่แค่นี้ยังไม่พอเพราะ M3X สามารถทำหน้าที่เป็น Bleutooth Receiver และ Transmitter ได้ในเครื่องเดียว บอกเลยว่าแจ่มครับ

Sony NW-A105

Sony NW-A105 เครื่องเล่นเพลงขนาดพกพา Walkman คุณภาพ Hi-Res aptX HD

DAP คุณภาพจะขาด Sony ไปไม่ได้ครับ โดยเฉพาะ Sony A ซีรี่ย์ต้องถือว่าเป็น Walkman อีกหนึ่งตระกูลที่อยู่คู่นักฟังเพลงมายาวนาน ฉะนั้นเรื่องประสิทธิภาพไว้ใจได้แน่นอนครับ

ถึงจะเป็นเพลเยอร์รุ่นย่อมเยาว์ของ Sony แต่ก็ให้เทคโนโลยีเฉพาะของทางค่ายมาครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น S-Master HX, DSEE HX, รองรับ Bluetooth codec ระดับสูงอย่าง LDAC และยังใช้งานเทคโนโลยี NFC ได้ด้วย

ด้านความละเอียดเสียงสามารถรองรับฟอร์แมท DSD สูงถึง 11.2MHz ครับ และสามารถถอดรหัสไฟล์ MQA ได้อีก ที่น่าสนใจก็คือ A105 มีความสามารถจำลองโทนคาแรคเตอร์จากเครื่องเล่นแผ่นเสียงได้ด้วย ช่วยเพิ่มลูกเล่นในการฟังไฟล์เพลงดิจิตอลให้มากขึ้นครับ

HiBY R6 2020

HiBy R6 2020 Android Lossless Digital Audio Player เครื่องเล่นเพลง Android 9 ชิปเซ็ต Dual ES9038Q2M รองรับ Hi-Res

ปิดจ็อบเรื่องของ DAP กันด้วยตัวแรงจากปี 2020 ที่ยังแรงข้ามปีอยู่นั่นก็คือ HiBy R6 ครับผม ถือว่าเป็น DAP ที่ทาง HiBy ทำได้โดนใจผู้ใช้มากๆ ในรุ่นแรกก็ได้รับคำชมอย่างล้นหลามจนต้องส่งรุ่นอัพเกรดอย่าง R6 2020 ออกมาให้เสียตังค์กันต่อ

สิ่งที่ R6 โดดเด่นก็คือ CPU แบบ 8 Core ที่แรงสุดๆเทียบได้กับรุ่นเรือธงของค่ายอย่าง HiBy R8 เลยทีเดียว ด้าน DAC ก็เป็นระบบ Dual DAC ที่รองรับความละเอียดสูงมากๆ คือ DSD512 และ PCM 32Bit / 768kHz แน่นอนว่าไม่พลาดการรองรับ MQA ที่ระดับ 16X ครับผม

สามารถรองรับ Bluetooth ได้อย่างครบครัน แถมด้วย codec Hi-Res อย่าง UAT ที่เครื่องอื่นไม่มีแน่ๆ แต่ที่น่าสนใจกว่าก็คือเอาท์พุตที่อัดมาให้ครบมาๆ คือนอกจากเฮดโฟนเอาท์พุตแล้วก็ยังมีไลน์เอาท์พุตให้ด้วย แถมยังมีดิจิตอลเอาท์พุตแบบ Coaxial ให้อีก

สำหรับใครที่เล่นชุดเครื่องเสียงด้วย HiBy R6 จะเป็นอะไรที่คุ้มมากๆครับ


อาจจะเนื้อหาเยอะซักหน่อยนะครับสำหรับบทความชิ้นนี้ แต่เราอยากอัดข้อมูลมาให้ได้เยอะที่สุดสำหรับผู้ที่อยากจะหาหูฟังแบบสายสัญญาณมาใช้งานซักอันนึง

เพราะนอกจากหูฟังแล้วการที่เราจะได้คุณภาพเสียงที่ดีที่สุด อุปกรณ์ชิ้นอื่นๆรวมถึงความละเอียดของไฟล์เพลงที่ใช้ก็สำคัญไม่แพ้กัน ถ้าตัดสินใจเลือกหูฟังได้แล้วก็อย่าลืมหันมาดู DAC-Amp และเพลเยอร์ที่เราจะใช้ด้วยนะคร้าบ

พิมพ์ชื่อสินค้าที่ต้องการ

ตะกร้าสินค้า

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการแสดง Popup

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการแสดงโฆษณาเกี่ยวโปรโมชั่นบทเว็บของ jaben.co.th ให้กับท่าน หากท่านไม่ยินยอมให้ใช้คุกกี้ประเภทนี้ การแสดงโฆษณาให้กับท่านอาจจะมีความคลาดเคลื่อน และ ซ้ำซ้อนได้
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึก