JH Audio JOLENE หูฟังคัสต้อมรุ่นเอก เน้นความเป็นธรรมชาติ
JOLENE หูฟังคัสต้อมระดับท็อปรุ่นใหม่ล่าสุดจาก JH Audio ที่คุณ Jerry Harvey เจ้าของค่ายได้บอกเอาไว้ว่านี่คือหูฟังที่มีคาแรคเตอร์เสียงเป็นธรรมชาติ และได้ซาวด์ที่เป็นอะนาลอคมากที่สุดตั้งแต่เคยสร้างมา ลองมาดูกันครับว่าหูฟังคัสต้อมแบบไฮบริดรุ่นนี้มีดีที่ตรงไหนบ้าง
JH Audio Jolene Custom Hybrid In-Ear Monitor
จุดเด่น
- หูฟังคัสต้อมระบบไฮบริดใช้ไดรเวอร์ 12 ตัวต่อข้าง
- ใช้ไดนามิคไดรเวอร์จำนวน 4 ตัวสำหรับย่าน Low และ Mid Low
- ใช้ Balance Armature ไดรเวอร์จำนวน 8 ตัวสำหรับย่าน High-Mid และ Ultra-High
- ขั้วต่อแบบใหม่ 7 พิน Litz ระดับพรีเมี่ยมพร้อมโอริงสำหรับล็อคขั้วต่อ
- สายสัญญาณคุณภาพชุบเงิน OFC 4N ความบริสุทธิ์สูง
- ระบบ Triple Bore พร้อมเทคโนโลยี Freqphase ช่วยให้เสียงจากไดรเวอร์ทุกตัวทำงานได้อย่างพร้อมเพรียง
สุดยอดหูฟังคัสต้อมระบบไฮบริด
ไฮไลท์สำคัญของ JH Audio Jolene คงหนีไม่พ้นระบบไดรเวอร์แบบไฮบริดนี่ล่ะครับ โดยปกติแล้วทาง JH Audio จะสร้างหูฟังด้วยระบบไดรเวอร์ Balance Armature เป็นหลัก แต่สำหรับ Jolene นั้นถือว่าพิเศษมากๆเพราะได้นำไดรเวอร์แบบไดนามิคเข้ามาผสมโรงด้วยครับ
-
Dual Low 9.2mm Dynamic Drivers
ในส่วนของย่านความถี่ต่ำช่วง 20Hz – 400Hz นั้นจะเป็นหน้าที่ของไดรเวอร์ไดนามิคสองตัวขนาด 9.2 มิลลิเมตรประกบอยู่ในแคปซูลที่จะส่งไปยังท่อนำเสียง ซึ่งไดรเวอร์สองตัวนี้จะทำหน้าที่เทียบเท่ากับไดรเวอร์ขนาดเกือบ 20 มิลลิเมตรเลยทีเดียว ซึ่งทำให้ได้นำเสียงซับเบสที่หนักแน่นเกินขนาดของหูฟังไปได้เยอะเลยทีเดียวครับ
-
Dual Low Mid 4.9mm Dynamic Drivers
ถัดมาที่ย่าน Low Mid กันต่อครับ โดยใช้ไดรเวอร์ไดนามิคเช่นเดียวกัน แต่จะเป็นขนาด 4.9 มิลลิเมตรจำนวนสองตัวครับ ซึ่งเป็นแบบเดียวกับที่อยู่ในหูฟังรุ่น Lola ครับ ซึ่งไดรเวอร์สองตัวนี้จะตอบสนองเสียงกีตาร์โดยเฉพาะกีตาร์แบบดิสทอร์ชั่นได้ดีมากๆ ซึ่งก็ไม่น่าแปลเพราะในรุ่น Lola เองก็เป็นที่ถูกใจมือกีตาร์ร็อคระดับตำนานอย่าง Slash มากๆครับ ไดรเวอร์แบบไดนามิคจะให้ texture ของกีตาร์ที่ดีมากๆ ซึ่งเป็นข้อดีที่เหนือกว่าไดรเวอร์แบบ BA ครับ
-
High-Mid Quad Balance Armature
ตั้งแต่ย่าน 4KHz ไปจนถึง 10KHz จะเป็นหน้าที่ของไดรเวอร์แบบ Balance Armature ล่ะครับ โดยในย่านเสียงกลางไปจนถึงเสียงแหลมจะใช้ไดรเวอร์ถึง 4 ตัวด้วยกัน ซึ่งจะมีความแม่นยำสูงและให้เสียงที่แฟลทเป็นธรรมชาติครับ
-
Ultra High Quad Balance Armature
ในย่านเสียงแหลม 10KHz ไปจนถึงสุดทางที่ 23KHz ก็ยังมีไดรเวอร์ BA คอยควบคุมอยู่อีก 4 ตัวด้วยกันครับ ซึ่งจะทำให้เสียงแหลมของ Jolene นั้นไปได้สุดทางมากๆ
อัดแน่นด้วย เทคโนโลยีเฉพาะ ของ JH Audio
FREQPHASE WAVEGUIDE
Freq | phase เป็นเทคโนโลยีที่ตอบสนองเรื่องเฟสได้แม่นยำที่สุดในตลาด โดยสร้างท่อนำเสียงแบบพิเศษที่จะทำให้การเดินทางของเสียงในแต่ละความถี่มาถึงหูคุณได้พร้อมเพรียงกันทำให้ไม่เกิดปัญหาเรื่อง phase cancellation
เทคโนโลยี SOUNDRIVE
เทคโนโลยี Soundrive เป็นเทคโนโลยีที่ทำให้ JH Audio สามารถติดตั้งไดรเวอร์แบบ BA Quad ลงไปในหูฟังได้ ทำให้ Jolene สามารถใช้ไดรเวอร์ได้สูงสุดถึง 12 ตัวต่อข้าง
ระบบอะคูสติก
Acoustic Sound Chamber เป็นการขึ้นรูปหูฟังด้วยพิมพ์ 3 มิติ ซึ่งเป็นระบบแรกที่ทำให้หูฟังสกปรกยากขึ้น ช่วยลดความจำเป็นในการทำความสะอาดได้อีก
คาแรคเตอร์เสียงที่เป็นธรรมชาติและซาวด์แบบอะนาลอค
จุดประสงค์ที่คุณ Jerry Harvey สร้างหูฟังรุ่นนี้ขึ้นมาก็เพราะต้องการหูฟังที่สามารถตอบสนองต่อเสียงได้อย่างเป็นธรรมชาติมากที่สุดครับ โดยเฉพาะไดรเวอร์แบบไดนามิคที่จะช่วยให้เสียงมีเทกเจอร์ มีฮาร์โมนิคที่ดี ช่วยให้เสียงมีน้ำหนัก มีความแน่น และให้คาแรคเตอร์ของซาวด์แบบอะนาลอคได้สูงมาก ขนาดคุณ Jerry Harvey เองยังบอกไว้เลยว่านี่คือหูฟังที่ให้ซาวด์แบบอะนาลอคได้มากที่สุดตั้งแต่เค้าเคยสร้างหูฟังออกมา ไม่ว่าจะนักฟังสาย Audiophile หรือนักดนตรีมืออาชีพรับรองว่าจะต้องปลื้มกับสุ้มเสียงของ Jolene แน่นอนครับ
ของแถมครบครันพร้อมกล่องแบบพิเศษ
UNBOXED
- Premium Litz Wire Cable
- A personalized JH Audio Carbon Fiber IEM Case
- Wax Tool
- Bass Adjustment Tool
- Flygirl Sticker
- Owner’s Manual
นอกจากความสวยงามของตัวหูฟังแล้ว กล่องเก็บหูฟังก็ไม่ธรรมดาเช่นเดียวกัน โดยเป็นกล่อง Carbon Fiber ที่จะมาพร้อมลวดลาย Flygirl แบบพิเศษที่ไม่เหมือนกล่องของหูฟังรุ่นอื่น บอกเลยว่าสวยงามมากๆครับ
สำหรับแฟนๆ JH Audio นี่เป็นหูฟังอีกรุ่นที่น่าสนใจมากๆครับ ยิ่งถ้าคุณชอบซาวด์แบบคลาสสิคร็อคไม่ว่าจะเป็นวงอย่าง Led Zeppelin, AC/DC หรือว่า Black Sabbath รับรองว่าคุณจะหลงรักหูฟังรุ่นนี้มากๆครับ เพราะมันเกิดเพื่อซาวด์ของเสียงกลองที่เต็มอิ่มและเสียงกีตาร์อันหนักแน่นดุดันโดยเฉพาะครับ
SPECS
- Frequency Response: 20 Hz to 23 kHz
- Impedence: 10 Ω
- Input Sensitivity: 114 dB @ 1mW
- Noise Isolation: -26 dB