JH AUDIO LAYLA vs RoXanne คัสต้อมคู่เหมือนที่แตกต่าง
สองสุดยอดตัวท็อปของหูฟังคัสต้อมประจำบ้าน JH Audio ที่ได้รับการการันตีคุณภาพจากศิลปินระดับโลก ถ้าคุณต้องการระบบฟังเพลง Hi-Fi แบบเคลื่อนที่ สามารถให้คุณภาพเสียงระดับโปรได้ในทุกสถานที่ล่ะก็ หูฟังทั้ง 2 รุ่นตอบสนองความต้องการได้อย่างเกินพอครับ
JH Audio LAYLA Custom In-ear Monitor
จุดเด่น
- หูฟังคัสตอมระบบ Balanced Armature ข้างละ 12 ตัว
- ช่วยลดเสียงรบกวน หรือ Noise Isolation ได้ถึง -26dB
- สามารถปรับเพิ่ม Bass Output ได้สูงสุดถึง +10dB ผ่านรีโมทที่สายสัญญาณ
- ขั้วต่อแบบใหม่ระบบ 7-pin Cable Connector แข็งแรงทนทาน
- ใช้ระบบครอสโอเวอร์แบบIntegrated 4th Order crossover
- เทคโนโลยี Freq|phase ที่ช่วยให้การทำงานของทุกความถี่พร้อมเพรียงกัน
- สายสัญญาณทำจากเงิน OFC คุณภาพสูง ปราศจากสนิมและส่งสัญญาณได้ราบลื่นสุดๆ
JH Audio RoXanne Custom In-ear Monitor
จุดเด่น
- หูฟังคัสตอมระบบ Balanced Armature ข้างละ 12 ตัว
- ช่วยลดเสียงรบกวน หรือ Noise Isolation ได้ถึง -26dB
- สามารถปรับเพิ่ม Bass Output ได้สูงสุดถึง +15dB ผ่านรีโมทที่สายสัญญาณ
- ขั้วต่อแบบใหม่ระบบ 7-pin Cable Connector แข็งแรงทนทาน
- ใช้ระบบครอสโอเวอร์แบบ Integrated 3-way crossover
- เทคโนโลยี Freq|phase ที่ช่วยให้การทำงานของทุกความถี่พร้อมเพรียงกัน
- สายสัญญาณทำจากเงิน OFC คุณภาพสูง ปราศจากสนิมและส่งสัญญาณได้ราบลื่นสุดๆ
คัสต้อม คู่เหมือน ที่ แตกต่าง
ดูจากสเปคเผินๆแล้วทั้ง LAYLA และ RoXanne แทบจะใกล้เคียงกันมากเลยทีเดียวใช่มั้ยครับ แต่ด้วยข้อแตกต่างเพียงไม่กี่จุดก็ทำให้ทั้งสองรุ่นมีค่าตัวต่างกันราวสามหมื่นบาทเลยทีเดียว ถึงความเป็นสุดยอดหูฟังของทั้ง 2 รุ่นจะมีคุณภาพเสียงที่ไม่ทำให้ผิดหวังทั้งคู่ แต่เราก็ลองมาดูข้อแตกต่างเล็กๆน้อยๆ เพื่อเป็นส่วนประกอบในการติดสินใจสั่งทำหูฟังทั้งสองรุ่นนี้กันดีกว่าครับ
ระบบ Patent Pending Variable bass output
ความสามารถในการควบคุมไดรเวอร์ย่านความถี่ต่ำหรือเสียงเบสนั้นเป็นเอกลักษณ์อย่างนึงของ JH Audio เค้าเลยล่ะครับ โดยผู้ใช้งานสามารถเพื่อปริมาณเบสได้อย่างอิสระ หรือจะปรับแฟลทไว้ให้ได้เสียงเบสตามคาแรคเตอร์ที่แท้จริงของหูฟังก็ได้ ซึ่งในรุ่น LAYLA และ RoXanne นั้นจะสามารถปรับค่า Bass Output สูงสุดได้ไม่เท่ากันครับ
JH Audio LAYLA : adjustable bass 0 to +10db
JH Audio RoXanne : adjustable bass 0 +/- 15db
จากสเปคจะเห็นว่า RoXanne สามารถบูสย่านความถี่ต่ำได้มากกว่า 5dB ครับ ซึ่งก็น่าจะตอบโจทย์วัยรุ่นที่ชอบความสะใจของเบสได้มากกว่าเล็กน้อย อันนี้ก็ต้องลองมาเทสกันแล้วล่ะครับ ว่าคุณต้องการจะปรับเบสเพิ่มจากค่าเริ่มต้นมากขนาดไหน
ความไว และ ความต้านทาน ที่ไม่เท่ากัน
ข้อแตกต่างต่อมาของหูฟังทั้งสองรุ่นจะเป็นเรื่องของค่า sensitivity และ impedance ที่แตกต่างกันอยู่เล็กน้อยครับ
JH Audio LAYLA : Input Sensitivity: 117dB @ 1Mw / Impedance: 20 Ohms
JH Audio RoXanne :Input Sensitivity: 119dB @ 1Mw / Impedance: 15 Ohms
เมื่อดูจากตัวเลขจะเห็นว่า RoXanne จะสามารถขับเสียงได้ง่ายกว่า LAYLA เล็กน้อยครับ เพราะมีค่าความไวเสียงที่ตอบสนองได้มากกว่า รวมถึงอิมพีแดนซ์ที่น้อยกว่าด้วย แต่ถือว่าไม่ต่างกันมากเกินไปครับ ทั้งสองรุ่นออกแบบมาเผื่อการใช้งานกับ Mobile Device อย่างเช่นสมาร์ทโฟนอยู่แล้ว แต่ถ้าชอบการตอบสนองที่ว่องไวต่อแอมป์ขนาดเล็กมากกว่าล่ะก็ RoXanne ก็จะได้เปรียบกว่าเล็กน้อยครับ
เรื่องของระบบ Crossover
อีกจุดนึงที่เป็นข้อแตกต่างสำคัญของหูฟังทั้ง 2 รุ่นก็คือระบบครอสโอเวอร์ที่แตกต่างกันครับ
JH Audio LAYLA : Integrated 4th Order crossover
JH Audio RoXanne : Integrated 3-way crossover
ว่ากันตามทฤษฎีแล้วระบบครอสโอเวอร์แบบ 4th order crossover จะมีความซับซ้อนมากกว่าระบบ 3-way crossover หรือระบบครอสโอเวอร์แบบ 3 ทางตามปกติครับ ซึ่งในจุดนี้ทำให้คาแรคเตอร์เสียงของทั้งคู่มีความแตกต่างกันมากพอสมควรถึงแม้ว่าจะใช้ไดรเวอร์แบบ Balanced Armature มากถึง 12 ตัวเหมือนกันก็ตาม ซึ่งในข้อนี้สิ่งที่จะทำให้เราตัดสินใจได้ง่ายที่สุดก็คงไม่พ้นการทดลองฟังทั้ง 2 รุ่นเทียบกันแบบ A/B Test ล่ะครับ
นอกจากข้อแตกต่างหลักๆ 3ข้อแล้ว สเปคและวัสดุของ LAYLA และ RoXanne แทบจะเหมือนกันราวฝาแฝดเลยทีเดียวครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสายสัญญาณ และระบบ Triple Bore with Freqphase ฉะนั้นถ้าอยากรู้ว่ารุ่นใดคือคู่แท้ของหูเราล่ะก็ มาทดลองพลังเสียงแบบตัวเป็นๆกันจะเป็นการดีที่สุดครับผม
Accessories Included
- A personalized Carbon Fiber and Black Aluminum Carrying Case
- Wax Tool
- Comply™ Wrap sample
- Screw Driver, used to adjust the variable bass