(คิง) Kong หูฟัง True Wireless สุดแนว โดดเด่นด้วยรูปร่างหน้าตาที่ทันสมัย ประหนึ่งว่าหลุดมาจากชิ้นส่วนของหุ่นกันดั้มก็ไม่ปาน ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจล่ะครับ เพราะว่าเป็นแบรนด์ที่ส่งตรงมาจากประเทศญี่ปุ่น เรื่องสไตล์การออกแบบเฟี้ยวๆแบบนี้ก็ต้องยกให้ชาวอาทิตย์อุทัยเค้าอยู่แล้ว สำหรับหูฟัง Kong ในตอนนี้ก็จะมีอยู่สองรุ่นหลักๆ นั่นก็คือ Kong-X และ Kong-X Pro ดูจากหน้าตาแล้วมันช่างละม้ายคล้ายคลึงกันเสียเหลือเกิน งานนี้เราลองมาดูความแตกต่างของทั้ง 2 รุ่นกันดีกว่าครับ

ข้อแตกต่าง Kong-X และ Kong-X Pro

ก่อนอื่นเรามาดูชื่อรุ่นเต็มๆของทั้งสองรุ่นกันก่อนครับ ในรุ่น Kong-X นั้นจะมีรหัสเต็มว่า Kong-X HMC-K980TWS ส่วนรุ่น Kong-X Pro มีรหัสเต็มๆว่า Kong-X KX-980TW Pro

โดยที่รุ่น Kong-X นั้นถูกเปิดตัวมาก่อนและได้เสียงตอบรับที่ดีมากๆ ด้วยดีไซน์ที่โดนใจวัยรุ่น สุ้มเสียงที่ดุดันฟังสนุก แถมเป็นแบรนด์จากญี่ปุ่นที่ไม่ว่าใครก็ยอมรับในเรื่องคุณภาพสินค้าของประเทศนี้อยู่แล้ว ทำให้ต่อมาจึงมีการเปิดตัวรุ่นใหม่นั่นก็คือ Kong-X Pro ตามมานั่นเองครับ โดยในรุ่นหลังนั้นก็ได้รับการปรับปรุงรายละเอียดต่างๆให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ถ้าใครสนใจหูฟัง Kong-X อยู่ล่ะก็ ลองมาดูข้อแตกต่างชัดๆของทั้ง 2 รุ่นเพื่อให้ง่ายต่อการตัดสินใจดีกว่าครับ

ขุมพลังภายในและ Bluetooth Codec

จุดแรกที่ต่างกันอย่างชัดเจนก็เห็นจะเป็นระบบชิพเสียงภายในครับ ซึ่งในรุ่นใหม่อย่าง Kong-X Pro นั้นจะถูกอัพเกรดให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยที่สามารถรองรับ Bluetooth Codec aptX ได้แล้ว จึงทำให้รุ่น Pro เป็นหูฟังที่รองรับ Hi-Res Audio อย่างเต็มตัว ถ้าคุณไม่ได้ซีเรียสกับการฟังเพลงความละเอียดสูงแล้วล่ะก็ รุ่น Kong-X ที่รองรับ Codec พื้นฐานอย่าง SBC และ AAC_LC ก็ถือว่าคุณภาพดีเหลือเฟือแล้วล่ะครับ

ระบบ Hybrid Drivers

ระบบไดรเวอร์ของทั้ง 2 รุ่นยังตั้งอยู่บนพื้นฐานเดียวกันครับ โดยเป็นระบบไดรเวอร์แบบผสมหรือ Hybrid Driver ซึ่งประกอบไปด้วยไดรเวอร์ Balanced Armature 1 ตัวและไดรเวอร์ Dynamic ที่ไดอะแฟรมทำมาจากไทเทเนียมอีก 1 ตัวครับ สูตรนี้ค่อนข้างเป็นที่นิยมในหูฟังรุ่นใหม่ๆหลายต่อหลายรุ่นเลยทีเดียว เพราะถือเป็นการผสมผสานที่เรียกได้ว่าเป็น “Best Of Both World” โดยนำจุดเด่นของไดรเวอร์ทั้ง 2 แบบมารวมร่างกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ของเสียงที่ดีที่สุด ใครชอบฟังเสียงสไตล์มันส์ๆ สนุกสนานจัดจ้าน แต่ก็สามารถเก็บรายละเอียดเสียงได้ดีควรมาลอง Kong-X เป็นอย่างยิ่งครับ

ความแข็งแรง ทนทาน

อีกจุดหนึ่งที่เป็นข้อแตกต่างของทั้งสองรุ่นก็คือเรื่องของความแข็งแรง ทนทานเนี่ยล่ะครับ โดยในรุ่นใหม่อย่าง Kong-X Pro ถูกอัพเกรดให้รองรับมาตรฐาน IPX5 ซึ่งสามารถป้องกันฝุ่นและป้องกันน้ำที่ฉีดด้วยแรงดันต่ำอย่างน้อย 3 นาทีได้ นั่นก็หมายความว่าคุณสามารถใส่ Kong-X Pro ไปออกกำลังได้สบายๆครับ ดังนั้นถ้าคุณคาดว่าต้องใช้หูฟังในสถานการณ์สมบุกสมบันแล้วล่ะก็  Kong-X Pro จะเป็นคำตอบที่ดีกว่า Kong-X รุ่นปกติครับ

Charging Case สุดเท่

ตัวเคสหูฟังนั้นดูเผินๆอาจจะคล้ายกัน แต่ในรุ่น Kong-X วัสดุภายนอกของเคสจะเป็นลักษณะคล้ายผ้าใยสังเคราะห์แข็งๆ ส่วนในรุ่นใหม่กว่าอย่าง Kong-X Pro จะเปลี่ยนมาเป็นเคสหนังแล้วครับ ซึ่งอันนี้ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนเลย การใช้งานนั้นไม่มีอะไรต่างกันครับ ตัวชาร์จเคสนั้นสามารถให้พลังงานสำรองได้ถึง 25 ชั่วโมงเหมือนกันทั้งคู่ แต่ถ้ามองในแง่ความทนทานแล้วเคสหนังของ Kong-X Pro ก็จะดีกว่าเล็กน้อยเพราะยังสามารถกันน้ำได้บ้างครับ

นอกนั้นในรายละเอียดที่เหลือ ทั้ง Kong-X และ Kong-X Pro แทบจะถอดแบบกันมาเหมือนเดิมครับ ใครที่สนใจหูฟังซีรี่ย์นี้ก็ต้องลองชั่งใจดูนะครับ ว่าเราซีเรียสกับฟังค์ชั่นที่เพิ่มมาในรุ่น Pro หรือไม่ ถ้าเน้นประหยัด Kong-X รุ่นแรกก็ตอบโจทย์ได้ดีไม่แพ้กัน แต่ถ้าอยากได้ความอัพเดทก็จัด Kong-X Pro ได้เลยครับ