Luxury & Precision W4 Dongle DAC ไฮเอนด์หน้าใหม่ที่ใครก็ต้องประทับใจ
Luxury & Precision เป็นแบรนด์จากประเทศจีนที่มี Audiophile Gadget น่าสนใจหลายรุ่นครับ อย่าง Dongle DAC ตัวท็อป W4 ที่ทำออกมาได้น่าประทับใจมากๆ โดยเฉพาะในเรื่องคาแรคเตอร์เสียงที่ดีเยี่ยมจน DAC ค่ายอื่นๆที่ออกมาก่อนหน้าต้องหันมามองกันเป็นตาเดียวแน่นอน
Luxury & Precision W4 : USB Dongle DAC-Amp
HIGHLIGHT
- ใช้วงจรถอดรหัส LP5108 ที่ทางค่ายพัฒนาขึ้นเอง
- รองรับสัญญาณ PCM สูงสุด 32bit/384kHz และ Native DSD256
- ให้กำลังขับที่มากกว่า 400mw @32 ohms และมีค่า Distortion ที่ต่ำมาก
- Output หูฟังแบบ 3.5mm และ 4.4mm พร้อมรองรับ Output S/PDIF ผ่านช่อง 3.5mm
- โปรไฟล์การปรับแต่งเสียง SDF สำหรับหูฟังบางรุ่น
- โปรไฟล์การปรับแต่งเสียง LP Tune สามารถปรับโทนเสียงของเครื่องได้อีก 2 แบบ
- หน้าจอแสดงผล OLED ขนาด 0.91 นิ้ว
โทนเสียงที่น่าประทับใจจากระบบ DAC-Amp ที่มีประสิทธิภาพ
ไปดูกันที่หัวใจสำคัญของ W4 กันเลยดีกว่าครับ ว่าอะไรที่ทำให้คาแรคเตอร์เสียงออกมาดีและน่าฟังมากๆ อย่างแรกเลยก็คือ Luxury & Precision ไม่ได้เลือกใช้ชิป DAC จากค่ายดังๆแต่เลือกที่จะพัฒนาชิป DAC ของตัวเองขึ้นมาใช้งาน ซึ่งชิปรุ่นนี้มีชื่อว่า LP5108 จากที่ได้ทดลองฟังไปแล้วน้ำเสียงที่ได้จาก W4 ให้รายละเอียดและมิติที่ดีเยี่ยมตามสไตล์ DAC ระดับไฮเอนด์ แต่จุดแข็งที่เหนือคู่แข่งไปอีกก็คือเนื้อเสียงที่อิ่ม มีน้ำหนักต่างจากระบบ DAC แบบ Delta Sigma ส่วนใหญ่
จริงๆแล้ว LP5108 เป็นทั้งระบบ DAC และชิป Amp ในส่วนเดียวกันครับ และภาคขยายของ W4 ก็ทำออกมาได้ดีมากๆเช่นกัน โดยให้กำลังขับได้สูงกว่า 400mW ที่โหลด 32 โอห์ม การออกแบบระบบของ W4 ทำให้ได้ Dynamic Range ที่สูงถึง 134dB ในขณะที่ค่า Distortion นั้นต่ำมาก ทาง Luxury & Precision เรียกระบบของตัวเองว่า “Five Zero” Low Distortion เพราะว่ามีค่า Distortion ที่ต่ำกว่า 0.01% นั่นเองครับ
ยังไม่จบแค่นั้นเพราะทาง Luxury & Precision บอกเลยว่า W4 นั้น “0” Noise Floor คือไม่มี Noise Floor ที่เกิดจากระบบตัวเครื่องเองเลย จึงให้พื้นหลังที่สงัดโชว์รายละเอียดเสียงได้ดี
ภาค DAC ของ W4 สามารถรองรับรายละเอียดสูงสุดได้ที่ PCM 32bit/384kHz และ Native DSD256 เรายังสามารถปรับคาแรคเตอร์เสียงทั้งหมดของเครื่องได้อีกสองแบบ เรียกโหมดนี้ว่า LP Tune แบบแรกคือ Tune 01 : Gentle และ Tune 02 : Refine ครับ
การออกแบบระบบจ่ายพลังงานก็ทำออกมาได้ดีครับ บวกกับชิป LP5108 เองก็มีอัตตราการบริโภคพลังงานที่ค่อนข้างต่ำ ทำให้ประหยัดแบตเตอรี่ของโทรศัพท์หรืออุปกรณ์อื่นที่เราเอา W4 ไปต่อพ่วง และยังส่งผลกับอุณหภูมิของตัวเครื่องที่ไม่ได้ร้อนมากเวลาใช้งานครับ
โหมดการใช้งานที่หลากหลาย
การปรับระดับเสียงรวมถึงการเข้าถึงเมนูต่างๆของตัวเครื่องจะใช้ลูกบิดโวลลุ่มแบบ Rotary Knob เพียงอันเดียวเท่านั้น ออกแบบปุ่มมาได้สวยงามเข้ากับตัวเครื่องดีทีเดียวครับ สัมผัสในการใช้งานก็เยี่ยมมากๆ
เมื่อเรากดปุ่มโวลลุ่มค้างไว้ก็จะเข้าสู่หน้าจอเมนูซึ่งจอแสดงผล OLED ขนาด 0.91 นิ้วถึงแม้จะดูเล็กแต่ก็ถือว่าชัดเจนเพียงพอครับ
นอกจากโหมด LP Tune ที่เล่าให้ฟังในช่วงแรกไปแล้ว W4 ก็ยังโหมดในการปรับแต่งเสียงต่างๆให้เราซนได้อีกครับ
- EQ Preset ที่ประมวลผลโดยชิป DSP แยกต่างหาก
- SDF mode เป็นพรีเซ็ทสำหรับใช้งานร่วมกับหูฟังไฮเอนด์บางรุ่น เช่น Beyerdynamic หรือ Shure
- ตั้งค่า Gain ได้สองระดับ
- มี Digital Filter ให้เลือกใช้งาน
- HID Key ให้เราเลือกได้ว่าจะคุมระดับเสียงที่ตัว W4 หรือจะคุมจากอุปกรณ์ host
ใช้งานได้ทันทีกับทุก OS แถมด้วย Digital Output
ในชุดของ W4 ให้สาย OTG มาสองรูปแบบคือ USB-C to USB-C สำหรับใช้งานกับอุปกรณ์สาย Android และมีสาย USB-C to Lightning สำหรับอุปกรณ์ iOS รวมถึงอะแดปเตอร์ USB-C to USB-A ให้เราเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ได้ด้วย แน่นอนครับว่า W4 แปรสภาพเป็น USB DAC ได้นั่นเอง รองรับการใช้งานทั้ง Windows และ MacOS
ในส่วนของเอาท์พุตที่มีทั้งแบบ 3.5mm Single-Ended และ 4.4mm Balanced สำหรับหูฟังก็ถือว่าครบเครื่องพอสมควรแล้ว แต่ว่า W4 ยังสามารถใช้งานช่องเอาท์พุต 3.5mm เป็นช่อง Digital out แบบ SPDIF ได้ด้วย
Luxury & Precision W4
น่าจะครบเครื่องพอสมควรครับสำหรับรายละเอียดของ Luxury & Precision W4 ซึ่งถ้าใครอยากอ่านรายละเอียดด้านการใช้งานจริง รวมถึงคาแรคเตอร์เสียงที่ได้ทดลองฟังบ้างแล้วก็สามรถไปอ่านที่ รีวิว ชุดนี้ได้เลยครับ มีการเปรียบเทียบกับคู่แข่งระดับเรือธงเช่นเดียวกันอย่าง Cayin RU7 ด้วย
ต้องบอกว่า Luxury & Precision W4 เป็น Dongle DAC-Amp รุ่นใหม่ที่พัฒนามาได้อย่างยอดเยี่ยม และน่าจับตามองมากๆว่าจะเขย่าวงการได้ขนาดไหน เพราะจากที่ลองฟังแล้วน้ำเสียงที่ได้สามารถทำให้เจ้าตลาดที่ออกมาก่อนหน้าหวั่นไหวได้ไม่ยากเลยล่ะครับ