NAIM UNITI ATOM Headphone Edition VS Standard Edition สตรีมเมอร์ตัวท็อปความเหมือนที่แตกต่าง
NAIM UNITI ATOM เป็นสตรีมเมอร์พร้อม DAC-Amp ระดับไฮเอนด์ที่ถูกส่งออกสู่ตลาด 2 รุ่นย่อยด้วยกันได้แก่ Standard Edition และ Headphone Edition ด้วยค่าตัวที่เท่ากันเป๊ะๆ แต่ฟังค์ชั่นการใช้งานจะมีจุดหลักที่แตกต่างกันพอสมควร ก่อนจะตัดสินใจเสียทรัพย์ต้องดูดีๆก่อนนะครับว่าเราเหมาะกับรุ่นไหนมากที่สุด
ดีไซน์ที่โคลนนิ่งกันมาเป๊ะๆ
NAIM UNITI ATOM ทั้งรุ่น Standard และ Headphone Edition จะมีหน้าตาที่เหมือนกันแทบจะเรียกได้ว่าเป๊ะ 100% ก็ว่าได้ครับ
ส่วนของบอดี้ทำมาจากอะลูมิเนียมสีดำแบบ Brushed Aluminium พร้อมฮีทซิงค์ขนาดใหญ่ที่ด้านข้าง ความสวยงามหรูหรามาเต็มสมราคาครับ ส่วนด้านหน้าก็มีหน้าจอขนาดใหญ่ที่ทำให้ใช้งานได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้นครับ
ทั้งสองรุ่นจะมี Volume Wheel ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Naim อยู่ด้านบนครับ บอกเลยว่าเป็นปุ่มโวลลุ่มที่ดูแพงและใช้งานได้ดีเยี่ยมครับ ให้สัมผัสการปรับที่ลื่นไหลพร้อมไฟ LED ที่ตอบสนองได้ทันที
การควบคุมตัวเครื่องยังสั่งการผ่านรีโมทคอนโทรลได้ และอุปกรณ์ทั้งหมดยังผลิดส่งตรงจากประเทศอังกฤษอีกด้วยครับ
ที่นี้เรามาดูภายนอกที่แตกต่างกันของ NAIM UNITI ATOM
Standard Edition
ที่ด้านหน้าตัวเครื่องรุ่น Standard นอกจากปุ่มควบคุมทางด้านซ้ายแล้ว ด้านขวาจะมีเพียงแค่ช่อง USB และ Headphone output 3.5mm. เท่านั้นครับ
Headphone Edition
พอเป็นรุ่นที่ออกแบบมาสำหรับใช้งานร่วมกับหูฟังจะเห็นได้ว่า ฝั่งซ้ายมือด้านหน้าตัวเครื่องจะเพิ่ม Headphone output มาให้ นอกจากเอาท์พุตแบบ Single-Ended 3.5mm แล้วก็ยังมี Balanced 4.4mm. มาให้เพิ่มครับ
ส่วนของ Output ที่แตกต่างกัน
ด้วยจุดประสงค์ในการใช้งานที่ต่างกันคือตัว Standard ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานกับลำโพงเป็นหลัก ส่วนตัว Headphone Edition ก็ออกแบบมาเพื่อใช้งานร่วมกับหูฟังทำให้เอาท์พุตที่ด้านหลังแตกต่างกันอยู่ครับ
Standard Edition
บอกก่อนเลยว่าส่วนของ Input ทั้งสองโมเดลนั้นเหมือนกันครับ ประกอบด้วย Digital และ Analog input รวมถึงช่อง Ethernet สำหรับระบบเน็ทเวิร์คด้วย
แต่ในรุ่นแสตนดาร์ดจะมีช่อง Speaker Output เพื่อส่งไปขับลำโพงได้เลย ซึ่งภาคเพาเวอร์แอมป์สามารถให้กำลังขับได้สูงสุดถึง 40W ต่อแชนแนลครับ นอกจากนั้นก็ยังมี Preamp output สำหรับใช้งานร่วมกับเพาเวอร์แอมป์ภายนอกได้อีกครับ
Headphone Edition
สำหรับรุ่นนี้ก็จะไม่มีภาคเพาเวอร์แอมป์แน่นอนครับ แต่ทาง Naim ก็ยังให้ Preamp output แบบ Balanced มาด้วยก็ถือว่ายอดเยี่ยมเพราะเรายังสามารถนำไปต่อกับซิสเต็มอื่นได้
ส่วนที่เพิ่มเข้ามาก็คือช่อง Headphone output แบบ Balanced XLR ซึ่งจะทำให้รุ่นนี้ตอบโจทย์กับการใช้งานหูฟังได้ทุกรูปแบบ โดยเฉพาะหูฟังฟูลไซส์ขนาดใหญ่ครับ
ไฮไลท์ของทั้ง 2 รุ่น
Streamer
จุดแข็งของทั้งสองโมเดลคือการเป็นสตรีมเมอร์ที่รองรับแอพพลิเคชั่นครบครันไม่ว่าจะเป็น
- Spotify
- Qobuz
- Tidal
- Roon Ready
นอกจากนั้นยังมี Chromecast Built-in มาให้ในตัวรวมถึง Apple AirPlay และแน่นอนว่ารองรับ Bluetooth ได้ด้วยครับ โดยให้ codec คุณภาพอย่าง aptX HD มาเลย
ใช้งานได้หลากหลาย
ไม่เพียงแค่จะเป็นสตรีมเมอร์เท่านั้นด้วยดิจิตอลอินพุตที่ให้มาเรายังเชื่อมต่อ NAIM UNITI ATOM เข้ากับทีวีหรือเครื่องเกมส์คอนโซลเพื่อเพิ่มความบันเทิงในการใช้งานได้อีก
เรายังสามารถเข้าถึงคลังเพลงอันมหาศาลผ่าน USB Flash Drive หรือ HDD ได้ด้วยการเชื่อมต่อเข้าที่ช่อง USB แน่นอนว่ายังรองรับระบบ Audio Network ได้อีกด้วยครับ
รองรับ Multi Room
ถ้าคุณมีอุปกรณ์ของ Naim อยู่ในบ้านมากกว่าหนึ่งเครื่องก็สามารถสั่งให้แต่ละเครื่องเล่นเพลงเดียวกัน หรือคนละเพลงก็ได้ผ่านสมาร์ทโฟนหรือแท็ปเลทด้วยระบบ Multi Room ได้ทันทีครับ
จากความแตกต่างจะเห็นได้ว่าทั้งสองรุ่นเลือกไม่ยากครับ สำหรับนักฟังเพลงที่ใช้งานร่วมกับลำโพงแบบ Passive อยู่แล้วก็ควรจะใช้งาน Standard Edition เป็นหลัก ส่วนสายนักเลงหูฟังก็ต้องใช้ Headphone Edition ตามชื่อรุ่นอยู่แล้ว ส่วนของฟังค์ชั่นและประสิทธิภาพโดยรวมเรียกได้ว่าแทบไม่แตกต่างกันครับ
แต่สิ่งที่เหมือนกันแน่ๆคือคุณภาพเสียงอันยอดเยี่ยม พร้อมกับอุปกรณ์ระดับไฮเอนด์มาตราฐานจากประเทศอังกฤษครับผม