NOTHING Ear (Stick) ไร้สายที่สวยที่สุดแห่งปี 2022
คงจะปฎิเสธไม่ได้ครับว่าทั้งหูฟังทั้งโทรศัพท์ของ Nothing ออกแบบมาได้กระชากใจวัยรุ่นมิลเลเนี่ยมเอามากๆเลย โดยเฉพาะหูฟังอย่าง Nothing Ear (Stick) ที่สามารถดีไซน์หน้าตาเดิมๆของหูฟัง TWS ให้ออกมาดูใหม่ ดูล้ำสมัยและเท่กว่าคู่แข่งในสนามรบได้หลายสเตปเลยทีเดียว
Nothing Ear (Stick) Wireless Earbud
HIGHLIGHT
- น้ำหนักเบาเพียง 4.4 กรัม ออกแบบตามหลักการยศาสตร์
- ไดร์เวอร์ไดนามิกขนาด 12.6 มม. ที่ถูกปรับแต่งให้เหมาะสม
- Clear Voice Technology ไมค์โครโฟนความคมชัดสูง 3 ตัว
- Bass Lock ซอฟต์แวร์อัจฉริยะที่ตรวจหาการขาดหายของเสียงเบสขณะที่คุณสวมหูฟัง
- ฟังได้นานสูงสุด 29 ชม.
หูฟังไร้สายดีไซน์สุดล้ำ
ใครจะกล้าเถียงว่าหูฟัง Nothing Ear (Stick) ออกแบบมาได้ล้ำและโดนใจเอามากๆ ไม่ได้สวยแค่ตัวหูฟังนะครับเพราะเค้าเท่มาตั้งแต่เคสหูฟังเลย เรียกว่าช่วยปรับลุคของหูฟังเอียร์บัดไร้สายให้ดูมีมิติและรายละเอียดมากขึ้นอีกเยอะเลยครับ
การเริ่มใช้งานหูฟังเราจะต้องเปิดเคสด้วยวิธีการบิดที่ตัวเคสก่อนครับ ดูเท่กว่าการเปิดฝาเคสของหูฟังไร้สายส่วนใหญ่มากเลย ฟีลเดียวกับประตูรถเก๋งทั่วไปกับประตูรถสปอร์ตแบบ Gullwing ยังไงหยั่งงั้น
สำหรับการเชื่อมต่อครั้งแรกจะมีปุ่ม Pairing อยู่ที่ด้านท้ายของกระบอกเคสครับ กดค้างไว้แป๊ปเดียวก็พร้อมจะเชื่อมต่อเข้ากับหูฟังแล้วครับ
มาดูที่ดีไซน์ของหูฟังกันบ้าง ทาง Nothing เคลมว่าออกแบบตามหลักการยศาสตร์ทำให้สวมใส่ได้สบาย ไม่อึดอัด เราสามารถใช้งานได้ยาวๆโดยไม่รู้สึกรำคาญแต่อย่างใดครับ ส่วนรูปร่างหน้าตาที่เป็นพลาสติคใสปล่อยให้เราเห็นอุปกรณ์ภายในก็อยู่ในคอนเซปต์เดียวกับ Nothing Phone ทำออกมาได้ลงตัวและเท่แบบตะโกนเลยทีเดียว
ฟังค์ชั่นเรื่องเสียงของ Nothing Ear (Stick)
หูฟัง Nothing Ear ใช้ไดร์เวอร์ไดนามิกขนาด 12.6 มม. ไดอะแฟรมทำมาจาก PEN (โพลีเอทิลีนแนฟทาเลต) + PU (โพลียูรีเทน)
ด้านเสียงถูกปรับแต่งมาให้มีเสียงที่เคลียร์ ชัดเจน แสดงรายละเอียดได้เยอะและตอบสนองทุกย่านความถี่ได้ครบถ้วน
ระบบเสียงยังมีลูกเล่น Bass Lock ซึ่งจะใช้ซอฟแวร์คอยตรวจเช็คเสียงเบสหรือความถี่ต่ำ ถ้าระบบรู้สึกว่าย่านความถี่นี้ขาดหายไปก็จะใช้ Equalizer ชดเชยให้โดยอัติโนมัติครับ
ฟีเจอร์ต่างๆของ Nothing Ear (Stick)
- Clear Voice Technology : เป็นระบบที่ทำให้เราใช้คุยโทรศัทพ์ได้อย่างชัดเจน โดยใช้ไมค์โครโฟน 3 ตัวบวกกับอัลกอริทึมที่จะวิเคราะห์เสียงกว่า 1 ล้านเสียงเพื่อช่วยขจัดเสียงลมและเสียงผู้คนออกไปเวลาเราคุยโทรศัพท์ครับ
- Fast Pair : ทำให้การเชื่อมต่อเข้ากับสมาร์ทโฟน Android เป็นไปได้อย่างรวดเร็ว และทำให้เราเล่นเกมส์ได้โดยสลับเป็นโหมดความหน่วงต่ำโดยอัตโนมัติ นั่นก็คือทั้งภาพและเสียงจะซิงค์กันได้ดีขึ้นนั่นเองครับ
- Battery : ตัวหูฟังเองสามารถใช้งานได้ร่วม 7 ชั่วโมงครับ แถมยังรองรับระบบ Fast Charge ด้วย ใช้เวลาชาร์จเพียง 10 นาทีก็จะมีพลังงานพอให้เราใช้ฟังเพลงได้อีกประมาณ 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว
- ใช้งานร่วมกับ Phone (1) : ถ้าใช้งานกับสมาร์ทโฟนร่วมค่ายก็จะให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีที่สุดแน่นอนครับ แต่สำหรับโทรศัพท์ Android รุ่นอื่นหรือ iOS ก็สามารถใช้ได้เช่นกัน ถ้าอยากจะใช้ฟังค์ชั่นต่างๆให้ครบถ้วนอย่างเช่น EQ ก็ต้องโหลดแอพ Nothing X มาร่วมใช้งานด้วยนะครับ
Nothing Ear (Stick)
ถึงไม่ต้องเชียร์แต่หูฟัง Nothing Ear (Stick) ก็น่าจะเป็นหูฟัง True Wireless ที่โดนใจใครหลายๆคนเป็นที่เรียบร้อย ถ้าใครชอบหูฟังดีไซน์ล้ำๆเท่ๆ ก็จัดได้เลยครับรับประกันว่าเวลาสวมใส่จะเพิ่มค่าความหล่อ ความสวยให้กับเราได้อีก +3 สตอปเลยทีเดียวเชียว