รู้สักนิดจะได้ไม่งงตอนสั่งหูฟัง Custom

หูฟัง Custom In-Ear Monitor หรือ CIEM นับว่าเป็นอีกหนึ่งนิพพานของคนเล่นหูฟังก็ว่าได้ครับ จากคำบอกเล่าของหลายๆท่านที่ได้ผ่านมือมาก่อน ต่างก็ยืนยันถึงคุณภาพของหูฟังประเภทนี้เป็นอย่างดี ทำให้ใครที่เริ่มเข้าสู่วงการแล้ว ปลายทางก็ล้วนอยากจะจบที่หูฟังคัสตอมกันทั้งนั้น แต่เรื่องของหูฟังคัสตอมก็ไม่ได้มีแต่ด้านสวยงามไปซะทั้งหมด ข้อเสียบางอย่างก็มีเช่นเดียวกับหูฟังทั่วไป ถ้าอยากจะเล่นหูฟังคัสตอมแล้วล่ะก็ ควรเผื่อใจกับปัญหาเล็กๆน้อยๆที่เราอาจพบเจอเข้าได้ครับ

ระยะเวลาในการสั่งทำ

หนึ่งในคำถามยอดฮิตสำหรับคนสั่งทำหูฟังคัสตอม ก็เห็นจะเป็นเรื่องระยะเวลาตอนที่เรารอคอยหูฟังเสร็จสมบูรณ์นี่ล่ะครับ ถามกันทั่วบ้านทั่วเมือง ถามกันทุกวันเลยทีเดียว

“JH Audio ผลิตด้วยมือทุกขั้นตอนการผลิต”

โดยปกติระยะเวลาที่ใช้ในการสั่งทำหูฟังคัสตอมจะอยู่ที่ 1 เดือนกว่าๆ ถึง 2 เดือน (5 – 8 สัปดาห์) โดยประมาณครับ ซึ่งจุดนี้จะขึ้นอยู่กับแต่ละค่ายด้วยนะครับ ยกตัวอย่างเช่นหูฟังของ JH Audio, FitEar หรือว่า Avara ส่วนมากจะใช้เวลาสั่งทำ 5-6 สัปดาห์ครับ

ขั้นตอนการส่งแบบพิมพ์หูไปยังผู้ผลิตรวมถึงการส่งหูฟังที่เสร็จเรียบร้อยกลับมา โดยปกติจะใช้บริการจัดส่งทางอากาศแบบ Express Service ครับ เรียกได้ว่าพยายามให้ระยะเวลาในการขนส่งเป็นไปได้เร็วที่สุด แต่ก็มีหลายครั้งที่เกิดเหตุไม่คาดคิดซึ่งอาจทำให้หูฟังล่าช้ากว่ากำหนดได้เหมือนกันครับ ยกตัวอย่างเช่น ออเดอร์ที่สั่งจากหลายๆที่กระหน่ำเข้าไปที่ผู้ผลิตกะทันหัน ทำให้ไม่สามารถผลิตหูฟังของเราได้ทันเวลาตามที่กำหนดเอาไว้ในตอนแรก

หรืออย่างบางครั้งเกิดบังเอิญพอดี ช่วงที่ส่งหูฟังไปทำนอกจากผู้ผลิตจะมีออเดอร์เยอะแล้วยังไปชนกับช่วงวันหยุดเทศกาลของประเทศนั้นๆอีก อันนี้ก็ต้องบวกเวลารอกันมากขึ้นกว่าเดิมครับ จากเดิมที่ใช้เวลาไม่เกิน 2 เดือน บางครั้งกลับกลายต้องรอเกือบ 3 เดือนก็เกิดขึ้นได้เช่นกันครับ แต่ปัจจุบันนานๆ จะเกิดที เช่นช่วงเทศกาลปีใหม่ หรือ คริสมาสต์เท่านั้น

โอกาสแบบนี้เกิดขึ้นไม่บ่อยครั้งนัก แต่ถ้าใครที่พบเจอเข้ากับปัญหาดังกล่าวก็ขอให้อดทนรอกันซักนิดนะครับ เวลาเกิดปัญหาความล่าช้าที่ผิดปกติ ทางร้านตัวแทนจะพยายามตามความคืบหน้าในการผลิตหูฟังให้เป็นระยะๆอยู่แล้วครับ

ฉะนั้นแล้วใครที่กำลังคิดจะสั่งทำหูฟัง Custom เรื่องของความล่าช้าหรือปัญหาการดีเลย์ อาจเป็นเรื่องที่ต้องเผื่อใจไว้ซักนิดนะครับ แต่รับรองว่าทุกท่านที่สั่งหูฟังไว้ต้องได้รับสินค้าถึงมือแน่นอนครับ

ใส่ไม่พอดีต้องส่งไป Refit อีกรอบนะ

มีบางกรณีที่หูฟังมาส่งได้ตรงตามเวลาพอดี แต่กลับไปเกิดปัญหาที่ตัวหูฟังไม่ฟิตพอดีกับช่องหูเราแทน เคสแบบนี้ก็จำเป็นต้องส่งกลับไปให้ทางผู้ผลิตแก้ทรงหูฟังอีกรอบ หรือที่เรียกกันว่า Refit นั่นเองครับ โดยระยะเวลาในการ Refit หูฟังมักจะใช้เวลาราวๆ 3-8 สัปดาห์ (1-2 เดือน) อาจจะใช้เวลาซักหน่อย แต่เร็วกว่าตอนสั่งทำครั้งแรกแน่นอน

เรื่องของการรีฟิตหูฟังคัสต้อมนั้นเคยกล่าวโดยละเอียดกันไปแล้ว แต่สรุปกันแบบง่ายๆก็คือถ้าหูฟังที่เราสั่งทำมามีอาการดังต่อไปนี้

1. ใส่แล้วฟิตเกินผิดปกติ รู้สึกเจ็บจนทนไม่ไหว
2. ใส่แล้วหลวมผิดปกติ พยามใส่ยังไงก็หลุดออกมาจากช่องหูได้ง่ายๆ

ถ้าอยู่ในสองข่ายดังกล่าว ก็มีความจำเป็นที่คุณต้องยอมเสียเวลาส่งหูฟังกลับไปให้เค้าแก้ทรงของบอดี้กันอีกรอบเพื่อความสมบูรณ์ครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทางลูกค้าจะไม่ต้องเสียเงินเพิ่มในส่วนของค่าแรงแต่อย่างใด ยกเว้นค่าขนส่งครับ โดยเงื่อนไขนั้นก็คือภายใน 30 วัน หลังจากที่หูฟังมาถึงร้านเรียบร้อย ขอให้ผู้ที่สั่งทำหูฟังเข้ามารับของและทดลองฟังให้เรียบร้อย เผื่อว่าพบเจอปัญหาเข้าก็จะได้ส่งกลับไปแก้ โดยไม่ต้องเสียค่าแรงในการ Refit ครับผม

โดยปกติการ Refit หูฟังนั้นไม่ใช่การหล่อแบบพิมพ์หูขึ้นมาใหม่แต่อย่างใดครับ แต่เป็นการปรับขนาดบอดี้ให้พอดีกับช่องหูมากขึ้นนั่นเอง เปรียบได้กับการ ปะผุ ตัวถังรถ ถ้าหูฟังใส่แล้วคับเกินไป ก็ต้องมีการเกลาบางส่วนให้มีขนาดเล็กลงเพื่อให้ใส่ได้พอดี ส่วนที่ใส่แล้วรู้สึกว่าหลวมมากไป ก็ต้องเอามาปะเพิ่มแล้วเกลาให้พอดีกับช่องหูอีกทีครับ

สั่งผ่านตัวแทนสบายใจกว่านะ

หลายคนลองเช็คราคาหูฟังคัสตอมในเวปไซต์เมืองนอกแล้ว อาจจะรู้สึกว่าราคาถูกกว่าสั่งผ่านร้านตัวแทนเยอะเลย ซึ่งอันนี้ก็เป็นปกติอยู่แล้วครับ เนื่องจากการสั่งทำหูฟังคัสตอมโดยตรงกับผู้ผลิตถึงตัวหูฟังจะมีราคาถูกกว่า แต่จะมีค่าใช่จ่ายเพิ่มเติมและภาระความเสี่ยงที่คุณอาจจะต้องพบเจอและแก้ไขด้วยตัวเองครับ ยกตัวอย่างเช่น

1. ค่าใช้จ่าย และ เทคนิค ในการทำแบบพิมพ์หู (Ear Impression)

ปกติค่าใช้จ่ายในการสั่งทำหูฟังคัสตอมผ่านตัวแทนจะรวมค่าทำแบบพิมพ์หูไว้ในตัวอยู่แล้วครับ นอกจากจะประหยัดเงินในส่วนนี้ก็ยังสะดวกไม่ต้องเทียวนั่งรถไปมาให้เสียเวลาด้วย และที่สำคัญอีกอย่างการทำแบบพิมพ์หูควรทำกับร้านหรือคลีนิคที่ไว้ใจได้ด้วยนะครับ เพราะหูของเรานั้นบอบบางไม่ใช่น้อย ทำไม่ดีอาจหูพังได้ ไม่รู้ตัวนะครับ

และในหลายๆ แบรนด์มีวิธีในการขึ้นรูปแบบหูที่พิเศษแตกต่างจากกระบวนการทั่วไปตามคลินิก ถ้าเราเกิดไปทำแบบหูจากคลินิกอะไรก็ไม่รู้ หูฟังที่ก็จะกลายทรงอะไรก็ไม่รู้เช่นกันครับ

2. ค่าขนส่งและการรับประกันสินค้า

แม้ว่าการสั่งหูฟังด้วยตัวเองทางบริษัทเค้าจะมีการรับประกันสินค้าไว้ให้เรียบร้อยแล้วก็จริง แต่ค่าใช้จ่ายในการขนส่งเราก็ยังจำเป็นต้องจัดการด้วยตัวเองทั้งหมดครับ ไม่ว่าจะเป็นค่าขนส่งแบบพิมพ์หูไปยังผู้ผลิต หรือว่าถ้ามีปัญหาของอุปกรณ์ที่ไม่ได้เกิดจากน้ำมือของเราแต่เกิดจากขั้นตอนการผลิต การส่งเคลมเราก็ต้องเป็นคนออกค่าขนส่งเองทั้งหมด

นี่ยังไม่รวมถึงความยุ่งยากที่เราต้องเป็นคนคอยติดตามและติดต่อทุกขั้นตอนว่าหูฟังถึงมือบริษัทเรียบร้อยมั้ย? ซ่อมเสร็จเรียบร้อยรึยัง? ซึ่งบอกได้ว่าค่อนข้างที่จะปวดหัวพอสมควรครับ ถ้าสั่งผ่านตัวแทนเราสามารถให้ร้านตัวแทนช่วยติดตามปัญหาในจุดเหล่านี้ได้ครับ

3. หูฟังบางยี่ห้อลูกค้าไม่สามารถสั่งเองโดยตรงได้

ยกตัวอย่างหูฟังชื่อดังจากญี่ปุ่นอย่างเช่น FitEar ซึ่งเราไม่สามารถสั่งทำเองได้ถ้าไม่ผ่านร้านตัวแทนครับ เนื่องจากทางผู้ผลิตไม่มีนโยบายผลิตสินค้าให้กับชาวต่างชาติโดยตรง และการอธิบายสินค้าจะอยู่ที่ตัวแทนในประเทศเท่านั้น ถ้าดูจากหน้าเวปไซต์ก็พอจะรู้ว่าไม่มีภาษาอังกฤษให้อ่านเลย ดังนั้นใครที่สนใจอยากได้ล่ะก็ จำเป็นที่จะต้องสั่งทำผ่านร้านตัวแทนจำหน่ายเท่านั้นครับ

Remold (หรือเรียกอีกอย่างว่า Reshell) หูฟังระวังเสียงเปลี่ยน

อีกหนึ่งทางเลือกและประหยัดเงินในกระเป๋าลงไปได้อีกหลายบาท เหมาะอย่างยิ่งเวลาที่คุณมีหูฟัง Universal ที่ชอบเสียงอยู่แล้วแต่อยากแปรสภาพบอดี้ให้กลายเป็นหูฟัง Custom การส่งไปหล่อหูฟังขึ้นมาใหม่ก็เป็นวิธีที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

แต่ต้องเผื่อใจไว้สักนิดเพราะว่า โดยปกติแล้วการเอาหูฟังที่เราคุ้นเคยไปเปลี่ยนบอดี้ใหม่ โอกาสที่เสียงจะเปลี่ยนไปเล็กน้อยเป็นเรื่องที่อาจเกิดขึ้นได้เช่นกันครับ เนื่องจาก Acoustic Chamber ภายในของหูฟังเปลี่ยไปจากหูฟังตัวเดิม ลองคิดภาพตามง่ายๆ สมมติว่าเราตะโกนอยู่ในห้องครัว เสียงที่สะท้อนที่ได้ยินในห้องนั้นจะเป็นแบบนึง พอเดินออกมาตะโกนแบบเดิมในห้องรับแขกเสียงที่ได้ก็จะต่างไปอีกแบบ นั่นล่ะครับเป็นแบบเดียวกันเลยเมื่อเราย้ายไดรเวอร์จากหูฟังตัวเดิมมาไว้ในบอดี้ใหม่

มีหลายครั้งเลยทีเดียวที่พอ Remold หูฟังใหม่เรียบร้อยแต่ก็จำเป็นต้องมาเบิร์นหูฟังให้เข้าที่กันอีกซักรอบ ถึงแม้ว่าจะเป็นไดรเวอร์ที่เคยผ่านการใช้งานมานานแล้วก็ตาม หรือบางครั้งพอ Remold มาแล้วเสียงเปลี่ยนไปจนต้องแก้ทางก็มี ยกตัวย่างเช่นเบสเยอะกว่าเดิมจนต้องหาสายสัญญาณมาเปลี่ยนใหม่แก้ทางเป็นต้น

เสียงที่เปลี่ยนจากการ Remold เป็นอีกปัจจัยที่บอกได้ยากว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่ เมื่อเกิดแล้วจะมากหรือน้อยก็บอกไม่ได้ 100% อีกด้วยครับ บางครั้ง Remold หูฟังมาใหม่เสียงไม่เปลี่ยนเลยก็มีเหมือนกัน

ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องระยะเวลาในการรอคอยหูฟังที่เราใช้เป็นประจำต้องส่งไปแปลงโฉมใหม่ และไม่ซีเรียสถ้าเสียงอาจจะเปลี่ยนไปบ้างเล็กน้อย การ Remold หูฟังใหม่ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจมากๆครับ

หูฟังแตกไม่ต้องซีเรียส Reshell ใหม่ได้

ส่วนใหญ่วัสดุที่ใช้ทำหูฟังคัสตอมถ้าไม่ใช่ซิลิโคน (Silicone) ก็มักจะเป็นอะคริลิค (Acrylic) ซึ่งวัสดุอย่างหลังนี่ต้องใช้อย่างทะนุถนอมพอสมควร เพราะถ้าทำร่วงจากที่สูงโอกาสที่จะแตกเสียหายก็ไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด ซึ่งในกรณีที่เกิดความเสียหายกับบอดี้เนื่องจากอุบัติเหตุขึ้นมา การจะส่งกลับไปซ่อมใหม่ยังบริษัทผู้ผลิตก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใดครับ ถ้าไม่นับเรื่องค่าใช้จ่ายแล้ว การส่งกลับไปทำยังบริษัทผู้ผลิตโดยตรงค่อนข้างจะทำให้เรามั่นใจได้ในเรื่องความเรียบร้อยของชิ้นงาน

ในกรณีที่ต้องมีการซ่อมหรือ Reshell หูฟังขึ้นมาให้เรื่องค่าขนส่งคงเป็นสิ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่วนค่าใช้จ่ายในเรื่องของการซ่อมนั้นต้องดูตามอาการที่เสียหายครับ โดยสามารถส่งข้อมูลไปให้ทางบริษัทเค้าช่วยประเมินความเสียหายให้ก่อนได้ ว่าจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่เท่าไหร่บ้างครับ

ปัจจุบันในบ้านเราเองก็มีช่างซ่อมหูฟังหลายๆร้านที่สามารถ Reshell บอดี้ของหูฟังขึ้นมาใหม่ได้ ซึ่งก็ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายลงไปได้อีกทางนึง ถือว่าเป็นอีกทางเลือกที่เจ้าของหูฟังสามารถตัดสินใจได้เองว่า อยากส่งกลับไปให้ทางผู้ผลิตแก้ปัญหาให้หรือจะส่งซ่อมกับช่างภายในประเทศครับ ฉะนั้นใครอยากได้หูฟังคัสตอมแล้วเคยได้ยินเรื่องความบอบบางหรือว่าปัญหาเวลาที่จะต้องซ่อมล่ะก็ ไม่ต้องไปซีเรียสมากแล้วนะครับ ใช้อย่างระมัดระวัง แต่ถ้าพังขึ้นมาก็มีช่างเก่งๆคอยช่วยอยู่แน่นอนครับ

สรุป

นั่นล่ะครับ ทั้งหมดก็เป็นปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้บ้างจากการสั่งทำหูฟังคัสตอม ถ้าใครคิดว่าแค่นี้ถือเป็นเรื่องเล็กน้อยแลกกับการได้เป็นจ้าของหูฟังที่สร้างมาเพื่อเราโดยเฉพาะ ก็เตรียมตัวกำเงินไปสั่งทำหูฟังในฝันของคุณได้เลย ส่วนใครที่สั่งทำหูฟังไปแล้วแต่ดันพบเจอกับปัญหาเหล่านี้เข้า ก็ทำใจให้ร่มๆค่อยๆแก้ปัญหาไปทีละอย่าง รับรองทุกร้านที่เป็นตัวแทนสั่งทำหูฟังให้นั้น ยินดีที่จะช่วยเหลือลูกค้าทุกท่านอย่างเต็มความสามารถแน่นอนครับผม