เตรียมรับ Apple Lossless ต้องอ่านที่นี่
สิ่งที่สาวก Apple Music ต่างเฝ้ารอกันมาอย่างยาวนานใกล้จะเป็นจริงแล้วล่ะครับ เมื่อทาง Apple ประกาศว่าจะเปิดให้บริการฟังเพลงด้วยคุณภาพเสียงระดับ Hi-Res หรือที่เรียกว่า Apple Lossless บน Apple Music กันซะที โดยที่ไม่มีการชาร์จค่าใช้จ่ายเพิ่มแต่ประการใดด้วย แฟนๆ Apple Music มีเฮกันล่ะงานนี้ ว่าแต่ว่ารายละเอียดของ apple Lossless มีอะไรบ้างและเราจะใช้งานได้อย่างไร งานนี้ต้องลงไปดูรายละเอียดกันครับ
About lossless audio in Apple Music
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับ Apple Lossless ที่อยู่บน Apple Music กันก่อนดีกว่าครับ เพราะว่าแต่เดิมที่เราใช้งาน Apple Music กันนั้น ไฟล์เพลงที่ใช้ในการ Streaming จะเป็น codec AAC หรือ Advanced Audio Codec ซึ่งเป็นการเข้ารหัสแบบ Lossy ของ Apple เอง นั่นก็หมายความว่าไฟล์ประเภทนี้ถูกบีบอัดมาจนข้อมูลไม่ได้สมบูรณ์เป๊ะ 100% เหมือนกับไฟล์มาสเตอร์ที่ออกมาจากสตูดิโอ ถ้าเปรียบเทียบง่ายๆก็เหมือนกับไฟล์เพลงแบบ MP3 นั่นเองครับ
แต่สำหรับผู้ที่ต้องการความสมบูรณ์แบบ ต้องการรายละเอียดเสียงที่ครบถ้วนมากกว่า AAC ไม่สามารถตอบโจทย์ได้แน่นอน ทาง Apple เองก็คงจะเห็นว่าการฟังเพลงแบบ Hi-Res นั้นเติบโตขึ้นเรื่อยๆ มีอุปกรณ์ต่างออกมารองรับมากมาย จึงไม่รอช้าที่จะปรับปรุงบริการของ Apple Music ให้รองรับ Lossless Audio ซะทีครับ
รายละเอียดของ Apple Lossless
นั่นก็คือที่มาของ Apple Lossless ครับ ซึ่งในระบบใหม่นี้ Apple จะเปลี่ยนมาใช้ codec ไฟล์แบบ ALAC หรือ Apple Lossless Audio Codec เพื่อรองรับการฟังเพลงแบบ Hi-Fi แทน อันที่จริง codec ตัวนี้ Apple พัฒนาไว้ใช้นานแล้วครับ แต่ก็จะใช้สำหรับการริปเพลงไปฟังบน iPhone หรือ iPod มากกว่า งานนี้ก็ได้ฤกษ์เอามาใช้ในการสตรีมมิ่งกันซะที
สำหรับ ALAC นั้นจะรองรับรายละเอียดตั้งแต่มาตราฐาน CD Quality ที่ 16Bit/44.1kHz ไปจนถึง 24Bit/192 kHz ครับ เรียกได้ว่า Apple Music นั้นจะรองรับ Hi-Res Audio อย่างเต็มรูปแบบแล้วครับ
การใช้งาน Apple Lossless
มาถึงคำถามสำคัญว่าแล้วเราจะใช้งาน Apple Lossless กันยังไงล่ะ? ข้อดีประการแรกอย่างที่บอกไปว่า Apple ไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มแต่อย่างใดครับ ใครที่ใช้บริการ Apple Music อยู่แล้วก็สามารถเปิดการใช้งานฟังเพลงด้วยการสตรีมมิ่ง Lossless Audio ได้ง่ายๆตามนี้ครับ
สำหรับ iPhone และ iPad
- ไปที่ Setting > Music
- เปิดเมนู Audio Quality
- เปิดแทป Lossless ให้เป็น On โดยเราสามารถเลือก Audio Quality ได้อีก 2 แบบได้แก่
- Lossless for a maximum resolution of 24-bit/48 kHz
- Hi-Res Lossless for a maximum resolution of 24-bit/192 kHz
นอกจากนั้นเรายังสามารถใช้งาน Lossless Audio บนเครื่อง Mac และ Apple TV 4K ได้เช่นเดียวกันครับ แต่สำหรับ Apple TV นั้นจะรองรับรายละเอียดเสียงได้สูงสุดแค่ 48 kHz เท่านั้นครับ
ข้อจำกัดในการใช้งาน Apple Lossless
ถึง Apple Music ที่อัพเดทใหม่จะดูเจ๋งกว่าเดิมแต่มันก็ยังมีข้อจำกัดในการใช้งาน Apple Lossless อยู่บ้างครับ ยกตัวอย่างเช่น
- ปริมาณการบริโภค cellular data ที่มากขึ้น : แน่นอนว่ายิ่งไฟล์มีขนาดใหญ่ การบริโภคข้อมูลก็จะสูงขึ้น ถ้าใครใช้งานผ่านเน็ทมือถือก็ให้ระวังแพคเกจแหกกันเอาไว้ดีๆนะครับ
- ถ้าเคยโหลดเพลงเอาไว้ก็ต้องโหลดใหม่นะ : ใครที่โหลดเพลงเก็บเอาไว้ฟังแบบ offline ถ้าอยากจะฟังแบบคุณภาพเสียง Lossless แทนก็ต้องลบของเก่าและดาวน์โหลดใหม่ด้วยนะครับ
- ตัวแปลงพอร์ต Lightning เป็นช่องเสียบ 3.5 mm. ของแอปเปิล จะรองรับความละเอียดสูงสุดที่ 24-bit/48 kHz เท่านั้น : ถ้าอยากจะฟังเพลงที่ความละเอียดสูงกว่านั้นที่ Apple เรียกว่า Hi-Res Lossless ก็ต้องพึ่งบริการ DAC เพิ่มเติมครับ
- หูฟังไร้สายของแอปเปิลอย่าง AirPods, AirPods Pro, AirPods Max, รวมไปถึง Beats : ยังรองรับแค่ codec เดิมอย่าง AAC เท่านั้น หมดสิทธิ์ใช้งาน Apple Lossless ครับผม
เตรียมอุปกรณ์ไว้ใช้งาน Apple Lossless กันดีกว่า
ถึง Apple Music จะพัฒนาคุณภาพเสียงให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม แต่จะเห็นได้ว่าลำพังแค่อุปกรณ์ Apple Device ของเราอย่าง iPhone, iPad หรือเครื่อง Mac บวกกับหูฟังของ Apple เองก็ยังไม่สามารถตอบสนองคุณภาพเสียงได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นเราจำเป็นที่ต้องพึ่งผู้ช่วยสำคัญดังต่อไปนี้ครับ
-
DAC/Amp
“Zorloo Ztella Integrated USB-Type-C to 3.5mm”
อย่างที่ได้ทราบว่าตัวแปลง Lightning port to 3.5mm. ของ Apple นั้นให้รายละเอียดสูงสุดได้แค่ 24-bit/48 kHz เท่านั้น ถ้าต้องการรายละเอียดที่สูงกว่านี้ เราก็จำเป็นต้องพึ่งพาบริการของ DAC/Amp ค่ายอื่นๆแทนล่ะครับ ซึ่งก็มีให้เลือกใช้งานมากมายหลากหลาย
อย่างถ้าเน้นพกพาเหมือนกับตัวแปลงเดิมของ Apple ก็อาจจะใช้บริการของ Zorloo Ztella ก็ได้ หรือใครเน้นฟังเพลงอยู่กับบ้านก็ยังมี Desktop DAC/Amp ให้เลือกได้หลากหลายครับ
-
Headphone
“Focal Celestee”
ข้อนี้สำคัญขาดไม่ได้เลยทีเดียว เพราะหูฟังของ Apple นั้นยังไม่มีตัวไหนที่รองรับ Hi-Res Audio เลยซักตัว เพราะฉะนั้นถ้าอยากจะฟังเพลงจาก Apple Lossless ได้เต็มประสิทธิภาพจริงๆก็จำเป็นต้องใช้หูฟังค่ายอื่นเท่านั้นครับ ปัจจุบันมีหูฟังหลายค่ายที่ได้มาตราฐาน Hi-Res Certified มาจากโรงงานเลย เราสามารถเลือกซื้อหูฟังที่ได้มาตราฐานนี้ได้ตามชอบเลยครับ จะเป็นแบบ in-ear หรือ over-ear ได้หมด ขอให้ได้มาตราฐาน Hi-Res มาก็พอ
หรือถ้าไม่มีมาตราฐาน Hi-Res ก็ให้มองดูที่สเปคของหูฟังว่ามี Frequency Response ที่กว้างกว่า 20Hz – 20,000Hz แทนก็ได้ครับ อย่างหูฟังตระกูล Focal ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจไม่เลว เพราะตอบสนองความถี่เสียงได้กว้างมากๆ สามารถเก็บรายละเอียดของไฟล์เพลง Hi-Res ได้หมดจดแน่นอน
-
DAP
“HiBy R6 2020”
ถ้าอยากได้ประสิทธิภาพในการฟังเพลงที่เหนือกว่า iPhone หรือ iPod ก็ยังมีอีกตัวเลือกคือฟังเพลงผ่าน DAP ไปเลยครับ รับรองว่าได้คุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมกว่าแน่นอน เพียงแต่ว่าต้องเลือกใช้ DAP ที่สามารถติดตั้งแอพ Apple Music ได้ด้วยนะ แค่นี้ก็เรียบร้อย ไม่จำเป็นต้องพึ่งพา DAC ภายนอกแล้ว ใช้ DAP เครื่องเดียวบวกกับหูฟังก็จบเลย
ตัวอย่างจาก HiBy R6 2020 ก็เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมครับ ใช้ระบบ open Android สามารถลงแอพได้อิสระ แถมยังมีระบบ Dual DAC ES9038Q2M อีก บอกได้เลยว่าคุณภาพเสียงนั้นสุดติ่งมากๆครับ
สำหรับใครที่มี DAP แบบ Android ไว้ใช้งานอยู่แล้วงานนี้ก็สบายเลยครับ รอแค่ Apple เปิดให้ใช้งาน Lossless Audio เมื่อไหร่ก็พร้อมฟังทันที
อุปกรณ์ที่เหมาะสมกับการใช้งานร่วมกับ Apple Lossless ยังมีอีกมากมายเลยล่ะครับ เอาไว้เราจะนำมาทยอยแนะนำให้ทุกท่านได้ดูกันอีกทีนะครับ ว่าสำหรับ DAC, หูฟัง และ DAP ที่น่าเอามาใช้งานร่วมกับ Apple Music โฉมใหม่นั้นมีอะไรกันบ้างครับ