Skullcandy JIB & Dime หูฟังจิ๊บๆ คุณภาพไม่แด้ม

ชอบสีสันสดใส ชอบดีไซน์สวยๆ ชอบเบสบึ้มๆฟังสนุก จะมีหูฟังอะไรดีไปกว่าหูฟังจากค่าย Skullcandy อีกล่ะครับ และงานนี้เราก็มีหูฟังสองรุ่นที่ตรงคอนเซปต์มาแนะนำกันนั่นก็คือ Skullcandy JIB และ Skullcandy DIME รับประกันความสดใหม่แถมราคาก็เร้าใจมากๆด้วยล่ะ

Skullcandy JIB & DIME : True Wireless

JIB	DIME
Tile technology ช่วยตามหาหูฟังเวลาเราลืมไว้ตามที่ต่างๆ	Tile technology ช่วยตามหาหูฟังเวลาเราลืมไว้ตามที่ต่างๆ
แบตเตอรี่ตัวหูฟังใช้งานได้ถึง 9 ชั่วโมง	แบตเตอรี่ตัวหูฟังใช้งานได้ 3.5 ชั่วโมง
เลือกใช้งานหูฟังเพียงข้างเดียวได้	ออกแบบให้เคสมีขนาดเล็กกะทัดรัด
มาตราฐานความทนทาน IPX4	มาตราฐานความทนทาน IPX4
ควบคุมการทำงานที่ตัวหูฟังได้เลย	ควบคุมการทำงานที่ปุ่มบนหูฟังได้เลย

ดีไซน์สุดสวยสไตล์ Skullcandy

Skullcandy เป็นค่ายที่มีเอกลักษณ์ในการออกแบบหูฟังสูงมากๆครับ คือนอกจากโลโก้อันเป็นที่จดจำแล้ว เรื่องการใช้คู่สีก็เป็นอะไรที่เตะตาและก็ไม่มีใครเหมือนเลย

อย่างหูฟัง True Wireless ทั้ง DIME และก็ JIB ก็มีสีสันมาให้เราเลือกใช้หลากหลายและดูสนุกเอามากๆ มีทั้งแบบสีเดียวเรียบๆ หรือจะเอาแบบทูโทนสองสีตัดกันก็ให้อารมณ์วัยรุ่นฟันน้ำนมเลยล่ะ

สำหรับ DIME จะมีขนาดของเคสและตัวหูฟังที่เล็กกว่าครับ ขนาดไม่เกินบัตรเครดิตเราด้วยซ้ำ พกง่ายแน่ๆ ตัวหูฟังก็จะออกสไตล์เอียร์บัดที่ใส่ง่ายสบายกว่า

ส่วน JIB จะมีขนาดที่ใหญ่กว่าหน่อย แต่ก็อยู่ในมาตราฐานหูฟัง TWS ทั่วไปครับ เป็นหูฟังสไตล์เอียร์บัดเช่นกัน แต่ลักษณะของก้านหูฟังจะใส่ได้ลึกกว่า DIME เล็กน้อย ทำให้ได้เปรียบในแง่ของการลดเสียงรบกวนภายนอก เวลาใส่ก็จะรู้สึกฟิตแน่นหนากว่าด้วย

มาพร้อม TILE TECHNOLOGY

จุดเด่นของทั้งคู่ก็คือมีระบบ Tile ที่จะช่วยเราตามหาหูฟังได้ในกรณีที่เผลอไปวางลืมไว้ตามที่ต่างๆ ไอเดียเดียวกับแอพ Find My ของ Apple เค้านั่นล่ะครับ ช่วยป้องกันไม่ให้หูฟังของเราสูญหายและยังเหมาะมากสำหรับคนขี้ลืม ตามหาหูฟังเจอแน่ๆแค่เชื่อมต่อเข้ากับแอพครับ

ฟังเพลงได้ต่อเนื่องและยาวนาน

Skullcandy ให้แบตเตอรี่มาเต็มที่เท่าที่ขนาดหูฟังทั้งสองรุ่นจะรับไหวแล้วล่ะครับ สำหรับรุ่นใหญ่อย่าง JIB มีแบตเตอรี่ในตัวที่สามารถใช้งานได้นานถึง 9 ชั่วโมง บวกกับตัวเคสที่ให้พลังงานเพิ่มได้อีก 24 ชั่วโมง ฉะนั้นเมื่อชาร์จแบตทั้งคู่เต็มที่จึงใช้งานได้ยาวถึง 33 ชั่วโมงเลยทีเดียว

ส่วน DIME ก็ถือว่าทำได้ไม่เลวตามขนาดที่เล็กลงมาพอสมควรครับ ลำพังตัวหูฟังใช้งานต่อเนื่องได้ 3.5 ชั่วโมง เมื่อบวกกับเคสที่เพิ่มชั่วโมงบินได้อีก 8.5 ชั่วโมง ก็จะทำให้เราพกพาไปใช้งานได้ถึง 12 ชั่วโมงครับ

ควบคุมการใช้งานที่ตัวหูฟังได้เลย

เรายังสามารถควบคุมการเล่นเพลง การปรับระดับเสียงหรือว่ารับสายโทรศัพท์จากตัวหูฟังได้เลยครับ ซึ่งฟังค์ชั่นนี้ทั้ง JIB และ DIME มีเหมือนกันครับ ทำให้ใช้งานได้สะดวก ไม่ต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจากกระเป๋าให้ยุ่งยาก

ใช้งานหูฟังข้างเดียวก็ได้

สำหรับหลายๆคนที่ใช้งานหูฟังเพื่อการโทรศัพท์ มักจะถนัดใช้หูฟังเพียงข้างเดียว เพราะสะดวกในการพูดคุย ทำให้เราได้ยินเสียงรอบๆตัวและไม่อึดอัดด้วย ซึ่ง JIB และ DIME ก็มีฟังค์ชั่นที่รองรับการใช้งานแบบนี้ครับ หยิบหูฟังมาข้างเดียวก็พร้อมให้เรารับสายโทรศัพท์ได้ทันที

ใช้งานได้ในทุกกิจกรรม

หูฟังทั้งสองรุ่นถูกออกแบบให้มีมาตราฐานความทนทานระดับ IPX4 ครับ ดังนั้นจึงสามารถโดนละอองน้ำหรือเหงื่อได้อย่างสบาย จะเอาไปใช้งานเอาท์ดอร์ก็ไม่ต้องกลัวถ้าโดนฝนนิดหน่อย และสามารถใช้ร่วมกับการออกกำลังได้แน่นอนเพราะเหงื่อจากตัวเราไม่ทำให้หูฟังพังแน่นอน

Specification

เสริมเรื่องรายละเอียดกันอีกเล็กน้อยครับ ทั้ง JIB และ DIME เลือกใช้ไดรเวอร์ไดนามิคขนาด 6mm. สามารถตอบสนองความถี่มาตราฐานได้ตั้งแต่ 20Hz ถึง 20kHz ส่วนระบบ bluetooth ที่ทั้งคู่ใช้จะเป็นเวอร์ชั่น 5.2 ถือว่าอัพเดทเลยทีเดียว

---

Skullcandy JIB & DIME

ดีไซน์สวย ราคาเบาๆ ฟังสนุกแบบนี้คงทำให้คุณตัดสินใจเลือกหูฟัง Skullcandy รุ่น JIB และ DIME ไปใช้งานได้ไม่ยากครับ สาวกค่ายนี้เค้ารู้กันอยู่แล้วว่านอกจากหน้าตาจะถูกใจวัยรุ่นแล้ว เรื่องฟังมันส์ฟังสนุกเค้าไม่เป็นรองใครเลย ไม่งั้น Skullcandy คงไม่อยู่ยั้งยืนยงมาถึงทุกวันนี้ครับ