SMSL D400ES vs D400EX DAC ชั้นยอดมาในเสียง 2 สไตล์
D400ES และ D400EX เป็น Desktop DAC คู่แฝดที่ทางค่าย SMSL ทำออกมาได้เหมือนกันซะเหลือเกิน มองผ่านๆนี่แทบแยกไม่ออกทางไม่สังเกตกราฟฟิคบนตัวเครื่อง เดี๋ยวเรามาดูกันว่าทั้งสองมีดีตรงไหนและต่างกันอย่างไรบ้าง แต่ที่แน่ๆคุณภาพเสียงโหดทั้งคู่ครับ
SMSL D400ES vs D400EX
FRONT
ดีไซน์ของ D400ES และ D400EX ถอดแบบกันมาเดี๊ยะๆครับ จุดสังเกตมีอยู่ชัดๆตรงกราฟฟิคชื่อรุ่นที่ด้านขวาล่างของตัวเครื่องจะเน้นเลยว่ารุ่นไหนคือ ES รุ่นไหนคือ EX
ตัวเครื่องออกแบบมาได้สวยงามตามพิมพ์นิยมครับ บอดี้ทำมาจากอะลูมิเนียมขึ้นรูปด้วยกระบวนการ CNC ชิ้นงานเนี๊ยบดูดีแน่นอน มีความใกล้เคียงกับ DAC ตั้งโต๊ะจากค่าย Topping อยู่ซึ่งก็แน่ล่ะตามตำแหน่งถือว่าเป็นคู่แข่งกันโดยตรงครับ
ด้านหน้าไม่ได้มีปุ่มอะไรเยอะครับ มีเพียงสามปุ่มสำหรับ power, menu และปุ่ม FN ซึ่งเราสามารถตั้งได้ว่าให้ทำหน้าที่อะไร ส่วนที่เหลือก็จะเป็น Volume Wheel ที่ทำหน้าที่เป็น Function Knob ด้วยในตัว
Back
ด้านหลังก็เช่นเดียวกัน พอร์ตต่างๆให้มาเท่ากันเป๊ะครับ ประกอบด้วย
- Analog Output : XLR Line Output, RCA Output
- Digital Input : I2S, USB, Optical, Coaxial, AES/EBU
จัดว่าให้พอร์ตมาครบถ้วนตามสไตล์ Desktop DAC สมัยใหม่ครับ
ภาค DAC และ Op-Amp ที่ต่างกัน
ส่วนที่ทั้งคู่ต่างกันอย่างชัดเจนก็คือชิป DAC ที่ SMSL เลือกติดตั้งลงไปครับ
- D400ES : ES9039MSPRO
- D400EX : AK4191 จำนวน 1 ตัว + AK4499EX จำนวน 2 ตัว
แนวคิดการออกแบบระบบ DAC ของทั้งคู่จะต่างกันครับ สำหรับ D400ES ดีไซน์ของวงจรจะเป็นแบบ 8 แชนแนล parallel circuit สามารถให้ค่า Distortion ที่ต่ำเพียง 0.00005% (-125dB)
ส่วนของ D400EX ดีไซน์วงจรจะเป็นแบบ Dual mono design สามารถห้ค่า Distortionอยู่ที่ 0.00006% (-124dB)
ส่วนของชุดประมวลผลทั้งคู่จะเหมือนกันครับนั่นคือ XMOS XU-316 รุ่นใหม่เจเนอเรชั่นที่ 3 รองรับรายละเอียดสูงสุดที่ PCM 32bit/768kHz, DSD512 ที่เด็ดก็คือใช้งาน MQA และ MQA-CD ได้ด้วย เราสามารถพ่วง CD Player เข้ามาใช้ภาค DAC ที่ตัว D400ES และ D400EX เพื่อให้ได้คุณภาพเสียงที่ดีกว่าเดิมครับ
นอกจากนั้นระบบยังมี Digital Filters มาให้ใช้อีก 7 โหมดด้วยกัน เป็นฟีเจอร์ที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับ DAP ระดับท็อปๆตอนนี้
ถัดมาอีกจุดที่ต่างกันก็คือภาค Op-Amp ครับ สำหรับ D400ES จะใช้ dual op-amp ระดับไฮเอนด์ถึง 11 ตัว ส่วน D400EX จะมีอยู่ 9 ตัวด้วยกัน
แต่ถ้ามาดูที่อุปกรณ์ที่เหลือภายในวงจรก็แทบจะถอดสเปคกันมาเลยครับ ซึ่งทั้ง D400ES และ D400EX จะประกอบไปด้วยอุปกรณ์ระดับออดิโอเกรดทั้งนั้น
- CK-03 clock : ระบบ clock ที่ SMSL พัฒนาขึ้นเอง สามารถเพิ่มความแม่นยำของสัญญาณนาฬิกาและลด Jitter ได้มาก
- 2nd PLL : ช่วยลด Jitter ได้อีกทางนึง
- low-noise regulated power supplies / low-noise power processing
- หน้าจอ IPS display พร้อมกระจกแบบ tempered glass
- มาพร้อมรีโมทควบคุมการใช้งาน
ฟังเพลงแบบไร้สายผ่าน Bluetooth
ทั้ง D400ES และ D400EX ติดตั้งชิป Bluetooth จาก Qualcomm มาให้เรียบร้อยครับ รองรับ LDAC (24bit/96kHz), APTX/HD, SBC และ AAC พร้อมสรรพ สเปคดีทั้งการเชื่อมต่อปกติและ Wireless แบบนี้ก็เอามาตราฐาน Hi-Res certification จาก Japan Audio Association (JAS) ไปครองได้ไม่ยากครับ
SMSL D400ES vs D400EX
นับว่า SMSL D400ES และ D400EX ออกแบบมาได้ลงตัวสวยงามและมีสเปคที่จัดเต็มเอามากๆครับ ถือว่าเป็นคู่แข่งตัวเอ้ของค่าย Topping อย่างรุ่น D90SE เลยล่ะครับ ฟังค์ชั่นและความสามารถต่างๆถือว่าใกล้เคียงกันมาก งานนี้คงต้องวัดกันที่เสียงเป็นหลักเลยล่ะครับว่าใครจะโดนใจคุณมากกว่ากัน