SMSL SD-9 vs SMSL DP5 เครื่อง Streamer กับจุดเด่นที่แตกต่างกัน
มาดูสองสตรีมเมอร์จากค่าย SMSL กันบ้างดีกว่าครับ จับมาเทียบให้ดูกันเลยว่าสเปคของตัวไหนที่คุณกำลังมองหาระหว่าง SMSL SD-9 กับ SMSL DP5 ทั้งสองรุ่นมีสเปคระดับดีเยี่ยมและยังมีฟีเจอร์ต่างๆมาให้แน่นๆ ไปดูเราสรุปรวบยอดจุดเด่นของทั้งคู่กันครับ
SMSL SD-9 vs SMSL DP5
SMSL SD-9 | SMSL DP5 | |
Max Resolution | PCM 32 bit/384kHz, DSD 256 | PCM 32 bit/384kHz, DSD 256 |
MQA Support | Yes | Yes |
Phone out / Line out | No | Yes |
Streaming Support | DLNA, Wi-Fi, AirPlay | DLNA, Wi-Fi, AirPlay |
External hard-Disk | Support 4TB with NTFS&FAT32 | Support 4TB with NTFS&FAT32 |
Bluetooth | Yes | Yes |
Control | Front panel, Remote & App | Front panel, Remote & App |
ข้อแตกต่างสำคัญของ SD-9 และ DP5
จั่วหัวแบบไม่ต้องให้ทุกท่านเสียเวลา เราให้ดูข้อแตกต่างที่สำคัญของทั้งสองรุ่นกันก่อนเลย เพราะดูจากตารางแล้วทุกท่านอาจจะสงสัยว่าทำไมสเปคมันเหมือนกันจังทั้งๆที่ค่าตัวต่างกันเกือบหมื่น
ความแตกต่างที่สำคัญของทั้งสองจะอยู่ที่ภาคเอาท์พุตครับ SD-9 นั้นไม่มีอะนาลอคเอาท์พุตเลย มีแค่ดิจิตอลเอาท์พุต ฉะนั้นเค้าจะเป็นสตรีมเมอร์แบบเพียวๆเลย การจะฟังเพลงเราต้องส่งข้อมูลผ่านดิจิตอลเอาท์ไปยัง DAC ภายนอกเท่านั้น
ส่วน DP5 มีทั้งอะนาลอคเอาท์พุตและมีเฮดโฟนเอาท์พุตให้ด้วย เราสามารถฟังเพลงได้ในตัวเลย จัดอยู่ในหมวดสตรีมเมอร์แบบ All in one ได้เลย ฉะนั้นถ้าคุณเล่นอุปกรณ์แบบแยกชิ้น ต้องการเซ็ทอัพระบบฟังเพลงเองทุกชิ้นงานนี้ไปที่ SD-9 ได้เลย ส่วนใครขี้เกียจต่ออุปกรณ์กะใช้เครื่องเดียวจบงานนี้ก็ต้อง DP5 ครับผม
Connections
ไหนๆก็พูดถึงเรื่องเอาท์พุตกันแล้ว เราไปดูพอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆของทั้งคู่กันเลยครับ สำหรับดิจิตอลอินพุตที่ทั้งคู่มีเหมือนๆกันก็จะประกอบไปด้วย
- USB Audio : สำหรับเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เพื่อใช้งานเป็น USB-DAC
- USB 2.0 interface : สามารถต่อกับ external hard-disk ได้เลย รองรับความจุถึง 4TB และใช้งานได้ทั้งฟอร์แมท NTFS และ FAT32
- LAN : สตรีมมิ่งได้แรงกว่าถ้าเชื่อมต่อผ่าน Ethernet และยังเชื่อมต่อกับ Local Network ของเราด้วย
- Micro SD card : ฟังเพลงผ่าน SD Card ก็ได้เช่นกัน
นอกจากนั้นก็ยังเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่าน Bluetooth และ Wi-Fi ได้อีกครับ รองรับทั้ง 2.4G และ 5G
มาดูที่ส่วนของดิจิตอลเอาท์พุตที่มีเหมือนกันบ้าง
- AES/EBU
- Optical
- Coaxial
- I2S
- USB
พอร์ตเหล่านี้ก็จะทำให้เราส่งสัญญาณไปยัง DAC ภายนอกหรือพวก A/V Receiver เพื่อฟังเพลงก็ได้ครับ โดยเฉพาะ SD-9 ที่จำเป็นต้องใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ภายนอก เพราะลำพังตัวเค้าเองไม่สามารถฟังเพลงได้ครับ
ส่วน DP5 จะมีอะนาลอคเอาท์พุตให้อีก 3 ชุดด้วยกันครับ ได้แก่
- XLR Balanced Line out
- RCA Single-Ended Line out
- 6.35mm. Headphone out
ดังนั้นเราจึงสามารถฟังเพลงผ่านหูฟังได้เลย หรือจะต่อไปยังลำโพงหรือแอมป์ภายนอกก็ได้เช่นกันครับ
สตรีมมิ่งด้วยรายละเอียดระดับ Hi-Res
ทั้งสองรุ่นตอบโจทย์การสตรีมระดับ Hi-Res ทั้งคู่ครับ โดยสามารถให้รายละเอียดสูงสุดได้ที่ระดับ PCM 32 bit/384kHz และ DSD 256 ที่เจ๋งก็คือรองรับการใช้งานไฟล์ MQA ได้ด้วย ถูกใจสาวก Tidal แน่นอน
โดยเฉพาะ DP5 ที่ใช้ชิป DAC ES9038Pro ทั้งให้รายละเอียดสูง แถมค่า SNR ก็สูงเช่นกัน ให้ช่วงไดนามิคเรนจ์กว้าง และมีการบิดเบือนสัญญาณที่ต่ำ
ทั้งสองรุ่นรองรับไฟล์เพลงได้ทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นไฟล์ Uncompressed, Lossless หรือว่า Lossy ก็ใช้งานได้หมดครับ
การสตรีมมิ่งของทั้งสองรุ่นสามารถใช้งานจาก Local หรือ Online Network ก็ได้ครับ อย่างเช่นระบบ NAS ภายในบ้านและโปรแกรมสตรีมมิ่งแพลทฟอร์ทต่างๆ และการสตรีมมิ่งแบบไร้สายด้วยระบบ DLNA, Wi-Fi หรือว่า AirPlay ก็ทำให้การใช้งานสะดวกยิ่งขึ้น จะอยู่มุมไหนของบ้านก็สามารถใช้งานได้
การควบคุมเครื่อง
โดยปกติเราสามารถควบคุมการใช้งานเครื่องทั้งสองรุ่นได้ที่ปุ่มด้านหน้าตัวเครื่องเลยครับ ถ้าเป็น DP5 จะใช้งานง่ายกว่าหน่อยเพราะแยกปุ่มมาให้ละเอียดกว่า ส่วน SD-9 จะใช้ Multifunction Knob แบบปุ่มเดียวคุมทุกอย่าง
ถ้าอยากใช้งานให้คล่องตัวขึ้นก็ต้องสั่งการผ่านรีโมทที่แถมมาให้ด้วย ก็จะทำให้เราเข้าถึงทุกฟังค์ชั่นของเครื่องได้ทันที
ถ้าอยากจะควบคุมให้ง่ายยิ่งไปกว่านั้น โดยเฉพาะการเข้าถึงคลังเพลงอันมหาศาลก็สามารถติดตั้งแอพ HiBy Link บนโทรศัพท์หรือแท็ปเลทของเราแล้วก็เชื่อมต่อเข้ากับสตรีมเมอร์ทั้งสองได้เลย ทีนี้จะฟังเพลงอะไรก็จิ้มไม่กี่ทีก็พร้อมฟังครับ
SMSL SD-9 & SMSL DP5
เลือกใช้งานได้ไม่ยากครับสำหรับ SMSL SD-9 และ SMSL DP5 ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานและการเซ็ทอัพระบบเลย เพราะว่าสเปคด้านรายละเอียดเสียงหรือฟังค์ชั่นโดยรวมแทบไม่ต่าง จะต่างในเรื่องการเชื่อมต่อมากกว่า ถ้าต้องการเซ็ทอัพระบบแบบแยกชิ้นอุปกรณ์งานนี้ไปที่สตรีมเมอร์เพียวๆแบบ SD-9 ได้เลย แต่ถ้าอยากใช้งานแบบตัวเดียวจบครบเครื่องงานนี้ก็ต้อง DP5 เท่านั้นครับ