SoftEars Cerberus หูฟัง In-Ear จัดเต็มมิติเหนือชั้น
SoftEars “Cerberus” สุดยอดหูฟังอินเอียร์ระบบ Hybrid หนึ่งเดียวจากค่ายไฮเอนด์น้องใหม่ที่ต้องบอกเลยว่าคุณภาพเสียงยอดเยี่ยมมากๆครับ เป็นหูฟังที่ผสมไดรเวอร์ถึง 3 ประเภทเข้าด้วยกันและให้ผลลัพธ์ออกมาดีมาก สามารถดึงเอกลักษณ์ของไดรเวอร์แต่ละแบบมาผสมเข้าด้วยกันอย่างลงตัว อยากให้ทุกคนได้ลองจริงๆแต่ระหว่างนั้นเราไปทำความรู้จัก Cerberus ผ่านตัวหนังสือกันก่อนได้เลยครับ
SoftEars CERBERUS Hybrid In-Ear Monitors
HIGHLIGHT
- ไดรเวอร์ไดนามิคขนาด 10mm. ไดอะแฟรมทำจาก carbon fiber บวกกับ paper dome
- ไดรเวอร์ Balanced Armature จำนวน 4 ตัว
- ไดรเวอร์ Electrostatic จำนวน 2 ตัวสำหรับเสียงแหลม
- ระบบ Passive Driver ป้องกันแรงดันอากาศ ช่วยลดอาการเมื่อยล้าในการฟังและทำให้เสียงเบสดีขึ้น
- รองรับช่วงความถี่ตั้งแต่ 10Hz ไปจนถึง 80kHz
หูฟังไฮเอนด์น้องใหม่ที่เนี๊ยบตั้งแต่ภายนอกถึงภายใน
Cerberus เป็นหูฟัง 1 ใน 4 รุ่นของค่าย SoftEars ที่ออกแบบได้สวยงามไม่แพ้รุ่นอื่นๆครับ ดีไซน์จะมีความคล้ายหูฟังคัสตอมเลยล่ะ งานประกอบถือว่าเนี๊ยบสมราคา ตัวหูฟังสามารถถอดเปลี่ยนสายได้แน่นอนครับด้วยขั้วต่อแบบ 2-pin มาตราฐานขนาด 0.78mm. แต่อันที่จริงก็ไม่ต้องมาหาสายอัพเกรดอะไรเปลี่ยนแล้วล่ะครับเพราะ Cerberus ให้สายสัญญาณคุณภาพแบบ Coaxial ทองแดงคริสตัลเดี่ยว 6N Litz 24AWG ที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษและเลือกมาเป็นอย่างดีแล้วว่าให้แนวเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ รับรองว่าถ้าได้ลองฟังแล้วก็คงไม่อยากเปลี่ยนสายสัญญาณแน่นอนครับ
ส่วนภายในของ Cerberus เลือกใช้ระบบไดรเวอร์แบบ Hybrid ซึ่งประกอบด้วยไดรเวอร์ 3 ชนิดด้วยกันได้แก่
1 – Dynamic Driver
หัวใจหลักที่ดูแลย่านความถี่ต่ำก็แน่นอนว่าต้องเป็นไดรเวอร์ชนิดไดนามิคครับ Bass Driver ของ Cerberus มีขนาดใหญ่ถึง 10mm. ใช้ไดอะแฟรมที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์และโดมกระดาษ สำหรับการตอบสนองย่านความถี่ต่ำนั้นไม่มีใครเกินไดรเวอร์แบบไดนามิคอยู่แล้วล่ะครับ
2 – Balanced Armature Drivers
ไดรเวอร์มาตราฐานสำหรับการควบคุมย่านเสียงกลางย่อมหนีไม่พ้นไดรเวอร์แบบ BA แน่นอน ซึ่ง Softears ก็เลือกใช้ไดรเวอร์ BA ถึง 4 ตัวด้วยกันและยังออกแบบจุดตัดครอสโอเวอร์ให้สัมพันธ์กับไดรเวอร์อีกสองชุดให้มากที่สุด รับประกันความเต็มอิ่มของย่านเสียงกลางแน่นอนครับ
3 – Electrostatic Drivers
ส่วนประกอบสำคัญชิ้นสุดท้ายที่มาเติมเต็มให้ย่านความถี่สูงทั้งหมดก็คือไดรเวอร์แบบ Electrostatic จำนวน 2 ตัวครับ แน่นอนว่าไดรเวอร์ประเภทนี้ขึ้นชื่อเรื่องเสียงแหลมที่ไพเราะเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว แต่ด้วยความยุ่งยากในการติดตั้งและออกแบบระบบทำให้เราจะได้เห็นชุดไดรเวอร์แบบนี้ในหูฟังระดับสูงเท่านั้น ซึ่ง Cerberus ก็ไม่ทำให้เราผิดหวังครับ
- Passive Driver ระบบไดรเวอร์เสริมแบบพิเศษ
ยังมีไดรเวอร์เสริมอีกตัวที่เป็นทีเด็ดของ Cerberus ครับนั่นคือ Passive Driver ซึ่งเป็นไดรเวอร์ที่ไม่ได้มีหน้าที่ให้กำเนิดเสียงแต่มีหน้าที่ในการควบคุมแรงดันอากาศภายใน ข้อดีคือทำให้เราไม่ล้าหูเวลาฟังเพลงนานๆ และยังมีข้อดีอีกทางในการเพิ่มรายละเอียดให้เสียงเบสอีกด้วยครับ
โทนเสียงยอดเยี่ยมจากการผสมผสานกันของไดรเวอร์ที่ลงตัว
Softears Cerberus เป็นหูฟังที่สามารถตอบสนองต่อย่านความถี่เสียงได้กว้างสุดๆครับโดยเริ่มตั้งแต่ 10Hz ไล่ไปสุดปลายที่ 80kHz เลยทีเดียว แต่ในช่วง Frequency Response ที่ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดก็จะอยู่ในค่ามาตราฐานที่ 20 – 20kHz เช่นเดียวกับหูฟังรุ่นท็อปอย่าง Turii ครับ ส่วนสิ่งที่ Cerberus แตกต่างออกไปก็คือบาลานซ์ของย่านความถี่ต่างๆที่ทำได้อย่างลงตัวและเป็นธรรมชาติมากๆ
Cerberus สามารถควบรวมจุดเด่นของไดรเวอร์แต่ละแบบเอาไว้ได้อย่างลงตัวครับ คารแรคเตอร์หลักของเค้าค่อนข้างอิ่มหนา มีพลังจากผลของไดรเวอร์ไดนามิคที่ทำซาวด์ที่ได้ยังคงน้ำหนักและมวลของเนื้อเสียงเอาไว้ได้อย่างดี เสียงเสียงกลางชัดเจนแต่ไม่บางฟังดูกระชับหนักแน่นและได้รายละเอียดที่ชัดเจนจากไดรเวอร์ BA โดยเฉพาะเสียงร้องที่ยังคงความโดดเด่นแต่ก็กลมกลืนไปกับเสียงดนตรีอื่นๆเป็นอย่างดี
ส่วนของเสียงแหลมก็เป็นธรรมชาติดีมากๆ โปร่ง สว่างและไม่มีอาการบาดหรือสากหูแม้แต่น้อย มิติของเสียงจัดว่ายอดเยี่ยมไม่แพ้รุ่นใหญ่อย่าง Turii ซาวด์ของ Cerberus จัดว่ากระชับเหมาะสำหรับการฟังเพลงทุกสไตล์ไม่ว่าจะเป็นสาย Audiophile หรือฟังเพลงสายโมเดิร์นก็ตอบสนองได้ดีทุกประเภทครับ
บอกได้เลยว่าเป็นหูฟังระบบไฮบริดไดรเวอร์อีกตัวที่ออกแบบและปรับจูนเสียงมาได้ลงตัวมากๆอีกรุ่นนึงครับ
สำหรับผู้ที่สนใจหูฟัง Universal IEM ที่มีระบบไดรเวอร์แบบ Hybrid หูฟัง SoftEars รุ่น Cerberus เป็นอีกรุ่นนึงที่อยากแนะนำมากๆครับ ถึงจะเป็นค่ายน้องใหม่แต่หูฟังของพวกเค้าถือว่ามีคุณภาพสูงในทุกๆจุด รับประกันได้เลยว่า Cerberus คือหูฟังไฮเอนด์ที่คุณตามหาแน่นอนครับ