IF IT AIN’T BROKE DON’T FIX IT

เถี่ยงไม่ได้เลยว่า Sony ทำตลาดหูฟังระบบ Noise Cancelling ในซีรี่ส์ 1000X มาอย่างประสบความสำเร็จเกือบ 3 ปีแล้ว

และนี่คือรูปโฉมใหม่ของหูฟัง 1000X รุ่นที่ 4 ในชื่อที่ว่า WH-1000XM4 (WH = Wireless Headphone)

ดูจากภายในนอก แทบจะแยกไม่ออกว่ารุ่นไหนคือ 1000XM3 รุ่นไหนคือ 1000XM4 เพราะทั้ง 2 ตัวใช้ดีไซน์เดิม แต่ไม่ต้องแปลกใจ เพราะว่าดีไซน์อันนี้ที่ล่ะที่ทำให้คนเข้าถึงหูฟังรุ่นนี้ได้อย่างมากมาย มันเป็นส่วนผสมระหว่าง Form และ Function ได้อย่างลงตัว ไม่ลิเกจนคันเวลาใส่ หรือ น่าเบื่อจนเพื่อนล้อ

แต่ถายใต้ดีไซน์ที่เหมือนเดิมนี้ ก็มีการเปลี่ยนแปลงนะ

• Headband มีการเปลี่ยนหนังให้แน่นขึ้น ใส่แล้วดึ๋งๆ หัวกว่ารุ่น XM3
• Earpad ก็มีการปรับนิดหน่อยเหมือนกัน

นอกจาก 2 อย่างนี้ ในแง่ของรูปร่างถ้าดูผ่านๆ รับรองว่าแยกไม่ออกแน่นอน

และนี่จะเป็น ICON สำหรับหูฟัง Noise Cancelling ที่ Sony ต้องการทำให้คนติดตา

แต่จุดที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดก็คือ เจ้า Sensor นี่ล่ะจ้า … มันคือ Sensor อะไร ไม่มีใครบอก Sony เองก็ยังไม่บอก แต่ที่แน่ๆ มันมาพร้อมกับฟังก์ชั่นใหม่ (ที่เพื่อนบ้านเค้ามีกันมานานแล้ว)

ฟังก์ชั่นที่เพิ่มมาใหม่ใน Sony WH-1000XM4

1. ระบบ Wearing Detection เปิดปิดเพลงอัตโนมัติเมื่อ สวม หรือ ถอด หูฟัง
2. ระบบ GPS ในตัวหูฟัง ตัวหูฟังจะจดจำตำแหน่งของเรา และทำไปใช้กับระบบ Adeptive Sound Control
3. ระบบ Ambient Sound Control ใหม่ … ไม่ต้องกดปุ่ม แค่อ้าปากพูด ระบบ Speak to Chat ก็จะเปิด Ambient Sound ให้เองทันที! โคตรเก๋ แล้วถ้าคุณหยุดพูด มันก็ปิดโหมดให้เองด้วย เก๋ไก๋มั้ยล่ะ
4. DSEE Extreme ฟังก์ชั่นอัพคุณภาพเสียงแบบ AI ที่จะมาปรับเสียงให้เจ้นจนถูกใจอย่างที่ไม่เคยมีเบรนด์ไหนทำมาก่อน (หรือเปล่าเค้าไม่อยากทำกันล่ะ)
5. Multi-point Connection เชื่อมต่อมือถือได้ 2 เครื่องพร้อมกัน … อันนี้เจ๋งจริง พี่ซื้อ!

เพิ่มมาแค่ 5 ฟีเจอร์นี่ ถือว่าเยอะมั้ย?

ส่วนตัวผมว่าเยอะนะ เพราะฟีเจอร์เก่ามันก็ดี และมีเยอะอยู่แล้ว

ฟีเจอร์อื่นๆ รวมประมาณนี้

• ไดรเวอร์เสียงขนาด 40มม. HD
• ชิปตัดเสียง HD Noise Cancelling QN1 Processor พร้อมชิป Audio
• มี Touch Panel สัมผัสเพื่อควบคุม
• รองรับ DSEE EXTREME
• ความถี่ของเสียงที่รองรับ 4Hz-40,000Hz
• Bluetooth 5.0
• รองรับการเข้ารหัสไฟล์เสียงแบบ SBC, AAC, aptX, aptX HD และ LDAC
• มีปุ่มควบคุมการตัดเสียง NC/Ambient
• แบตเตอรี่ใช้งานได้สูงสุด 30 ชั่วโมง
• รองรับชาร์จไว 10 นาที ใช้ได้ 5 ชั่วโมง
• ใช้งานร่วมกับ Google Assistant / Alexa
• มี NFC

คุณภาพเสียง

จะไม่พูดเรื่องนี้ก็ไม่ได้สินะ เดี๋ยวเค้าหาว่าผิดผี 555

สิ่งที่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด คือ 1000XM4 มาพร้อมลำโพงแบบใหม่ ให้เสียงใสที่ไปไกลกว่าเดิม เด่นชัดโดยไม่ต้องเปิดเสียงเพิ่ม เบสที่สุภาพกว่าเดิมฟังเพลงได้หลากหลายแนวกว่าเดิม เมื่อใช้ร่วมกับ EQ ตัว 1000XM4 ให้ผลที่ชัดเจนกว่า 1000XM3 ค่อนข้างชัดเจน ส่วนถ้าใครใช้ 1000XM3 มาจนติดหู อย่าคิดว่า 1000XM4 มันจะเสียงเหมือนเดิมทั้งหมด ให้คิดว่ามันคือหูฟังใหม่ และเริ่มปรับแต่งมันใหม่จ้า … เสียงมันต่างจากเดิมนิดหน่อย

แต่ก็ยังคงมี Sony Sound เหมือนเดิมนะ

สิ่งที่แตกต่างออกไปสำหรับเรื่องเสียง

• 1000XM4 เสียงแหลมดีกว่าเดิม
• 1000XM4 เสียงเบส impact น้อยลง แต่ฟังง่ายขึ้น
• 1000XM4 ให้เสียงที่มีมิติเสียงดีกว่าเดิม
• 1000XM4 มีเอกลักษณ์เสียงที่เปลี่ยนไปนิดหน่อย ก่อนใช้งานให้คิดซะว่ามันคือหูฟังใหม่นะ
• 1000XM4 ยังมี Sony Sound ที่เป็นเอกลักษณ์ แต่คุณก็สามารถปรับแต่งให้มันเป็นเสียงที่คุณชอบได้ง่ายๆ

Sony WH-1000XM4 เปิดตัวที่ราคาน่าจะเท่าเดิมคือ 13,990.- เปิดรับจองเร็วๆ นี้จ้า รอรายละเอียดจากทาง Sony Thailand ก่อนจ้า