TOPPING D70 vs D70BT vs D70s MQA – DAC ที่ออกแบบมาต่างกันเพื่อคุณ

TOPPING ตระกูล D70 เป็น DAC รุ่นยอดนิยมอีกรุ่นประจำค่ายเลยล่ะครับ ถ้านับจาก D Series แล้วล่ะก็ D70 ถือว่าเป็นรุ่นรองท็อปที่ผ่านการพัฒนามาหลายครั้งจนมีรุ่นย่อยออกมาให้เลือกใช้งาน สำหรับใครที่เล็งๆรุ่นนี้ไว้อยู่ล่ะก็ เดี๋ยวเราจะมาแนะนำความแตกต่างของ D70 รุ่นย่อยทั้ง 3 ให้ชมกันเลยครับ

TOPPING D70 vs D70BT vs D70s MQA

ชิปประมวลผล

D70 : ชิปประมวลผล XMOS XU208
 
D70 BT : ชิปประมวลผล XMOS XU208

D70s MQA : ชิปประมวลผล XMOS XU216 16-core รุ่นที่ 2

เนื่องจากถูกพัฒนาจนเป็นเจเนอเรชั่นล่าสุด CPU ของ D70s MQA จึงแรงกว่าใครเพื่อน แต่ในทางปฎิบัติแล้วทั้งสามรุ่นถือว่ามีความเร็วในการใช้งานที่สูงเหลือเฟือครับ สามารถรองรับการถอดรหัสสูงสุดที่ PCM 32Bit / 768kHz และ DSD512 เท่ากัน ทำให้ได้รับมาตราฐาน Hi-Res Audio มาจากโรงงานเหมือนกันครับ

ชิปเซ็ต DAC ระดับเรือธง

D70 / D70 BT / D70s MQA : Dual DAC AKM AK4497 จำนวน 2 ตัว

ในส่วนของระบบ DAC นั้นเท่าเทียมกันทั้งสามรุ่นครับ ออกแบบให้เป็นระบบ Full Balanced เต็มรูปแบบ ให้คุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม มี Noise ที่ต่ำและให้ Dynamic Range ได้สูง การแยกแชนแนลอย่างชัดเจนแบบนี้ช่วยให้คุณภาพเสียงดีกว่าระบบ Single DAC อย่างชัดเจนครับ

Digital Receiver คุณภาพสูง

D70 / D70 BT / D70s MQA : ชิปเซ็ต AK4118

สำหรับการรับสัญญาณภาคดิจิตอลจะใช้ชิปเซ็ทคุณภาพสูงอย่าง AK4118 ซึ่งมีค่า Jitter ที่ต่ำ ทำให้การรับสัญญาณผ่านช่อง Optical, Coaxial และ AES สามารถรองรับรายละเอียดได้สูงถึง 24Bit / 192kHz ครับ

มาพร้อมช่อง HDMI IIS

ทั้ง 3 รุ่นยังมีพอร์ต HDMI IIS ติดตั้งมาให้ด้วยครับ ถือว่าเป็น DAC ที่มีอินพุตมาให้ครบครันมากๆ และข้อดีของพอร์ต IIS ก็คือให้รายละเอียดได้สูงเทียบเท่าพอร์ต USB นั่นคือ PCM 32Bit / 768kHz และ DSD512

สองอะนาลอคเอาท์พุต

ที่ด้านหลังเครื่องจะมีเอาท์พุตสำหรับเชื่อมต่อไปยังแอมป์หรือลำโพงแอคทีฟให้เลือก 2 แบบด้วยกันนั่นคือ RCA และ XLR เหมือนกันทุกรุ่นครับ

เลือกใช้แต่ชิ้นส่วนระดับ Audio Grade

การออกแบบระบบและวงจรของตระกูล D70 นั้นจัดเต็มทุกรุ่นครับ เริ่มจากการใช้ชิป ACCUSILICON femtosecond crystal จำนวน 2 ตัวทำให้ระบบ Clock มีความแม่นยำสูงมาก ส่งผลให้ค่า Jitter ต่ำ ช่วยให้เสียงมีรายละเอียดที่ครบถ้วนสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

ส่วนของตัวเก็บประจุก็เป็น nichicon ที่ใช้ 4 ตัวสำหรับจ่ายพลังงานให้กับชิป AK4497 โดยเฉพาะ 

ส่วนของ Regulator ก็จะเป็น TPS7A47 และ TPS7A33 ที่ส่งผลให้ระบบมี Noise ที่ยิ่งต่ำลงไปอีก ส่งผลให้เกิดซาวด์ที่เรียกว่า “a darker background” หรือที่เราจะคุ้นกับคำว่าพื้นหลังที่สงัดนั่นเองครับ 

ถ้าต้องการระบบไร้สายต้องบ๊ายบาย D70

D70 BT / D70s MQA : รองรับ Bluetooth 5.0 LDAC / AAC / SBC / aptX / aptX LL  / aptX HD

ถ้าต้องการเชื่อมต่อแบบไร้สายคงต้องโบกมือลารุ่นแรกอย่าง D70 ไปก่อนครับ ส่วนของรุ่น BT นั้นก็ตามชื่อเลยว่าเพิ่มอินพุตไร้สายแบบ Bluetooth มาให้รวมถึงรุ่น MQA ด้วยครับ ด้วยชิปเซ็ตบลูทูธ CSR8675 ทำให้สามารถใช้งาน Bluetooth 5.0 ได้พร้อมทั้งรองรับ codec ระดับ Hi-Res ครบครัน

D70s MQA สำหรับการฟังเพลงแบบ Master Quality

สำหรับใครที่ต้องการไปให้สุดทางก็คงต้องจบที่รุ่น D70s MQA เท่านั้นครับ เพราะนอกจากสเปคในส่วนอื่นๆที่ยอดเยี่ยมแล้วก็ยังรองรับการถอดรหัสไฟล์ MQA แบบ Full Decoder ด้วย ช่วยให้ฟังเพลงผ่านระบบสตรีมมิ่งอย่าง Tidal ด้วยคุณภาพเสียงระดับ Hi-Res ที่เป๊ะแบบเดียวกับไฟล์มาสเตอร์ในสตูดิโอเลยล่ะครับ

มาพร้อม Remote Control

ส่วนของการควบคุมการใช้งานนั้นสะดวกสบายทุกรุ่นครับ เพราะมีรีโมทแถมมาให้ในชุด ไม่ต้องลุกไปกดปุ่มหน้าเครื่องให้เมื่อยตุ้ม

“จากสเปคทั้งหมดจะเห็นว่าโดยพื้นฐานแล้ว D70 ทั้งสามรุ่นให้คุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมทัดเทียมกันครับยกเว้นผู้ที่ต้องการคุณสมบัติในการใช้งาน Bluetooth หรือการถอดรหัสไฟล์ MQA ก็คงต้องเขยิบไปเล่นรุ่นท็อปของตระกูลครับผม”