Topping DX7 Pro Plus DAC-Amp เหนือชั้นดีไซน์ใหม่เอี่ยม
DAC-Amp ซีรี่ส์ DX7 จาก Topping กลับมาอีกครั้งในโค้ดเนมใหม่ DX7 Pro Plus ที่อัพเกรดแทบจะยกเครื่อง พร้อมดีไซน์ใหม่เอี่ยมอ่อง ผู้ที่ต้องการ DAC-Amp Hi-Res คุณภาพสูงต้องไม่พลาดครับ
TOPPING DX7 PRO Plus DAC-Amp
HIGHLIGHT
- ชิป DAC ES9038PRO พร้อมสถาปัตยกรรม Hyper-stream 32bit ระดับเรือธง ให้รายละเอียดสูงสุด 768kHz/32-bit และ DSD512
- ชิปเซ็ตบลูทูธ QCC5125 ใหม่ล่าสุดเพื่อรองรับโปรโตคอล Adaptive และ LDAC
- รองรับหูฟัง 4.4 mm. Balanced , 4-Pin XLR Balanced , 6.35 mm. Single-End
- Output 4 โหมด : HP Amp, HP Amp + Line Out , DAC และ Pre-amplifier
- ค่า THD+N <0.00006% นั่นหมายถึงรายละเอียดที่คุณได้ยินได้มากขึ้นและชัดเจนยิ่งขึ้น
ดีไซน์ใหม่ สเปคใหม่ไฉไลกว่าเยอะ
โดยปกติผลิตภัณฑ์แต่ละซีรี่ส์ของ Topping มันจะถูกอัพเกรดโดยปรับแต่งแค่ภายในมากกว่าเปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอกครับ แต่สำหรับ DX7 Pro Plus ถูกยกเครื่องใหม่หมดเลย ถึงแม้ดีไซน์จะยกมาจากรุ่น DX5 แต่ก็ต้องยอมรับว่ารูปแบบนี้มันก็สวยไม่หยอกและดูมีลูกเล่นมากกว่า DX7 Pro เดิมครับ
เรามาดูภายนอกทั้งหมดกันก่อนเลยก็แล้วกัน ตัวบอดี้ทั้งหมดจะเป็นอะลูมิเนียมขึ้นรูปด้วย CNC เรื่องวัสดุและงานประกอบยังอยู่ในมาตราฐานที่ดีเยี่ยมครับ
ที่ด้านหน้าตัวเครื่องยังคงรูปแบบการใช้งานที่เหมือนกับรุ่นก่อน คือมีเอาท์พุตหูฟังให้ใช้ 3 รูปแบบคือ 4.4 mm. Balanced , 4-Pin XLR Balanced และ 6.35 mm. Single-End ถัดมาก็เป็นหน้าจอ LED เช่นเดิม และปิดท้ายด้วยโวลลุ่มซึ่งเป็นแบบ step volume control ที่มีความแม่นยำสูงกว่าเดิม
มาดูที่ด้านหลังกันบ้าง พอร์ตเชื่อมต่อเรียกว่ายกมาจากรุ่นก่อนเป๊ะๆเลย ประกอบด้วย
Input : USB / Coaxial / Optical / IIS และ Bluetooth
Output : XLR & RCA
แค่นี้ก็เรียกว่าครบมากๆแล้วและรองรับการเชื่อมต่อแทบจะทุกรูปแบบ แต่ Topping ก็ยังเพิ่มลูกเล่นเข้ามาอีกหน่อยคือ 12V Trigger ทำให้เราเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นผ่านสาย 3.5mm. เพื่อให้อุปกรณ์ทั้งสอง sync กันและสั่งการเปิดปิดได้จาก DX7 Pro Plus เลยครับ
ปรับปรุงภายในแบบยกชุดให้เสียงดีกว่าเดิม
ถ้าดูจากในตารางจะเห็นว่า Technical Spec แทบจะดีขึ้นกว่าเดิมทั้งหมดครับ โดยเฉพาะค่าของสัญญาณรบกวนต่างๆที่ทำให้ลดน้อยลงไปได้อย่างมาก คือไม่ต้องห่วงเรื่องพื้นหลังที่สงัดเลย ได้ซาวด์สุดสะอาดสมใจอยากแน่นอนครับ
ชิปเซ็ท DAC ที่ใช้ยังคงเป็น ESS ES9038 Pro 32-bit ตัวท็อปพร้อม XMOS XU208 สามารถรองรับรายละเอียดได้สูงถึง 32Bit / 768kHz และรองรับ DSD512
ยังมีส่วนเสริมของชิป DAC ที่เพิ่มเข้ามาคือชิป Conversion I/V ทำให้สามารถรีดประสิทธิภาพในการถอดรหัสได้ถึง bit สุดท้าย
ส่วนของชิป Bluetooth จะถูกอัพเกรดใหม่เป็น QCC5125 ทำให้ DX7 Pro Plus ได้รับมาตราฐาน Hi-Res Audio Wireless ด้วย เพราะรองรับ codec คุณภาพสูงครบครันรวมถึง LDAC ด้วยครับ
ระบบแอมป์ใหม่และเอาท์พุตโหมดให้เลือกเช่นเดิม
ภาคขยายของ DX7 Pro Plus จะเป็นวงจรแบบ NFCA ที่มีจุดเด่นในเรื่องกำลังขับที่สูงแต่มีสัญญาณรบกวนต่ำครับ โดยให้กำลังขับได้สูงถึง 1900mW ที่โหลด 32ohm และ 320mW ที่โหลด 300ohm ถือว่ามากพอที่จะขับหูฟังขนาดใหญ่ได้สบายๆ
อีกส่วนที่ยังเป็นจุดแข็งของ DX7 Pro Plus ก็คือ Multiple Output Mode ครับ ซึ่งโหมดเหล่านี้ทำให้การใช้งานของ DX7 Pro Plus มีความยืดหยุ่นมากๆ
- Headphone Amp : โหมดนี้ก็แน่นอนว่าเป็นนำหูฟังมาใช้งานร่วมกับ DX7 Pro Plus ในการฟังเพลงครับ
- Headphone Amp + Line Out : โหมดนี้จะทำให้คุณส่งสัญญาณจากแอมป์และเอาท์พุตทั้งหมดไปยังอุปกรณ์อื่นผ่านการควบคุมที่ตัวโวลลุ่มคอนโทรลได้
- DAC : โหมดนี้จะใช้แค่ภาค DAC และส่งสัญญาณอะนาลอคเพียวๆไปให้แอมป์ภายนอกขยายเสียงแทน
- Pre-Amplifier : โหมดสุดท้ายจะแปรสภาพให้เครื่องเป็นปรีแอมป์อย่างเดียว โดยเราสามารถส่งสัญญาณผ่านเอาท์พุตและยังใช้โวลลุ่มควบคุมระดับเสียงได้อยู่ครับ เหมาะสำหรับเชื่อมต่อกับพวกลำโพงแอคทีฟมากๆ
จำลองคาแรคเตอร์เสียงด้วย Sound Simulation
ไฮไลท์อย่างสุดท้ายที่อยากจะพูดถึงก็คือ DX7 Pro Plus ยังมีโหมดจำลองเสียงของระบบ Tube และ Transistor ให้เราเลือกใช้งานได้อีกครับ ซึ่งจะเป็นการจำลองคาแรคเตอร์ฮาร์โมนิคของอุปกรณ์อะนาลอคมาให้เราใช้งาน ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่แจ่มมากๆครับ
DAC-Amp ตั้งโต๊ะคุณภาพพร้อมลูกเล่นครบครัน
Topping ยังสามารถครองตำแหน่งหัวแถวของ DAC-Amp แบบครบเครื่องเอาไว้ได้เป็นอย่างดีครับ โดยเฉพาะในอุปกรณ์ราคาระดับกลางแต่ได้สเปคที่สูงพอสมควร
ถ้าใครอยากได้ DAC-Amp แบบตัวเดียวจบที่สามารถพลิกแพลงการใช้งานได้หลากหลาย Topping DX7 Pro Plus ก็สามารถเบียดเข้ามาเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจให้คุณพิจารณาได้แน่นอนครับ