Topping DX7 Pro Plus VS DX5 DAC-Amp สุดเด่นของปี 2023

DX7 Pro Plus และ DX5 สองพี่น้อง DAC-Amp ประจำตระกูล DX จากค่าย Topping ที่ยังคงร้อนแรงข้ามมาถึงปี 2023 ด้วยสเปคที่สดใหม่ ให้ประสิทธิภาพด้านเสียงระดับสูงและฟังค์ชั่นที่คุ่มค่าการลงทุน แต่ถ้าใครยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะรุ่นไหนดี เดี๋ยวเราสรุปแบบรวบรัดให้อ่านกันเลยครับ

Topping DX7 Pro Plus VS Topping DX5

	DX7 Pro Plus	DX5
DAC	ES9038PRO (768kHz/32-bit, DSD512)	ES9068AS (768kHz/32-bit, DSD512 & MQA)
Amp	วงจร NFCA ให้กำลังขับสูง 1900mW @ 32ohm	วงจร NFCA ให้กำลังขับสูง 1800mW @ 32ohm
Headphone Output	4.4 mm. Balanced , 4-Pin XLR Balanced , 6.35 mm. Single-End	4-Pin XLR Balanced , 6.35 mm. Single-End
Bluetooth	ชิปเซ็ท QCC5125 รองรับ LDAC	ชิปเซ็ท QCC5125 รองรับ LDAC
Noise Floor & Dynamic Range	THD+N <0.00006% (DAC) / 127dB NSR	THD+N <0.00009% (DAC) / 125dB NSR
Special Feature	โหมดเสียง Valve และ Transistor	None

เปรียบเทียบภาค DAC

มองจากตารางด้านบนก็น่าจะพอเห็นความแตกต่างของศิษย์พี่ศิษย์น้องทั้งสองรุ่นกันแล้วนะครับ เดี๋ยวเราไปลงรายละเอียดแต่ละหัวข้ออย่างละนิดอย่างละหน่อยกันต่อเลย เริ่มกันด้วยหัวใจของเครื่องคือภาค DAC

จะเห็นว่าชิป DAC ทั้งสองมาจากค่าย ESS เช่นเดียวกันเพียงแต่ว่า DX7 Pro Plus ที่อยู่ในพิกัดสูงกว่าก็ย่อมได้ชิปที่ดีกว่าไป ซึ่งแม้ว่าความสามารถมาราถในการตอบสนองรายละเอียดเสียงจะเท่ากัน บน PCM ให้รายละเอียดสูงสุดที่ 768kHz/32-bit และ DSD512 เหมือนกันทั้งคู่ แต่ทางด้านสัญญาณรบกวนจากระบบ DX7 Pro Plus จะทำได้ต่ำกว่าครับ อยู่ที่ 0.00006% เท่านั้น ส่วน DX5 จะสูงกว่านิ๊ดหน่อยคือ 0.00009% ถ้าซีเรียสเรื่องรายละเอียดมากๆยังไงก็ต้องเทใจไปทางฝั่งเรือธงกันก่อน

แต่ แต่ แต่ทางด้าน DX5 กลับมีความสามารถในการรองรับฟอร์แมท MQA ในขณะที่ DX7 Pro Plus ไม่มีไปซะหยั่งงั้น ใครที่ใช้งาน Tidal กันเป็นหลักก็ต้องชั่งใจกันหน่อยครับระหว่างฟอร์แมทที่ต้องการกับเรื่องของ Noise Floor

ว่ากันเรื่องภาคขยาย

มาต่อที่เรื่องแอมป์กันบ้างครับ ตรงจุดนี้ค่อนข้างคู่คี่สูสีกันมาก ทั้งคู่ใช้วงจรแบบ NFCA ที่มีจุดเด่นในเรื่องกำลังขับที่สูงแต่มีสัญญาณรบกวนต่ำ จากสเปคที่ให้มากำลังขับสูงสุดที่โหลด 32 โอห์มต่างกันเพียง 100mW เท่านั้น คือ DX7 Pro Plus อยู่ที่ 1,900mW ส่วน DX5 อยู่ที่ 1,800mW เท่านั้นเอง

อีกจุดที่เกี่ยวข้องกับแอมป์ก็คืออัตราส่วนของ Signal to noise ratio ของ DX7 Pro Plus ยังคงทำได้ดีกว่านิดหน่อยคือ SNR อยู่ที่ 127dB ส่วน DX5 ทำได้ที่ 125dB ส่งผลให้ภาพรวมของการใช้งานร่วมกับหูฟัง DX7 Pro Plus จะขับหูฟังได้ง่ายกว่าและมีไดนามิคเรนจ์ที่สูงกว่าเล็กน้อยครับ

ทั้งคู่สามารถ Match Gain ให้เหมาะกับหูฟังแต่ละประเภทได้นะครับ ถ้ามีคลังหูฟังเยอะๆเราก็สามารถใช้งานได้ทุกตัวแน่นอน

เรื่องของ I/O

สำหรับการเชื่อมต่อต่างๆ DX7 Pro Plus ก็ยังได้เปรียบกว่าถ้าคุณเน้นการใช้งานที่หลากหลายครับ เริ่มกันที่การใช้งานกับหูฟังซึ่งมีมาให้ทั้ง 4.4 mm. Balanced , 4-Pin XLR Balanced , 6.35 mm. Single-End ครบทั้งสามรูปแบบ แต่สำหรับ DX5 จะถูกตัด 4.4 mm. Balanced ออกไปทำให้มีเอาท์พุตหูฟังแค่สองรูปแบบครับ

ส่วนที่ด้านหลัง Input ของ DX7 Pro Plus ก็ยังชิงความได้เปรียบเหนือกว่าด้วยพอร์ต HDMI IIS พร้อมทั้ง AES เพิ่มมาให้ ส่วน DX5 จะมีแค่ USB, Coaxial และ Optical เท่านั้น

สุดท้ายคือ Line Output อันนี้ให้มาเหมือนกันทั้งคู่ครับนั่นคือ XLR และ RCA ทำให้เราใช้งานทั้งคู่เป็น Pre-Amp ได้สบายๆ

สตรีมมิ่งผ่าน Bluetooth

ในหัวข้อนี้ถือว่าเสมอกันไปครับ สเปคมาเท่ากันกันเลย คือใช้ชิปบลูทูธ QCC5125 แต่มีจุดต่างนิดเดียวตามสเปคโรงงานก็คือ DX7 Pro Plus จะทำงานภายใต้ Bluetooth 5.1 ส่วน DX5 จะทำงานกับ Bluetooth 5.0 ซึ่งเป็นความต่างที่ไม่ค่อยเอฟเฟคกับการทำงานเท่าไหร่ครับ

สำหรับ codec การทำงานก็สามารถใช้ LDAC ได้เช่นเดียวกัน จะมีจุดต่างอีกหน่อยก็คือ DX7 Pro Plus รองรับ aptX Adaptive เพิ่มมาด้วย ซึ่งการฟังเพลงอยู่กับบ้านเป็นหลัก การใช้งาน aptX HD ก็ถือว่าเหลือเฟือสำหรับทั้งคู่แล้วล่ะครับ

ลูกเล่นเสริม

สำหรับตัวท็อปอย่าง DX7 Pro Plus ยังมีลูกเล่นให้เราใช้งานปรับแต่งแนวเสียงได้อีกนั่นก็คือโหมดเสียง Valve และ Transistor ซึ่งก็คือการจำลองโทนเสียงของแอมป์หลอดและแอมป์ทรานซิสเตอร์นั่นเอง เป็นฟังค์ชั่นที่ใช้งานได้ดีนะครับ ยิ่งถ้าเราฟังเพลงหลากหลายแนวฟังค์ชั่นนี้เวิร์คมาก

นอกจากนั้นก็ยังมี 12V Trigger ทำให้เราเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นผ่านสาย 3.5mm. เพื่อให้อุปกรณ์ทั้งสอง sync กันและสั่งการเปิดปิดได้จาก DX7 Pro Plus เครื่องเดียวได้เลย

ถ้าใครคิดว่าไม่ค่อยซีเรียสกับสองฟังค์ชั่นนี้ก็ประหยัดเงินไปลงที่ DX5 แทนได้ครับ

---

Topping DX7 Pro Plus VS Topping DX5

บอกเลยว่าไม่ใช่จะเลือกกันง่ายๆนะสำหรับ Topping DX7 Pro Plus และ Topping DX5 เพราะถึงแม้จะถูกวางตำแหน่งไว้ต่างกันชัดเจน แต่สเปคก็ค่อนข้างสูสีกันมากเลยทีเดียว แถม DX5 ยังรองรับ MQA ได้อีกในขณะที่ DX7 Pro Plus ดันใช้งานไม่ได้

งานนี้คงต้องพึ่งหูคุณเป็นอีกด่านในการตัดสินใจแล้วล่ะครับ แต่ก็หวังว่ารายละเอียดตรงนี้จะช่วยให้ทุกท่านตัดสินใจเลือกได้ง่ายขึ้นไม่มากก็น้อยนะครับผม