DAC-Amp แบบไหนถึงเรียกว่าหางหนู
DAC-Amp แบบหางหนูกลายเป็นอีกหนึ่งไอเท็มที่ได้รับความนิยมมากๆในปัจจุบันนะครับ เพราะสามารถยกระดับคุณภาพเสียงได้เป็นอย่างดี ในขณะเดียวกันก็มีขนาดเล็กสะดวกต่อการพกพามากกว่า Portable DAC ว่าแต่ DAC-Amp แบบหางหนูมีจุดเด่นอย่างไรและต่างจากก Portable DAC ตรงไหนบ้างเราจะไปทำความรู้จักกันในบทความนี้กันเลยครับ
Smallest USB DAC for mobile
เอกลักษณ์เฉพาะของ “หางหนู”
จะว่าไปคนไทยเราก็เก่งในการตั้งฉายาให้กับเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆน่าดูเลยนะครับ เพราะคำว่า “หางหนู” มันช่างสามารถบรรยายลักษณะเด่นของ DAC-Amp พกพาขนาดเล็กชนิดนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะในต่างประเทศเองก็ไม่ได้มีคำเฉพาะสำหรับ DAC-Amp แบบนี้ครับ เค้าจัดมันอยู่ในหมวดของ Mobile DAC ซะมากกว่า
DAC-Amp แบบหางหนูจะมีรูปร่างเหมือนอะแดปเตอร์หูฟังสำหรับสมาร์ทโฟนครับ ฝั่งหนึ่งจะเชื่อมต่อเข้ากับสมาร์ทโฟนและก็มีสายยาวออกมาที่อีกฝั่งซึ่งเป็นช่องเสียบแจ็คหูฟังแบบ 3.5 มิลลิเมตรนั่นเอง
- เหมือนอะแดปเตอร์แต่เป็นมากกว่าอะแดปเตอร์
ถ้าเห็นอะแดปเตอร์แบบหางหนูเข้าก็อย่าพึ่งไปคิดว่านี่คือ DAC-Amp ไปซะหมดนะครับ สาเหตุที่เราใช้คำเรียก DAC-Amp แบบนี้ว่าหางหนูก็เพราะภายในนั้นติดตั้งชิป DAC และ Amp เอาไว้เพื่อให้ทำหน้าที่แทน DAC-Amp ภายในโทรศัพท์นั่นเอง
แต่จะมีหางหนูอีกแบบที่ทำหน้าที่เป็นอะแดปเตอร์เพียงอย่างเดียว เพื่อรองรับหูฟังที่ไม่มีเอาท์พุตหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ซึ่งหางหนูแบบนี้จะไม่มีชิป DAC และ Amp ภายในตัว เมื่อเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ระบบก็จะใช้ชิป DAC-Amp จากตัวโทรศัพท์เหมือนเดิม ไม่ได้เปลี่ยนแปลงคุณภาพเสียงแต่อย่างใด
ถ้าต้องการซื้อ DAC-Amp แบบหางหนูล่ะก็อย่าลืมตรวจสอบซะก่อนนะครับว่านั่นคือ “DAC-Amp” จริงๆหรือเป็นแค่เพียง “อะแดปเตอร์” ครับ
- พกพาง่าย ใช้งานสะดวกกว่า Portable DAC
DAC-Amp แบบหางหนูสามารถเข้ามาแทนที่ Portable DAC ได้เป็นอย่างดีครับในแง่ของความสะดวกในการพกพาและใช้งาน
ถ้าเป็น Portable DAC แบบในรูปเราจำเป็นต้องมัดรวมเข้ากับโทรศัพท์และก็ต้องใช้สาย OTG เชื่อมต่ออีกทีนึง จะเห็นได้ว่ายุ่งยากและเทอะทะกว่าหางหนูที่เสีบปุ๊บใช้งานได้ปั๊บ สามารถเอาโทรศัพท์ใส่ในกระเป๋ากางเกงและต่อสายหูฟังออกมาเพื่อฟังเพลงได้เหมือนเดิม แต่ถ้าเป็น Portable DAC รับรองว่างานนี้กระเป๋าตุงแน่นอน
- คุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้ DAC ตัวใหญ่ๆ
DAC-Amp หางหนูในปัจจุบันถูกพัฒนาเรื่องคุณภาพเสียงไปไกลมากแล้วครับ โทนและรายละเอียดเสียงที่ได้จัดว่าสู้กับ DAC-Amp แบบ Portable ได้อย่างสบายๆ
ยกตัวอย่างหางหนูรุ่นใหม่จากค่าย ddHiFi อย่างรุ่น TC35 Pro (EYE) ที่มาพร้อมกับความละเอียดที่รองรับได้สูงถึง 32-bit/768kHz รวมถึง DSD 512 อีกด้วย ทำให้ DAC-Amp หางหนูสามารถตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการฟังเพลง Hi-Res Audio ผ่านสมาร์ทโฟนได้เป็นอย่างดีครับ
ในปัจจุบัน DAC-Amp หางหนูหลายๆรุ่นอย่างเช่น Zorloo Ztella ยังรองรับการถอดรหัสไฟล์ MQA อีกด้วยนะครับ ใครที่ฟังเพลงผ่านระบบสตรีมมิ่งอย่าง TIDAL ล่ะก็หางหนูจึงเป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้เลยล่ะครับ
- พลังขับที่มากขึ้น รองรับหูฟังขนาดใหญ่ได้
หลายๆท่านอาจจะสงสัยว่า DAC-Amp หางหนูมันตัวเล็กๆแค่นี้จะใช้งานกับหูฟังตัวใหญ่ๆได้มั้ย? คำตอบก็คือได้ครับ
DAC-Amp (กึ่ง) หางหนูรุ่นใหม่ๆอย่างเช่น Questyle M12 ที่มีโมดูลแอมพลิฟายเออร์คุณภาพสูง สามารถรองรับหูฟังขนาด 600 โอห์มได้ แถมยังมี Gain Mode ที่ปรับได้อัตโนมัติทั้ง Low และ Hi ทำให้สามารถรองรับหูฟังได้หลากหลายทั้งใหญ่และเล็กครับ
- เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ได้เช่นกัน
อีกจุดนึงที่หางหนูทำได้ไม่ต่างจาก Portable DAC ก็คือสามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เพื่อทำหน้าที่เป็น USB DAC ได้เช่นกันครับ ถือว่าคุ้มค่ามากๆในการจัด DAC-Amp หางหนูซักชิ้นนึงแล้วสามารถใช้ฟังเพลงได้ทั้งจากโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์
จุดที่เสียเปรียบ Portable DAC
มีข้อดีก็ย่อมมีข้อด้อยเป็นธรรมดาครับ ถึงหลายๆจุด DAC-Amp หางหนูจะได้เปรียบ Portable DAC ก็ตามแต่ก็มีจุดที่หางหนูทำไม่ได้ ฉะนั้นในการเลือกซื้อ DAC-Amp พกพาไว้ใช้งานก็ต้องคำนึงถึงเรื่องเหล่านี้ด้วยครับ
- ควบคุมหรือปรับแต่งเสียงที่หางหนูไม่ได้
เพราะการออกแบบที่ต้องกะทัดรัดที่สุด ถ้าให้ที่ตัวหางหนูไม่มีส่วนควบคุมปรับแต่งอะไรทั้งนั้นครับ ต่างจาก Portable DAC ที่มีโวลลุ่มคอนโทรล และอาจจะมี EQ Switch ให้เราปรับแต่งโทนเสียงเพิ่มได้อีก
- เอาท์พุตที่จำกัดกว่า
DAC-Amp หางหนูมักจะจำกัดเอาท์พุตหูฟังมาเฉพาะแบบ Single-Ended ขนาด 3.5 มิลลิเมตรเท่านั้น ต่างจาก Portable DAC ที่บางรุ่นจะมี Balanced 4.4 และ 2.5 มิลลิเมตรมาให้ด้วย
- ใช้แบตเตอรี่ร่วมกับโทรศัพท์
อีกจุดนึงที่ต้องทำใจไว้ก่อนก็คือเมื่อใช้ DAC-Amp หางหนูก็จะสิ้นเปลืองแบตเตอรี่ของโทรศัพท์หรือแท็ปเลทเรามากขึ้นกว่าเดิมนะครับ เพราะตัวหางหนูก็จำเป็นต้องรีดพลังงานเพื่อมาหล่อเลี่ยงชิป DAC และส่งกำลังไปให้แอมป์ด้วย ต่างจาก Portable DAC ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่เก็บไว้ในตัวได้ทำให้ประหยัดพลังงานจากโทรศัพท์มากกว่า
ทั้งหมดนี่ก็คือภาพรวมและลักษณะเด่นของ DAC-Amp ที่เรารียกว่า “หางหนู” นะครับ ก่อนที่จะไปซื้อหามาใช้ก็ลองพิจารณาฟังค์ชั่นต่างๆกันดูนะครับว่างหางหนูนั้นเข้ากับการใช้งานของเรารึเปล่า แต่ที่แน่ๆถ้าเน้น 2 เรื่องอย่างคุณภาพเสียงและการพกพาล่ะก็ DAC-Amp หางหนูตอบโจทย์คุณอย่างแน่นอนครับผม