MQA ส่อแววระส่ำฐานะทางการเงิน อาจะยืนอยู่ถึงได้เพียงต้นปี 2024
MQA บริษัทเทคโนโลยีการเข้ารหัสเสียงสำหรับบริการสตรีมมิ่งความละเอียดสูงสำหรับบริษัทต่างๆ เช่น Tidal ได้เข้าสู่การดูแลการบริหาร หลังจากผู้สนับสนุนทางการเงิน และผู้ก่อตั้งบริษัทก้าวลงจากตำแหน่งคณะกรรมการ ตามเอกสารที่ยื่นต่อบริษัทและรายงานของสื่อ
Anton Rupert หลานชายของมหาเศรษฐีเจ้าพ่อยาสูบแห่งแอฟริกาใต้ที่มีชื่อเดียวกัน ถูกถอดจากตำแหน่งผู้อำนวยการของคณะกรรมการบริษัท MQA Limited เมื่อวันที่ 17 มีนาคม ตามเอกสารที่ยื่นฟ้อง Rupert เป็นตัวแทนของ Reinet Investments S.C.A. ซึ่งเป็นผู้ให้ทุนผู้ก่อตั้ง MQA
บริษัทในลอนดอนแห่งนี้เชี่ยวชาญด้านการสร้างไฟล์เพลงขนาดใหญ่ให้มีขนาดเล็กพอที่จะเข้ากันได้กับบริการหรืออุปกรณ์การเล่นใดๆ โดยไม่สูญเสียคุณภาพ แม้ว่าบริษัทจะขยายแบรนด์ผ่านการเป็นพันธมิตรกับบริษัทเพลงรายใหญ่อย่าง Xiami Music ในประเทศจีน Tidal และกลุ่มการค้าเพลงอิสระ Merlin แต่ก็ต้องดิ้นรนเพื่อทำกำไร
บริษัททำเครื่องหมายอนาคตทางการเงินที่ไม่แน่นอนในรายงานประจำปีล่าสุด ซึ่งเป็นปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2021 ในแถลงการณ์ในรายงาน Mike Jbara ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ MQA อธิบายว่าบริษัทเป็น “สตาร์ทอัพที่ขาดทุน ” และกล่าวว่าทราบดีว่ากำลังเผชิญกับการแข่งขันแย่งชิงพนักงานจากบริษัทเทคโนโลยีอื่น ๆ ในสหราชอาณาจักรที่เสนอสิ่งจูงใจทางการเงินบางอย่าง บริษัทยังระบุว่ามีความมุ่งมั่นในการระดมทุนเพื่อรักษาการดำเนินงานจนถึงไตรมาสแรกของปี 2566 เท่านั้น
ธุรกิจของ MQA สร้างขึ้นจากความต้องการเทคโนโลยีของพวกเขาโดยการจัดหาเครื่องมือให้กับผู้สร้างเนื้อหาที่จะเพิ่มลงในแคตตาล็อกเพลงที่สร้างโดยใช้เทคโนโลยีของ MQA ไฟล์ MQA เหล่านั้นจะเข้าถึงหูผู้บริโภคผ่านผู้จัดจำหน่ายและผู้ออกอากาศที่มีข้อตกลงกับ MQAอะไร
จะเกิดอะไรขึ้นกับบริการที่ MQA มอบให้กับบริษัทคู่ค้านั้นยังไม่ชัดเจน แต่การเข้าสู่การดูแลระบบไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานหลักของบริษัทเสมอไป อย่างน้อยก็ไม่ใช่ในตอนแรก
คล้ายกับการประกาศล้มละลายในสหรัฐอเมริกา การเข้าสู่การบริหารในสหราชอาณาจักรช่วยปกป้องบริษัทที่มีหนี้สินล้นพ้นตัวจากเจ้าหนี้ พื้นที่หายใจนี้ให้เวลาบริษัทในการดึงตัวเองออกจากปัญหาทางการเงิน หรือผู้ดูแลระบบที่ได้รับการแต่งตั้งจากศาลจะแนะนำให้ดำเนินการต่างๆ เช่น การขายสินทรัพย์ เพื่อช่วยชำระหนี้ของบริษัท
MQA ไม่ตอบสนองต่อคำร้องขอความคิดเห็น
ในรายงานประจำปีล่าสุด บริษัทกล่าวว่า “มั่นใจว่าเราจะได้รับภาระผูกพันด้านเงินทุนเพิ่มเติมระหว่างการหารือเหล่านั้นใน (ไตรมาสแรก) ปี 2023”
ที่มา : https://www.billboard.com