รีวิว Beyerdynamic DT 700 PRO X vs DT 900 PRO X หูฟังมอนิเตอร์ยุคใหม่
สองหูฟังมอนิเตอร์รุ่นใหม่ประจำตระกูล DT ที่แน่นอนว่าออกแบบเพื่อสืบสานชื่อเสียงของหูฟังระดับตำนาน หลายท่านน่าจะรอรีวิวสองรุ่นนี้เปรียบเทียบกันอยู่แน่ๆ วันนี้เราเอามาสรุปให้คุณฟังกันแล้วครับว่าเค้าแจ่มกว่ารุ่นพี่มั้ยและแตกต่างกันอย่างไรบ้าง?
PROS จุดเด่น | CONS จุดด้อย |
ดีไซน์สวย วัสดุดี เอียร์แพดนุ่มสบาย | ราคาอัพจากรุ่น 770 และ 990 ขึ้นอีกพอสมควร |
ขับเสียงง่ายมากๆ ใช้งานได้ทุกอุปกรณ์ | โทนเสียงจัดจ้านแบบมอนิเตอร์ นักฟังเพลงทั่วไปอาจไม่ชอบ |
สายถอดเปลี่ยนได้ พกพาง่ายขึ้น ซ่อมแซมก็ง่าย | ไม่มีกล่องใส่หูฟัง มีแค่ถุงผ้า |
บอกเลยว่าส่วนตัวผมก็รอเทสหูฟังทั้งสองรุ่นนี้มาสักพักแล้วล่ะครับ เพราะส่วนตัวก็ใช้รุ่นยอดฮิต DT770 PRO ในการทำงานอยู่แล้ว เลยยิ่งอยากรู้ว่าสองรุ่นใหม่นี้เค้าจะเจ๋งยังไงบ้าง
สำหรับคนที่เคยผ่านหูฟังตระกูล DT มาบ้างก็น่าจะทราบกันดีว่าเค้าออกแบบมาเพื่อคนทำงานเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นสายตัดต่อภาพ มิกซ์หรืออีดิทเสียงไปจนถึงคนทำไลฟ์ซาวด์ก็ยังใช้ ซึ่งน้ำเสียงมันจึงอาจจะไม่ได้ถูกใจนักฟังเพลงทั่วไปเท่าไหร่ เพราะโทนเสียงที่ออกแนวมอนิเตอร์จ๋าเลยนี่แหละ ซึ่งเดี๋ยวเรามาดูกันครับว่า รุ่นใหม่ทั้งสองจะมีความเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมั้ย
Packaging and Accessories
เห็นกล่องส่งมาก็รู้สึกเลยว่าแปลกตาไปจากรุ่นอื่นๆพอสมควรทั้งสีและดีไซน์ ก็ดูตามสมัยนิยมดีครับ แกะกล่องออกมาก็เจอหูฟังนอนสงบนิ่งอยู่ภายใน
ของแถมที่มีมาจะมีสายสัญญาณให้ 2 เส้น ซึ่งเจ้า PRO X ทั้งสองรุ่นจะเปลี่ยนมาใช้สายระบบถอดเปลี่ยนได้ครับ โดยใช้ขั้วต่อแบบ mini XLR ส่วนหัวแจ็คก็จะเป็นขนาด 3.5mm. พร้อมอะแดปเตอร์ขนาด 6.35mm. สายที่ให้มาสองเส้นก็จะมีความยาว 1.8 เมตรและ 3 เมตรครับ
ก็ถือว่าสะดวกดีนะ สายสั้นไว้ต่อกับพวกมือถือฟังเพลงเล่นไม่เกะกะ ส่วนสายยาวก็เหมาะกับงานสตูดิโอเพราะสามารถลากได้ไกล ผมชอบที่เค้าเปลี่ยนระบบสายมาเป็นแบบนี้ เพราะมันทำให้พกพาสะดวกขึ้น ไม่ต้องเสี่ยงสายหักในเวลาขดหรือม้วนสาย ส่วนเวลาสายพังก็ซ่อมง่ายกว่ารุ่น 770 หรือ 990 เยอะ
ผมติดอยู่อย่างนึงตรงที่เค้ามีแค่ถุงผ้าใส่หูฟังมาให้ จริงๆอัพค่าตัวมาระดับนี้น่าจะแถมซอฟท์เคสมาก็ยังดี ไหนๆก็ออกแบบมาเพื่อการพกพาอยู่แล้ว
Build and Comfort
รูปร่างหน้าตาของทั้งสองรุ่นหล่อและทันสมัยขึ้นถูกใจเลยล่ะ โดยเฉพาะสายคุมโทนสีดำปลื้มแน่นอนครับ การออกแบบของทั้งคู่ถอดบล็อคเดียวกันมาเป็ะๆ ความต่างมีแค่อย่างเดียวก็คือ DT700 PRO X เป็นรุ่น Closed-Back ตัวเอียร์คัพก็จะถูกปิดสนิท ส่วน DT900 PRO X เป็น Open-Back ก็จะมีช่องระบายอากาศเป็นซี่ๆเหมือนเดิม
วัสดุต่างๆดูดีมากเลยทีเดียว ไฮไลท์สำคัญคือฟองน้ำและผ้าของเอียร์แพดนุ่มสบายขึ้นมาก ตามสเปคเห็นว่าเป็น soft memory foam นะครับ ส่วนของเฮดแบนด์ก็เป็นโครงอะลูมิเนียมที่ดีไซน์ใหม่ให้มีการโค้งลงมารับตัวเอียร์คัพดูสวยงามเลยล่ะ น้ำหนักผมว่ากำลังดีนะ ไม่ได้รู้สึกหนักอะไร ใส่ฟังเพลงนานๆก็ไม่ได้อึดอัดจนเกินไป
ส่วนเอาท์พุตที่ต่อกับขั้ว mini XLR ก็แน่นหนาแข็งแรงดีนะ ผมลองถอดเข้าถอดอยู่หลายครั้งเพราะต้องสลับหูฟังไปมาระหว่างเทสก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด คิดว่าถึงต้องถอดเสียบๆเป็นร้อยครั้งก็ไม่พังแน่นอน
ตัววัสดุอาจจะไม่ได้หรูหรามาก แต่คุณภาพของชิ้นงาน การประกอบต้องให้คะแนนเต็มครับ ก็สมแล้วกับงานเมดอินเยอรมัน
Sound Quality
มีอีกจุดนึงที่ผมยังไม่ได้ย้ำนั่นก็คือทั้งสองรุ่นมีค่า Impedance อยู่ที่ 48 Ohm ถือว่าขับง่ายครับ มือถือหรือแท็ปเลทก็ขับได้ ยิ่งถ้าใช้งานกับ Audio Interface ที่มีแอมป์ดีๆหน่อยปรับโวลลุ่มซักเก้าโมงนิดๆก็ดังลั่นหูแล้ว
Sound Stage
- DT700 PRO X
เวทีจัดว่าค่อนข้างโปร่งเลยทีเดียวล่ะ ให้สเตอริโออิมเมจซ้าย-ขวาที่ชัดเจนดีมาก จะรู้สึกได้ว่าเครื่องดนตรีไม่ได้มากระจุกรวมกันตรงกลางมากนัก และยังช่วยให้เราเก็บรายละเอียดของเสียงระหว่างช่องไฟต่างๆได้ทุกเม็ดอย่างเช่นหางเสียงรีเวิร์บของนักร้องซึ่งหูฟังหลายๆรุ่นก็เก็บได้ไม่ชัดขนาดนี้
- DT900 PRO X
เรื่องเวทีเสียงตัว 900 จะทำได้ดีขึ้นไปอีก คือโปร่งฟังสบายและเป็นธรรมชาติมากขึ้น ความอึดอัดของเวทีจะน้อยลงแต่ซาวด์ก็ยังฟังแน่นกระชับเหมือนเดิม คงต้องยกความดีให้กับ Open-Back Design เค้าล่ะ
Bass
- DT700 PRO X
ใครคาดหวังเบสเยอะๆฟังมันส์ๆเจ้า 700 ไม่น่าใช่แนวครับ เบสจะให้มาค่อนข้างพอดีๆ ขนาดและเนื้อเสียงไม่ใหญ่จนล้น สามารถลงลึกในระดับซับเบสได้พอประมาณ ส่วนเรื่องการเก็บรายละเอียดหรือแอทแทคของเสียงถือว่าทำได้ค่อนข้างดี
ด้วยผลพวงของ mid low ที่ปั้นมาดี ใครเป็นมือเบสและอยากแกะเบสง่ายๆ 700 ช่วยคุณได้ครับ เพราะสามารถเก็บรายละเอียดของเบสกีตาร์ได้ดีมาก เป็นคาแรคเตอร์เสีบงเบสที่เราค่อนข้างคุ้นเคยกันดีโดยเฉพาะแฟนๆตระกูล DT
- DT900 PRO X
ถ้าคาดหวังกับเสียงเบส 900 จะทำให้คุณสมหวังได้มากกว่าครับ เบสจะอิ่มมีน้ำหนัก เนื้อหนาและลงได้ลึกกว่า โดยเฉพาะในช่วง 100 – 200Hz จะให้ความชัดเจนที่ดีกว่า แอทแทคของเสียงทำได้ไม่ได้แพ้ 700 แต่เราจะรู้สึกถึงบอดี้ของตัวเบสได้มากกว่าพอสมควรเลย
Mid
- DT700 PRO X
เสียงกลางนี่มันสไตล์ลำโพงมอนิเตอร์ชัดๆ เป็นเสียงกลางที่ไม่ค่อยประณีประนอมคนฟัง ถ้าใครเคยผ่านลำโพงมอนิเตอร์พันธุ์แท้อย่างพวก Yamaha โดยเฉพาะรุ่น NS10 ในตำนาน จะรู้ดีว่ามันเป็นลำโพงที่ไม่เป็นมิตรกับเราซักเท่าไหร่ เพราะไม่ละมุนละไม เสียงจะคมชัดเจนและขี้ฟ้องมากๆ ซึ่งเสียงกลางของเจ้า 700 ให้อารมณ์ประมาณนั้นเลยครับ
เสียงกลางจะเด่นนำมาก ฟังครั้งแรกผมเหวอๆด้วยซ้ำเพราะมันชัดเจนกว่ารุ่นพี่อย่าง DT770 PRO ซะอีก แต่พอปรับตัวได้ก็รู้สึกว่าเสียงมันโอเคอยู่นะ โดยเฉพาะกับการทำงานที่คุณต้องอีดิทหรือมิกซ์เสียง มันจะช่วยให้โฟกัสได้ง่าย ยิ่งเป็นเสียงพูดหรือเสียงร้องล่ะก็หายห่วง และถ้าคุณทำเสียงกลางออกมาไพเราะด้วยเจ้า 700 ได้ล่ะก็ มันก็ค่อนข้างการันตีว่าจะฟังออกมาดูดีในหูฟังหรือลำโพงตัวอื่นๆด้วย
- DT900 PRO X
ส่วนของตัว 900 จะให้เสียงกลางที่เป็นมิตรมากขึ้น มันจะไม่รุกเร้าเหมือนกับตัว 700 เรียกว่าฟังสบายขึ้นอีกเยอะ มีความนุ่มนวลขึ้น แต่ก็ยังเก็บรายละเอียดครบถ้วนตามสไตล์ของหูฟังมอนิเตอร์ครับ
ถ้าคุณอยากได้หูฟังมอนิเตอร์ที่ค่อนข้างโอเวอร์ออลหน่อยคือทำงานก็ได้ ฟังเพลงเพลินๆก็ดี เจ้าตัว 900 จะค่อนข้างเหมาะกว่าครับ เพราะว่าเสียงกลางของเค้านี่และที่เป็นปัจจัยสำคัญ
High
- DT700 PRO X
เสียงแหลมของ 700 ยังคงคาแรคเตอร์ของหูฟังมอนิเตอร์ครับ คือไม่ค่อยปรุงแต่งเท่าไหร่ ไม่ได้คมใสหรือกรุ่งกริ้งจนผิดธรรมชาติ แต่ได้ยินชัดเจนแน่นอน
มันจะต่างจากพวกหูฟังอินเอียร์หรือหูฟังที่จูนมาเพื่อพวก Hi-Res Audio ที่เสียงแหลมจะสว่างเป็นประกาย สำหรับการทำงานกับเจ้า 700 ถ้าคุณได้ยินเสียงแหลมที่คมหรือใสจนเกินไป เป็นไปได้ว่าคุณอาจปรับแต่งเสียงมากเกินไปก็เป็นได้ครับ
- DT900 PRO X
จริงๆแล้วเสียงแหลมของ 900 ไม่ได้อัพเกรดจาก 700 มากนักครับ แต่ด้วยซาวด์ที่โปร่งกว่าทำให้เสียงแหลมมีพื้นที่เฉิดฉายได้มากขึ้น เราจะโฟกัสความถี่สูงได้ง่าย ถ้าพูดถึงคาแรคเตอร์ของเสียงแหลมแล้วจริงๆ 900 จะมีความนวลกว่าเล็กน้อย หรือจะบอกว่าๆเสียงแหลมของ 900 ค่อนข้างน่าฟังกว่าก็ได้ครับ
Conclusion
DT700 PRO X และ DT900 PRO X เป็นซีรี่ส์ใหม่ของ Beyerdynamic ที่น่าใช้ครับ โดยเฉพาะสายพกพาที่ต้องทำงานนอกสถานที่บ่อยๆและบางทีไม่ได้มีแอมป์ที่จะขับหูฟังได้ ทั้งสองรุ่นถือว่าสะดวกกว่าเยอะ
คาแรคเตอร์เสียงไม่ควรเทียบกับรุ่นตำนานอย่าง DT770 และ DT990 เพราะผมคิดว่าทางเบเยอร์เค้าตั้งใจสร้างสองรุ่นนี้มาเป็นไลน์อัพใหม่มากกว่า ถึงจะอิงแนวเสียงมาบ้างแต่การตอบสนองจริงๆไม่ได้เรียกว่าดีหรือแย่กว่าครับ ขึ้นอยู่กับสไตล์คนฟังแล้วล่ะว่าชอบน้ำเสียงแบบไหน
สรุป! อีกซักที
- DT700 PRO X
สืบสานตำนานจาก DT770 PRO โดยเพิ่มความเข้มข้นในฐานะการเป็นหูฟังมอนิเตอร์มากขึ้น ด้วยโทนเสียงที่ไม่ค่อยง้อนักฟังเพลงทั่วไป แต่ก็ไม่แน่สำหรับบางท่านหรือโปรออดิโอที่ชอบความชัดเจนแบบดิบๆก็อาจจะชอบเจ้า DT700 PRO X ได้ครับ ต้องบอกว่าถ้าปรับตัวชินกับเค้าได้แล้วมันก็ฟังเพลงเล่นๆได้ไม่เลวนะครับ
- DT900 PRO X
เช่นเดียวกับรุ่นพี่ DT990 PRO ถ้าชอบหูฟังมอนิเตอร์ที่ไม่แข็งกระด้างจนเกินไป DT900 PRO X เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากครับ ฟังง่ายแต่ยังตอบสนองต่อเสียงได้อย่างเที่ยงตรง ถ้าเทียบกับ DT700 PRO X ต้องถามว่าคุณชอบความคมชัดมากๆแต่ฟังเพราะน้อยลงหรือจะยอมลดความจัดจ้านลงมาหน่อย แต่ได้หูฟังมอนิเตอร์ที่ฟังง่ายขึ้นอย่าง DT900 PRO X กันแน่ครับ