/
/
/
[รีวิว] Beyerdynamic MMX 100 & MMX 150 หูฟังเกมส์สุดล้ำจากเยอรมัน
Posted in REVIEWS

[รีวิว] Beyerdynamic MMX 100 & MMX 150 หูฟังเกมส์สุดล้ำจากเยอรมัน

Beyerdynamic ยังคงมุ่งมั่นกับการพัฒนาเกมมิ่งเฮดเซ็ทลงสู่ตลาดด้วยการส่ง MMX Series รุ่นใหม่สองตัวมาเสริมทัพนั่นก็คือ Beyerdynamic MMX100 และ MMX150 เดี๋ยวเรามาดูกันครับว่าทั้งสองมีดีอย่างไรและมีความแตกต่างกันในจุดไหนบ้าง

Photo by Cotton Guy | JABEN Thailand
PROS จุดเด่นCONS จุดด้อย
Stereo Image และ Sound Field ทำได้ดีเยี่ยมเบสน้อยไปหน่อย ฟังเพลงอาจไม่มันส์เท่าที่ควร
ดีไซน์สวย วัสดุความแข็งแรงคุ้มค่าปุ่มปรับโวลลุ่มไม่ค่อย Linear มากนัก
คุณภาพเสียงไมค์โครโฟนคมชัด สะอาดไม่มีซองหรือถุงใส่หูฟังมาให้
ถอดเปลี่ยนเอียร์แพดได้

Beyerdynamic MMX100 และ MMX150 ถูกสร้างมาเพื่อเติมเต็มไลน์อัพให้กับรุ่นท็อปอย่าง MMX300 ครับ ซึ่งใครที่อยากเซฟเงินในกระเป๋าลงมาแต่ยังได้ครอบครองเกมมิ่งเฮดเซ็ทคุณภาพดีเช่นกัน ทั้งสองรุ่นก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจครับ

Packaging and Accessories

Photo by Cotton Guy | JABEN Thailand

แพคเกจของหูฟัง Beyerdynamic รุ่นใหม่ๆจะไปในทิศทางเดียวกันนะครับ อย่างตระกูล MMX ก็จะมีความคล้ายคลึงกับซีรี่ส์มอนิเตอร์ชื่อดังอย่าง DT เลยล่ะคือดูสวยงามทันสมัย

จากหน้ากล่องเราก็จะเห็นถึงความแตกต่างของหูฟังทั้งสองรุ่นได้ทันที สำหรับ MMX150 จะมีรายละเอียดบนหน้ากล่องว่า “Studio-Class USB Gaming Headset” ส่วน MMX100 รายละเอียดจะเป็น “Studio-Class Analog Gaming Headset”

นั่นหมายความว่า MMX100 จะเป็นหูฟังอะนาลอคแบบปกติ ส่วน MMX150 จะเป็นหูฟัง USB ที่มีภาค DAC อยู่ในตัวนั่นเองครับ

Photo by Cotton Guy | JABEN Thailand

ภายในกล่องของทั้งสองรุ่นจะเหมือนกันเป๊ะๆครับ คือเป็นที่สิงสถิตย์ของตัวหูฟังและไมค์โครโฟนครับ แน่นอนว่าทั้งสองอย่างสามารถถอดออกจากกันได้ ทำให้สะดวกดีถ้าเราต้องพกพาไปใช้งานเพราะจะแพคของได้กะทัดรัด

แต่ในจุดนี้ต้องบ่นนิดนึงว่าทาง Beyerdynamic น่าจะแถมซองหรือถุงใส่หูฟังมาให้ซะหน่อย ไม่ต้องถึงขนาดว่าเป็นซอฟท์เคสก็ได้ เพราะถ้าใครเป็นสายโน็ตบุ้คเกมมิ่งที่ต้องพกพาอุปกรณ์ไปเล่นเกมส์ข้างนอกก็จะลำบากต้องไปหาซองมาใส่ทีหลังครับ

Photo by Cotton Guy | JABEN Thailand
Photo by Cotton Guy | JABEN Thailand

ส่วนอุปกรณ์ภายในที่เหลือนอกจากคู่มือแล้วก็จะมีสายสัญญาณมาให้อีกอย่างละ 2 เส้นครับ

MMX100

  • 1.2 m analog cable for devices with 4-pin jack connector
  • 2 m analog cable for PC

สำหรับ MMX100 ที่เป็นหูฟังแบบอะนาลอคก็จะมีสายสัญญาณแบบอะนาลอคทั้งสองเส้นครับ เส้นแรกจะยาว 1.2 เมตร เป็นหัว aux 4pin ทั้งสองฝั่ง เหมาะกับการต่อเข้า Mobile Device ทั้งหลาย

ส่วนสายอีกเส้นจะยาว 2 เมตร สำหรับการเชื่อมต่อเข้าซาวด์การ์ดของ PC เพราะจะแยกแจ็คเป็นสองหัวสำหรับสัญญาณเสียงและสัญญาณจากไมค์โครโฟนครับ

MMX 150

  • 1.2 m analog cable for devices with 4-pin jack connector
  • 2.4 m USB cable for PC

ส่วน MMX150 จะเปลี่ยนมาเป็นสายแบบ USB แทนเพราะเป็นหูฟังดิจิตอลที่มีภาค DAC ในตัว โดยเส้นแรกจะยาว 1.2 เมตรเป็นหัว aux 4pin เช่นกัน จะเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนก็ได้หรือจะจิ้มเข้าจอยสติ๊กของ PS4 เลยก็ได้เช่นกัน

ส่วนสายอีกเส้นจะยาว 2.4 เมตรเป็นหัวแบบ USB เลยสามารถต่อเข้าคอมพิวเตอร์ได้โดยตรงครับ

Build and Comfort

Photo by Cotton Guy | JABEN Thailand

เรื่องของดีไซน์และวัสดุของทั้งสองรุ่นเรียกว่าไม่แตกต่างกันเลยครับ และยังมีสีให้เลือกได้อย่างละสองสีเช่นกันนั่นคือสีดำและสีขาว

ลักษณะทางกายภายจะเป็นหูฟัง Full-Size Closed-Back โดยโครงสร้างจะมีความใกล้เคียงกับตระกูล DT ที่เป็นหูฟังมอนิเตอร์เลยครับ อย่างเช่นโครงของเฮดแบนด์ที่เป็นอะลูมิเนียมอย่างดี ตัวหูฟังก็ดูแน่นหนาแข็งแรง ถือว่าไม่มีข้อตำหนิครับสำหรับงานประกอบหูฟัง

เรื่องของความสบายเวลาใช้งานผมถือว่าทำได้ดีตามมาตราฐานครับ หูฟังมีน้ำหนักค่อนข้างเบาใส่สบาย โดยเฉพาะเอียร์แพดทำได้หนานุ่มเลยทีเดียว แถมยังสามารถถอดเปลี่ยนได้ด้วยจุดนี้ถือว่าได้เปรียบคู่แข่งครับ

Photo by Cotton Guy | JABEN Thailand

สิ่งที่แตกต่างกันหลักๆของ MMX100 และ MMX150 จะเป็นลักษณะทางกายภาพของปุ่มควบคุมบนตัวหูฟังมากกว่าครับ เริ่มกันที่ MMX100 กันก่อน เพราะจะมีปุ่มสองอันแยกกันอันนึงจะเป็น Volume Wheel ส่วนอีกปุ่มจะเป็นปุ่ม Mute ไมค์โครโฟน

สำหรับปุ่มโวลลุ่มของ MMX100 ผมติดนิดเดียวว่ามันไม่ค่อย Linear เท่าที่ควร คือหมุนนิดเดียวแต่ระดับเสียงเปลี่ยนไปเยอะมาก ต้องเบามือหน่อยเวลาใช้งาน แถมเรนจ์ความกว้างของระดับเสียงตั้งแต่เบาสุดไล่ไปถึงดังสุดก็แคบไปหน่อย ทำให้ใช้งานยากเล็กน้อยครับ

Photo by Cotton Guy | JABEN Thailand

แต่ถ้าเป็น MMX150 ก็จะมีเพียงปุ่มเดียวแต่ทำหน้าที่มันทุกอย่าง คือจะเป็นปุ่ม Volume Wheel แบบมัลติฟังค์ชั่น ทั้งหมุนปรับระดับเสียง, ใช้กดเพื่อ Mute ไมค์โครโฟนและใช้กดค้าง 2 วินาทีเพื่อเปิด Augmented Mode

สำหรับ Augmented Mode ของ MMX150 จะทำงานได้ก็ต่อเมื่อเราเชื่อมต่อแบบ USB เท่านั้นครับ ซึ่งโหมดนี้จะทำให้เราได้ยินเสียงกิจกรรมรอบๆตัวเราได้ชัดเจนขึ้น จะช่วยลดความอึดอัดเวลาใช้งานหูฟังได้ในระดับนึง

แต่จะไม่เหมือนกับโหมด Ambience ของพวกหูฟัง Noise Cancellation นะครับ เราจะไม่ได้ยินเสียงรอบข้างชัดขนาดนั้น ผมมองว่าเค้าออกแบบมาเพื่อช่วยให้เราใช้งานหูฟังได้สบายหูยิ่งขึ้นมากกว่า

ตัว Volume Wheel ของ MMX150 จะทำงานเป็นแบบ Click Wheel ซึ่งสะดวกและแม่นยำกว่า MMX100 ครับ แต่มีข้อเสียคือใช้งานได้เฉพาะเชื่อมต่อแบบ USB เท่านั้น ถ้าเราไปเชื่อมต่อแบบ Aux ปุ่มโวลลุ่มจะใช้งานไม่ได้เลย ต้องไปกดจากอุปกรณ์ต้นทางแทน

Microphone

Photo by Cotton Guy | JABEN Thailand

ตัวไมค์โครโฟนค่อนข้างเป็นจุดขายที่สำคัญของ MMX100 และ MMX150 นะครับ เพราะสำหรับซีเรียสเพลเยอร์แล้วการสื่อสารนั้นสำคัญมากๆ

Beyerdynamic จึงได้ใช้ไมค์โครโฟนรุ่นใหม่ที่ชื่อว่า META VOICE cardioid condenser ที่มีแคปซูลขนาด 9.9mm. ให้นำ้เสียงคมชัดและมีทิศทางการรับเสียงที่แคบทำให้ป้องกันเสียงจากด้านข้างได้ดี

ก้านไมค์โครโฟนจะเป็นแบบ Goose Neck ทำให้เราปรับให้พอดีกับปากได้ง่าย จริงๆถ้าพับได้ด้วยก็จะเยี่ยมมาก แต่ทางค่ายก็เลือกออฟชั่นให้ถอดเข้าออกได้แทน ซึ่งถ้าใครเล่นเกมส์แบบไม่ได้ใช้ไมค์เลยก็ถอดเก็บไว้แทนก็ได้ครับ

Sound Quality

เอาล่ะมาถึงส่วนสำคัญกันแล้วนั่นก็คือคุณภาพเสียงครับ ถ้าให้พูดถึงคาแรคเตอร์เสียงโดยรวมของทั้งสองรุ่นถือว่าใกล้เคียงกันมากๆครับ ถ้าใครลังเลว่าจะเลือกรุ่นไหนดีเพราะไม่แน่ใจเรื่องคุณภาพเสียง ขอให้ตัดตัวเลือกนี้ไปได้เลยเพราะผมถือว่าไม่ได้ต่างกันจนเป็นนัยยะสำคัญครับ

สิ่งที่อยากเล่าให้ฟังมากกว่าก็คือทั้ง MMX100 และ MMX150 ถือว่าเป็นหูฟังที่ออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมส์จริงจังครับ เพราะถ้าจะคาดหวังว่าจะเอาใช้ฟังเพลงด้วยแล้วผมถือว่าไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่ นั่นก็เพราะว่า

Photo by Cotton Guy | JABEN Thailand

Music

ในการฟังเพลงสิ่งที่ทั้งสองรุ่นขาดไปหน่อยคือน้ำหนักของเบสครับ ทั้งมวลเสียง ทั้งแรงกระแทกจัดว่าน้อยไปหน่อย แม้แต่แนวดนตรีที่ไม่ได้ต้องการเบสมากมายแต่ MMX ทั้งสองก็ไม่สามารถให้เบสได้มากพอ

แต่กลับกันสำหรับเสียงกลางและเสียงแหลมค่อนข้างจะเคลียร์ คมชัดเลยล่ะครับ โดยเฉพาะเสียงแหลมสว่างและเปิดดีมาก แต่เมื่อนำแต่ละความถี่มารวมกันแล้วมันก็ไม่ค่อยกลมกล่อมซักเท่าไหร่

ส่วนของ Sound Stage ถือว่าทำได้ดีนะ ค่อนข้างกว้างเลยทีเดียวแต่เรื่องนี้กลับจะเป็นประโยชน์ในการเล่นเกมส์มากกว่าการฟังเพลงไปซะงั้นสำหรับหูฟังทั้งคู่ครับ

Gaming

ผมเริ่มเทสหูฟังทั้งสองจากการฟังเพลงก่อน ทำให้ตอนแรกก็หวั่นๆเล็กน้อยว่าถ้าเอามาเล่นเกมส์มันจะเป็นยังไงกันนะ

แต่พอเอามาลองเล่นเกมส์แล้วต้องบอกว่าหายห่วงครับ ไอ้ข้อเสียที่อยู่ในการฟังเพลงพอเอามาเล่นเกมส์แล้วกลับไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด

ความชัดเจนของเสียงกลางและแหลมทำให้เราได้ยินเสียงต่างๆในเกมส์ได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเสียงฝีเท้าหรือเสียงปืนจากทิศทางต่างๆในเกมส์ PUBG ความชัดเจนของเสียงไดอะลอคหรือบทพูดในเกมส์ Final Fantasy VII Remake ก็เพอร์เฟคเลย เมื่อบวกกับ Sound Stage ที่กว้างก็ทำให้เราแยกแยะตำแหน่งของเสียงได้ดีมาก

ย่านความถี่ต่ำที่กังวลเวลาฟังเพลงกลับไม่เป็นปัญหาในการเล่นเกมส์ครับ เสียงปืนใน PUBG ยังมีน้ำหนักที่โอเค ยิ่งยิงยิ่งมันส์ หรือแอคชั่นการทำคอมโบของคลาวด์เวลาฟาดฟันศัตรูก็อร่อยหูใช้ได้ ไม่ได้รู้สึกว่าเสียงแห้งหรือบางแต่อย่างใด


สำหรับการเล่นเกมส์แล้วต้องบอกว่า MMX100 และ MMX150 สอบผ่านสบายๆครับ ถ้าถามว่าน้ำเสียงที่บอกว่าต่างกันนิดเดียวมันต่างกันตรงไหนก็ต้องขอบอกว่า MMX150 จะมีความแน่นกว่าเล็กน้อยเมื่อเราใช้งานผ่านสาย USB นะครับ แต่อย่างที่บอกผมมองว่ามันไม่ต่างกันมากจนคุณต้องซีเรียส ขอให้ดูที่การใช้งานดีกว่าว่ารูปแบบการเชื่อมต่ออันไหนที่ตอบโจทย์คุณมากกว่าครับ

Conclusion

Photo by Cotton Guy | JABEN Thailand

เกมเมอร์ท่านใดที่ไม่เคยผ่านหูกับหูฟังจาก Beyerdynamic มาก่อนขอบอกว่าทั้ง MMX100 และ MMX150 เป็นหูฟังที่น่าสนใจทั้งคู่ครับ คือพื้นฐานของค่ายเค้าเก่งในเรื่องของหูฟังมอนิเตอร์อยู่แล้ว DNA มันเลยสืบต่อมายัง MMX ด้วย คือได้เรื่องความชัดเจนของเสียง ความสะอาดทั้งจากตัวไมค์โครโฟนและหูฟังเป็นหลักเลยล่ะ

ส่วนเรื่องงานประกอบละวัสดุต่างๆก็อยู่ในขั้นดีมาก ด้วยคุณภาพการ QC มาตราฐานเยอรมันบอกเลยว่าสบายใจได้ เป็นยี่ห้อหูฟังที่ผมผ่านมือมาหลายตัวมากๆแทบไม่เคยงอแงให้เห็นและอายุการใช้งานก็ยาวนานจริงๆถ้าคุณไม่ทำมันพังด้วยอุบัติเหตุไปซะก่อนอ่ะนะครับ ฮ่าๆ

ฟันธงเลยว่าถ้าคุณมองหาเกมมิ่งเฮดเซ็ทมาตราฐานดีๆซักรุ่นล่ะก็เก็บเอา Beyerdynamic MMX100 และ MMX150 ไว้ในลิสท์พิจารณาของคุณได้เลย ทั้งคู่ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน

พิมพ์ชื่อสินค้าที่ต้องการ

ตะกร้าสินค้า

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการแสดง Popup

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการแสดงโฆษณาเกี่ยวโปรโมชั่นบทเว็บของ jaben.co.th ให้กับท่าน หากท่านไม่ยินยอมให้ใช้คุกกี้ประเภทนี้ การแสดงโฆษณาให้กับท่านอาจจะมีความคลาดเคลื่อน และ ซ้ำซ้อนได้
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึก