รีวิว iFi AUDIO Pro iDSD Signature ที่สุดของ Desktop DAC-Amp
DAC-Amp ตั้งโต๊ะรุ่นเรือธงจากค่าย iFi ส่งมาถึงถ้ำเสือให้เราได้ทดสอบกันซักที หลังจากที่นั่งอ่านนอนอ่านสเปคของ Pro iDSD Signature มานานวันนี้จะได้รู้กันซักทีว่าด้วยมาตราฐานที่ยอดเยี่ยมของ iFi Audio จะสามารถพลักดัน DAC-Amp ตัวท็อปของเค้าไปได้ถึงขนาดไหนครับ
Pro iDSD Signature : Standaloane DAC/Amp plus Streamer
PROS จุดเด่น | CONS จุดด้อย |
คุณภาพเสียงดีเยี่ยมทั้งเนื้อเสียงและมิติ | ต้องใช้เวลาวอร์มอัพระบบตอนเปิดเครื่อง |
มี Amplifier ให้เลือกทั้ง Solid State และ Tube | การใช้งานเป็นสตรีมเมอร์จะเซ็ทอัพยุ่งยาก |
รองรับการ Up Sampling และ DSD Remaster | |
I/O หลากหลาย รองรับการทำงานทั้ง Home และ Studio | |
โวลลุ่มอะนาลอคที่มีระบบ Automation |
Packaging and Accessories
แพคเกจอลังการงานสร้างมากแบบ ก ไก่ล้านตัว เห็นเป็นแค่ DAC/Amp ตั้งโต๊ะไม่คิดว่ากล่องเค้าจะใหญ่ขนาดนี้ครับ แถมตอนไปหิ้วมายังรู้สึกว่ากล่องมันหนักเอาเรื่องเลย ซึ่งที่แพคเกจเค้าใหญ่ขนาดนี้มันก็มีเหตุผลครับ เพราะว่าเมื่อแกะออกมาจะเห็นเลยว่าเป็นสองกล่องย่อยซ้อนกันอยู่ กล่องนึงจะเป็นส่วนของตัวเครื่อง Pro iDSD Signature และที่ด้านล่างอีกกล่องจะเป็นตัวเพาเวอร์ซัพพลาย iPower Elite เป็นสาเหตุให้แพคเกจมีน้ำหนักขนาดนี้นั่นเอง
ในชุดมีรีโมทมาให้ด้วยนะครับ ช่วยให้ใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น ส่วนอุปกรณ์ที่เหลือก็จะเป็นายสัญญาณพื้นฐานอย่างสาย USB และก็ RCA ครับ ส่วนพวกสายเพาเวอร์ต่างๆจะไปอยู่ในกล่องเดียวกับ iPower Elite ครับ
Design & Build Quality
ก่อนอื่นต้องบอกว่าตัวเครื่องหนักเอามากๆเลยทีเดียว เป็น DAC-Amp ตั้งโต๊ะขนาดกลางที่น้ำหนักตัวเยอะที่สุดตั้งแต่ผมได้ลองจับมาเลยทีเดียว
ด้านความสวยงามเอาไปเต็ม 10 ตัวเครื่องเป็นอะลูเนียมทั้งชิ้นและออกแบบให้มีช่องระบายอากาศเยอะ เนื่องจากภายในมีภาคแอมป์หลอดติดตั้งเอาไว้
- FRONT
รายละเอียดของด้านหน้าและด้านหลังตัวเครื่องค่อนข้างเยอะเลยทีเดียวครับ สำหรับด้านหน้าไล่ตั้งแต่ฝั่งซ้ายจะประกอบด้วย
– ปุ่ม Power
– ปุ่ม Input Selector และใช้กดเพื่อปรับความสว่างหน้าจอ
– ปุ่ม Filter Selector และใช้เปิดปิดโหมด DSD Remaster (ถ้ากดค้างจะใช้ pairing wi-fi ด้วย)
– ซีเล็คเตอร์สำหรับเลือกโหมดแอมป์
– Headphone Output 3 รูปแบบ : 3.5mm. / 4.4mm. / 6.35mm.
– ซีเล็คเตอร์สำหรับตั้งค่า Gain
– ปุ่มโวลลุ่ม
- BACK
ด้านหลังก็มาแน่นๆเลย ไล่ไปจากซ้ายมือเช่นกัน
– Analog Output : XLR / RCA
– ซีเล็คเตอร์เลือก output mode
– Digital Input : LAN / USB / Coaxial & Optical / XLR
– Micro SD Card Slot
– Clock SYNC : BNC
– เสาอากาศสำหรับ Wi-Fi
– Power connector
ดิจิตอลอินพุตต่างๆยังมีความพิเศษที่ระบบ Galvanic isolation ที่แต่ละอินพุตจะแยกส่วนควบคุมพลังงานของใครของมันอีกด้วยครับ
Features
ถึงเวลาไปไล่ดูลูกเล่นการใช้งานต่างๆของ iFi Audio Pro iDSD Signature กันแล้วครับ ฟังค์ชั่นต่างๆของ DAC-Amp เรือธงตัวนี้ก็ถือว่าเยอะพอสมควร แต่ว่าจะไล่เรียงมาให้ครบทุกข้อแน่นอนครับ
- Digital Filter selection
ต้องเริ่มต้นกันด้วยโหมด digital processing ของ Pro iDSD Signature กันก่อนซึ่งจะมีด้วยกัน 3 โหมดครับ
i) Direct – Bit-Perfect : โหมดนี้ก็ง่ายๆครับ ฟังแบบออริจินอลไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือ Up Sampling ใดๆทั้งสิ้น
ii) PCM – Upsampling : ในการใช้งานไฟล์ PCM ระบบจะทำการ up-converted ขึ้นไป 16X (705.6/768kHz) ซึ่งจะขึ้นอยู่กับ Digital Filter ที่เราเลือกใช้ด้วยจะมี 5 แบบด้วยกัน
– Bit-Perfect
– Bit-Perfect+
– Gibbs Transient Optimised
– Apodising
– Transient Aligned
คาแรคเตอร์ของฟิลเตอร์แต่ละแบบก็จะต่างกันไป แนะนำว่าต้องไปลองดูรายละเอียดในคู่มือครับ เพราะว่าเยอะเหลือเกิน ฮ่าๆ ข้อดีอย่างนึงก็คือการเลือกฟิลเตอร์เราสามารถเปลี่ยนขณะเล่นเพลงอยู่ได้เลย ทำให้เราเทียบโทนเสียงที่เราต้องการได้ไม่ยาก
iii) DSD – Remastering : ไฟล์ PCM ที่เข้ามาจะถูกคอนเวิร์ตไปเป็น DSD512 หรือ DSD1024 ตามที่เราเลือกเอาไว้ครับ และเรายังสามารถเลือกใช้ดิจิตอลฟิลเตอร์แต่ละแบบได้เช่นกัน ระบบ Remastering ของ Pro iDSD Signature นั้นใช้ Crysopeia FPGA Digital Engine ระดับมาตราฐานสตูดิโอด้วยนะครับ
- MQA Support
สามารถใช้งานร่วมกับไฟล์ MQA ได้ตามปกติ แต่ในขณะที่เล่นไฟล์ MQA อยู่จะไม่สามารถเปลี่ยน digital filter ได้ครับ
- Output section mode
ไฮไลท์สำคัญอีกอย่างของ Pro iDSD Signature ก็คือการเลือกรูปแบบของภาคขยาย (Amplifier) ได้ครับ มีอยู่ 3 รูปแบบด้วยกัน
– Solid-State : ภาคขยายแบบ solid-state J-FET ที่ใช้วงจรแบบ fully-discrete Class A
– Tube : เปลี่ยนมาเป็นแอมป์หลอด Class A ที่ใช้หลอด GE5670 จำนวน 2 อัน
– Tube+ : เป็นโหมดแอมป์หลอดอีกคาแรคเตอร์ที่จะเพิ่ม harmonic distortion ให้มากขึ้น
- iPower Elite : Power Supply
Pro iDSD Signature มีชุดเพาเวอร์ซัพพลายแยกมาให้โดยเฉพาะครับ อย่างที่บอกว่าทำไมตอนแรกผมว่ากล่องมันหนักจัง ลืมไปว่ารุ่นนี้เค้าพิเศษตรงนี้แหละ ฮ่าๆ
เพื่อให้ได้คุณภาพเสียงที่ดีที่สุด ระบบจ่ายพลังงานต้องสะอาดจริงๆ จึงเป็นที่มาของการพ่วง iPower Elite มาให้ด้วยเลย ซึ่งปกติเป็นไอเท็มที่จะขายแยกของ iFi เค้านะครับ เป็นเพาเวอร์ซัพพลายที่มีระบบ Active Noise Cancellation เฉพาะของค่าย รับประกันพลังงานสะอาดปราศจาก noise
- Headphone Amp with gain selection
ต่อหูฟังเพื่อฟังเพลงได้ทันที รองรับเอาท์พุตสามรูปแบบคือ 3.5mm, 6.35mm Single-Ended และ 4.4mm Balanced และยังมี Gain Selector ให้เลือกปรับกำลังขยายได้อีกสามระดับคือ 0dB / 9dB และ 18dB
- Analogue Volume Control
ปุ่มโวลลุ่มอะนาลอคที่เป็นแบบ motorized volume control สามารถจำค่าระดับเสียงที่เราปรับไว้ขณะก่อนปิดเครื่องได้ ถ้าเราเผลอไปเปลี่ยนค่าตอนปิดเครื่อง พอเปิดเครื่องมาใหม่โวลลุ่มจะหมุนไปที่ตำแหน่งเดิมให้อัตโนมัติ
- Output selector
ที่ด้านหลังตัวเครื่องจะมีสวิทช์เล็กๆที่ต้องใช้ไขควงช่วยเวลาจะปรับ เพื่อให้ค่าสัญญาณไลน์เอาท์พุตเหมาะกับอุปกรณ์ปลายทาง เช่น HiFi Fixed mode จะให้ค่า Balance output สุงสุดเลยที่ ~4.6V ส่วน Pro Fixed mode ก็จะมีค่าอยู่ที่ ~11.2V ซึ่ง Fixed Mode ทั้งสองเราจะใช้งานโวลลุ่มคอนโทรลของ Pro iDSD Signature ไม่ได้ ต้องไปควบคุมที่อุปกรณ์ปลายทาง
ส่วน Variable mode ที่เหลืออีกสองจะให้เราควบคุมระดับเสียงได้ปกติ โดยที่ถ้าเราปรับโวลลุ่มไปจนสุดก็จะได้ค่าเอาท์พุตเท่ากับ Fixed mode นั่นเองครับ
ทำให้ Pro iDSD Signature สามารถแมทช์ใช้งานได้กับอุปกรณ์ที่เป็น home use และ studio use ได้เหมาะสมทั้งคู่
- Streamer Mode
นอกจากหน้าที่หลักที่เป็น DAC/Amp แล้ว เรายังสตรีมมิ่งโดยตรงผ่าน Pro iDSD Signature ได้เลย จะเอา local storage มาเชื่อมต่ออย่าง micro sd card หรือใช้งาน network storage ที่รองรับ DLNA และ Airplay ก็ได้ โดยเราเลือกการเชื่อมต่อได้ผ่าน Wi-Fi และ LAN
ซึ่งในโหมดนี้นี้ผมมีข้อตำหนิในเรื่องการเซ็ทอัพที่ยุ่งยาก เพราะทาง iFi Audio ไม่มีแอพของตัวเองให้เราควบคุมหรือเข้าถึง storage ของเราได้ง่ายๆ ต้องไปใช้งาน 3rd Party App อย่าง Legacy Player ซึ่งผมรู้สึกว่าไม่สะดวกเลยถ้าเทียบกับค่ายอื่นที่เค้ามีแอพของตัวเอง
แถมคู่มือการใช้งานหรือวีดีโอสาธิตการเซ็ทอัพในส่วนนี้ก็ไม่ละเอียดมาก เลยต้องขอหักคะแนนส่วนนี้ไปบ้างครับ
- Clock Sync
Pro iDSD Signature มี BNC input และ output ให้เราสามารถรับสัญญาณจาก External Clock หรือส่งสัญญาณ Clock ไปใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่นในระบบได้อีกด้วย ซึ่งที่ด้านหลังก็ยังมี Clock Synch mode ให้เราเลือกปรับได้อีกเพื่อให้เหมาะสมกับอุปกรณ์ clock ที่เราเอามาเชื่อมต่อครับ
Testing Testing
ผมทดสอบ Pro iDSD Signature ใช้งานเป็น USB DAC เล่นเพลงผ่าน TIDAL และคลังเพลงใน HDD เป็นหลัก ซึ่งคุณภาพที่ได้ก็อยู่ในเกณฑ์ดีเยี่ยมสมฐานะ DAC/Amp หัวแถวของค่าย คาแรคเตอร์เสียงโดยรวมในโหมดแอมป์แบบ solid state ให้ความคมชัด รายละเอียดและเวทีเสียงที่สมบูรณ์ ผมชอบ sound stage ในแง่ความลึกหรือเลเยอร์ต่างๆที่สามารถเก็บได้ดี แน่นอนว่าเป็นผลมาจาก Background ที่สะอาดเลยให้รายละเอียดได้แบบนี้ และอีกอย่างที่ชอบก็คือเสียงมีความคมชัดแต่ไม่บาง น้ำหนักกับเนื้อเสียงมาสวยเลยทีเดียว
ถ้าเปลี่ยนไปใช้โหมด Tube ก็จะได้ความนวล ความอุ่นที่เพิ่มขึ้นมาอีก แต่บอกไว้นิดนึงว่าการใช้งาน Pro iDSD Signature ต้องใจเย็นนิดนึง เพราะระบบต้องวอร์มอัพเล็กน้อยทั้งตอนเปิดเครื่องและตอนที่เราเปลี่ยนมาใช้โหมดแอมป์หลอดครั้งแรกก็ต้องมีการวอร์มหลอดแปปนึงถึงจะใช้งานได้ เป็นธรรมดาของแอมป์หลอดที่ต้องรอให้ได้ที่ซักพักนึง ถ้าใครจะใช้งานโหมดนี้ก็ใจเย็นนิดนึงนะครับ
สำหรับเสียงเวลาที่เรา Up Sampling หรือใช้ DSD Remaster ก็ส่งผลกับคาแรคเตอร์เสียงเช่นกัน แต่อันนี้คงต้องไปลองกันเอง ไม่สามารถแนะนำว่าการ up sampling ขึ้นไปแล้วเสียงจะดีกว่าออรินอล ขึ้นอยู่กับไฟล์เพลง ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวด้วยครับ
ในส่วนของเสียงที่มาจากแอมป์หูฟังก็ถือว่าสวยงามตามท้องเรื่องครับ อยู่ในมาตราฐานที่ดีไม่มีข้อติติงอะไร แต่ต้องบอกว่าถ้าอยากไปให้สุดทางต้องพ่วงด้วย Pro iCan เข้าไปรับรองว่ารู้เรื่อง คู่นี้เค้าออกแบบมาให้แมทช์กันโดยเฉพาะ
Conclusion
iFi Audio Pro iDSD Signature อยู่ในระดับหัวแถวของ DAC/Amp ตั้งโต๊ะแบบไม่ต้องสงสัยครับ ถ้าพูดเฉพาะในแง่ DAC แล้วคุณภาพเสียงที่ได้นั้นดีเยี่ยม โดยเฉพาะนักฟังที่ชอบคาแรคเตอร์เสียงที่มีกลิ่นไออะนาลอคหน่อยๆ DAC รุ่นนี้ถูกใจใช้เลย ยิ่งถ้าเปิดโหมด Tube มาใช้งานก็ยิ่งได้อารมณ์ เนื้อเสียง มิติต่างๆจัดว่ายอดและเยี่ยม บวกเข้ากับระบบ Up Sampling และ Filter ต่างๆที่ทำให้ผู้ใช้มีคาแรคเตอร์เสียงให้ผสมได้หลากหลายด้วย
ส่วนของภาคแอมป์และสตรีมเมอร์อยู่ในเกณฑ์ปานกลางครับ จริงๆแล้วเฮดโฟนแอมป์ก็ค่อนข้างดีเลย แต่ทางค่ายน่าจะกั๊กประสิทธิภาพไว้บ้าง เพื่อให้เราต้องไปพ่วงแอมป์ตัวท็อปของค่ายมาร่วมใช้งาน ส่วนระบบสตรีมเมอร์ก็ต้องยอมรับว่าเค้าไม่ใช้สตรีมเมอร์แท้ๆ แต่พ่วงฟังค์ชั่นนี้มาเพื่อให้ Pro iDSD Signature ใช้งานแบบ Stand Alone ได้ด้วย ซึ่งก็ถือว่ามีแล้วไม่ได้ใช้ก็ยังดีกว่าจะใช้แล้วไม่มีครับ
ยังไงก็ตามมาตราฐานของ iFi Audio ก็ไม่มีตกและไม่เคยทำให้แฟนๆของค่ายต้องผิดหวัง ใครอยากไปให้สุดทางสาย Desktop DAC/Amp ล่ะก็ iFi Audio Pro iDSD Signature ยังเป็นคำตอบที่ถูกต้องอีกหนึ่งข้อครับ