รีวิว KEF Mu7 หูฟังไร้สายรุ่นใหม่ดีไซน์สุดล้ำ
การมาถึงของ KEF Mu7 ทำให้ตลาดการแข่งขันของหูฟัง Wireless ระดับไฮเอนด์คึกคักขึ้นอีกหลายช่วงตัวครับ เพราะว่ามีตัวเลือก ตัวเปรียบเทียบให้เล่นกันมากขึ้น และความสวยงามเตะตาของ Mu7 ก็เป็นอะไรที่หลายๆคนน่าจะชอบ รวมถึงชื่อชั้นของ KEF เองที่เป็นหัวแถวด้าน Audiophile อยู่แล้ว งานนี้มาดูกันครับว่า KEF Mu7 จะเจ๋งขนาดไหน
KEF Mu7 : Wireless ANC Headphone
PROS จุดเด่น | CONS จุดด้อย |
ดีไซน์สวยงาม ตัวจริงสวยกว่าในรูปเยอะ | ไม่มีแอพให้ปรับแต่งเสียงหรือลูกเล่นเพิ่ม |
ระบบ Touch Control ใช้งานง่าย สะดวก | เสียงในโหมด Bypass ไม่ดีเท่าใช้โหมด ANC |
รองรับ aptX HD 24bit/48kHz | ไม่มีโหมด Pass-Through ให้ใช้ |
ใช้งานได้นานแม้ใช้โหมด ANC ตลอด |
Packaging and Accessories
KEF Mu7 ถือว่าสวยมาตั้งแต่แพคเกจแล้วครับ นี่ยังไม่พูดถึงตัวหูฟังที่เดี๋ยวเราจะไปว่ากันต่อนะ เปิดกล่องมาก็จะพบกับเคสที่เก็บหูฟังเอาไว้ภายใน เมื่อยกเคสออกมาก็จะพบคู่มือการใช้งาน แผ่นกระดาษที่แนบรายละเอียดหูฟังรวมถึง ใบรับประกันต่างๆ
ตัวเคสสวยงามดีครับและยังออกแบบให้มีช่องเก็บอุปกรณ์ภายในทำให้เรานำอุปกรณ์ที่แถมมาในชุดไปไหนมาไหนได้ครบทุกอัน ซึ่งนอกจากเคสและตัวหูฟังแล้วอุปกรณ์ที่ให้มาก็จะประกอบด้วย
- USB-C charging cable
- 3.5mm audio cord
- Flight adapter
ฉะนั้น Mu7 จึงไม่ต้องใช้งานแบบไร้สายอย่างเดียวครับ เราสามารถต่อผ่านสายสัญญาณ 3.5mm. เข้ากับเครื่องเล่นเพลงหรืออุปกรณ์ต่างๆได้เลย แถมมี Flight Adapter ให้ด้วยก็ทำให้เป็นหูฟังที่เหมาะแก่การเดินทางอันยาวนานบนเครื่องบินครับ
Build and Comfort
งานออกแบบของ Mu7 บอกเลยว่าไร้ที่ติ และตัวจริงของมันสวยกว่าในรูปที่ผมดูบนเวปไซต์มากๆ จะไม่ให้สวยได้ไงเพราะ Mu7 คือหนึ่งในผลงานการออกแบบของ Ross Lovegrove ที่ทำร่วมกับ KEF ผมไปนั่งอ่านดูประวัติเฮียแกมาก็พบว่าเป็นดีไซเนอร์รุ่นใหญ่ชาวเวลส์ที่ร่วมงานกับ KEF มาตั้งแต่ปี 2005 แล้ว ผลงานของเค้าจะเน้นการผสมผสานของ organic form กับ technology เข้าด้วยกัน ทำให้ได้รูปทรงของลำโพงและหูฟังที่อ่อนช้อย แต่ก็ดูแข็งแรงและทันสมัยครับ
วัสดุหลักที่ใช้ทำตัวหูฟังจะเป็นอะลูมิเนียม ตัวที่ผมได้มาเทสเป็นสี Silver Grey ซึ่งมันให้อารมณ์แบบยุคมิลเลเนี่ยมดีครับ ให้ฟีลเหมือนหลุดออกมาจากหนังไซไฟยังไงหยั่งงั้น เทกซ์เจอร์ดูเรียบง่ายแต่มันก็สวยงามมากๆ
ในแง่ของการสวมใส่ก็ถือว่านุ่มสบายด้วยฟองน้ำหูฟังแบบเมมโมรี่โฟมที่จะปรับตัวให้เข้ากับศีษะเราได้เป็นอย่างดี วัสดุหนังที่ใช้ก็ให้สัมผัสที่ดีเช่นกัน ตามสเปคบอกว่าเป็น Breathable leatherette เท่าที่ลองใช้ก็ใส่สบายจริง ไม่ค่อยร้อนหู น้ำหนักของหูฟังเหมาะสม ในแง่ของการใช้งานไม่มีจุดที่ผมติดใจเลยครับ
Features
- Smart Active Noise Cancelling
Mu7 ไม่ได้มีแค่โหมด Active Noise Cancelling ปกติให้ใช้เพียงอย่างเดียว แต่ยังมีโหมดที่เรียกว่า Smart Active Noise Cancelling ให้ใช้ด้วย ถามว่าแล้วสองโหมดนี้มันต่างกันยังไง คำตอบก็คือในโหมด ANC ปกติมันจะตัดเสียงรบกวนแบบหมดจด ไม่สนทั้งนั้นว่าสภาพแวดล้อมรอบๆตัวคุณจะเป็นอย่างไร อะไรที่เป็น Noise เข้ามาโหมดนี้ตัดเรียบ
ส่วนระบบ Smart ANC จะพิจารณาจากเสียงรอบๆตัวคุณด้วยแล้วค่อยดูว่าจะตัดเสียงรบกวนมากน้อยขนาดไหน ถ้าเราอยู่ในสภาพแวดล้อมเดียว อย่างเช่นนั่งฟังเพลงในห้องไม่ได้เดินไปไหนมาไหน ทั้งสองโหมดนี้แทบไม่มีความแตกต่างครับ จะเลือกใช้โหมดไหนก็ได้
น่าเสียดายว่า Mu7 ไม่มีโหมด Pass-Through มาให้ใช้งานด้วย เพราะเป็นฟังค์ชั่นที่หูฟัง Noise Cancelling ระดับไฮเอนด์หรือไม่ไฮเอนด์ก็ตามมีมาให้หมดแล้ว ถ้าเทียบกับค่าตัวแล้วเป็นอีกหนึ่งจุดที่ต้องหักคะแนนครับ
อีกจุดนึงที่ต้องพูดถึงก็คือคาแรคเตอร์เสียงจะมีความแตกต่างถ้าคุณอยู่ในโหมด Bypass กับอยู่ในโหมด ANC เหมือนกับว่า KEF ตั้งใจให้เราใช้ ANC โหมดเป็นหลักเพราะเสียงที่ได้จะมีความแน่นฟังสนุกกว่าเยอะ ถ้าอยู่ในโหมด Bypass เสียงจะบางลงอย่างชัดเจน ส่วนคาแรคเตอร์เสียงจากโหมด ANC ทั้งสองไม่ค่อยแตกต่างกันครับ
- Bluetooth
เวอร์ชั่นบลูทูธที่ใช้งานกันจะเป็นเวอร์ชั่น 5.1 รองรับ codec พื้นฐานอย่าง SBC และ AAC แน่นอน ส่วน codec คุณภาพสูงก็จะมี aptX และ aptX HD ให้ใช้ด้วย ซึ่งถ้าอุปกรณ์ของคุณรองรับ aptX HD ก็จะเป็นการดีอย่างยิ่งเพราะจะดึงประสิทธิภาพของ Mu7 มาใช้งานได้อย่างเต็มที่ครับ รายละเอียดเสียงที่ได้ดีกว่า codec พื้นฐานแน่นอน
- Intuitive Touch Controls
ตัวหูฟังเค้าไม่ได้ออกแบบมาเท่ๆอย่างเดียวเท่านั้น การที่บอดี้ของหูฟังมีส่วนเว้าลงไปนั้นทำให้การใช้งานระบบสัมผัสทำได้ง่ายมากๆ ส่วนตัวผมชอบระบบ Touch Control ของ Mu7 เค้านะ มันสะดวกและไม่ซับซ้อน ลักษณะในการแตะหรือทิศทางในการกวาดนิ้วไปที่ตัวหูฟังด้านขวาเป็น common sense ที่คนส่วนใหญ่เข้าใจได้ทันที
ยกตัวอย่างเช่นจะเพิ่มระดับเสียงก็รูดนิ้วขึ้น ลดระดับเสียงก็รูดนิ้วลง จะข้ามเพลงถัดไปก็รูดไปด้านหน้า จะหยุดเพลงก็แค่แตะหนึ่งที แตะอีกทีก็เล่นเพลงต่อ ฯลฯ เห็นมั้ยครับว่ามันจำง่ายจริงๆ ความไวของระบบสัมผัสก็อยู่ในระดับที่โอเคนะ อาจจะมีดีเลย์บ้างเล็กน้อยแต่ก็รับได้ครับ
- Battery
ผมไม่ได้เทสแบตเตอรี่แบบเต็มที่จนหมด แต่ตามสเปคแล้วก็บอกว่าใช้งานได้ถึง 40 ชั่วโมงเลยทีเดียวแม้ว่าจะอยู่ในโหมด ANC ตลอดเวลาก็ตาม ก็จัดว่าแบตอึดเอาเรื่องครับ แถมยังมี Fast Charge ให้อีก สบายล่ะงานนี้
อีกจุดที่ผมประหลาดใจเล็กๆก็คือ KEF ไม่ได้มีแอพพลิเคชั่นเฉพาะอะไรมาให้ใช้งานร่วมกับตัวหูฟังเลย ไม่เหมือนกับค่ายอื่นๆที่มีแอพให้ปรับแต่งหรือเปิดปิดฟีเจอร์ต่างๆได้มากมาย ถ้าดูเป็นข้อเสียก็อาจจะมองได้ว่าให้ลูกเล่นเสริมมาน้อยไปหน่อย แต่ถ้ามองในแง่ดี Mu7 ก็เป็นหูฟังไร้สายที่ใช้งานง่ายจริงไม่ติงนัง การควบคุมทั้งหมดอยู่ที่ตัวหูฟังหมดแล้วไม่ต้องพึ่งแอพมาควบคุมเพิ่มครับ
Sound Quality
การเทสเรื่องเสียงของ Mu7 ผมจะอยู่ในโหมด ANC เป็นหลักนะครับ เพราะว่าการใช้โหมด Bypass ให้นำ้เสียงที่ผมไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ ออกแนวบางๆโหวงๆ ความแน่นของเบสหายไป แต่พอกลับมาในโหมด ANC ซาวด์จะอิ่มฟังเข้าที่เข้าทางกว่า เหมือนกับว่า KEF จะออกแบบมาให้เราใช้งานในโหมด ANC เป็นหลักยังไงหยั่งงั้น
Sound Stage
การแสดงผลของเวทีเสียงของ Mu7 จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดีครับ โดยเฉพาะความกว้างของเวทีทำได้ดีเลย สเตอริโออิมเมจชัดเจน ส่วนมิติด้านลึกอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง การโชว์รายละเอียดแต่ละเลเยอร์ไม่ได้แยกขาดออกจากกันมากนัก คืออยู่ในเกณฑ์มาตราฐานของหูฟัง Wireless ส่วนใหญ่ มันมีส่วนที่ทำให้รู้สึกว่ามิติดูแบนไปบ้าง แต่โดยรวมถือว่าสอบผ่านครับ
Bass
เบสที่ได้จากไดรเวอร์ไดนามิคขนาด 40mm. อยู่ในเกณฑ์ดีเลยทีเดียว ปริมาณไม่มากไม่น้อยเกินอยู่ในระดับกลางๆที่สามารถอุ้มซาวด์ทั้งหมดของหูฟังได้ดีและไม่ล้นเกินจนเบียดคนอื่นไปหมด การจัดวางตำแหน่งของเบสและการเก็บรายละเอียดทำได้แจ่มครับ น้ำหนักและแรงปะทะแจ๋วครอบคลุมการฟังเพลงได้ทุกสไตล์ ไม่ว่าคุณจะเป็นสายตึ๊ดที่ชอบเบสเยอะหรือจะเป็นสายนุ่มนวลที่ชอบความเรียบร้อย เบสของ Mu7 สามารถตอบสนองได้ทั้งสองแบบครับ
Mid
เวลาฟัง Mu7 จะให้ความรู้สึกเหมือนโดน EQ ที่บูสย่านเสียงกลางแถว 2K เอาไว้หน่อยๆ คือมันทำให้เสียงกลางฟังชัดเจนดีแต่ในมุมนึงก็จะรู้สึกว่าความอิ่มของเสียงหรือบอดี้มันน้อยไปหน่อย รวมถึงปลายๆ Mid-High ที่ต้องการประกายหรือความสว่างอีกหน่อยก็ยังขาดไปนิด แต่ถ้าให้พูดถึงความชัดเจนหรือการแสดงรายละเอียดต่างไม่มีปัญหาครับ เก็บได้ครบถ้วน สำหรับหูฟัง Wireless ระดับท็อปทุกวันนี้เรื่องความคมชัดไม่ต้องพูดกันแล้วครับ ดีทุกค่าย
High
เสียงแหลมอยู่ในเกณฑ์ดีเช่นกันครับ สว่าง คมชัดเจน ค่อนข้างใสเลยทีเดียว เป็นเสียงแหลมที่ให้รายละเอียดได้ครบ แต่ยังขาดความพริ้วหรือความสวยงามอีกนิด อธิบายเป็นคำพูดยากซักหน่อย แต่ถ้าใครเคยผ่านระบบลำโพงดีๆหรือหูฟังฟูลไซส์ที่คุณภาพดีหน่อยน่าจะนึกถึงคาแรคเตอร์ของเสียงแหลมที่ว่าออกครับ มันเป็นปลายเสียงที่ไม่ใช่จะจูนกันได้ง่ายๆ แต่ถ้าพูดในแง่ของมาตราฐานหูฟัง Wireless ล่ะก็ Mu7 ก็ถือว่าสอบผ่านครับ
Conclusion
ตามความคิดและรสนิยมส่วนตัวของผม คุณภาพเสียงที่ได้จาก KEF Mu7 อยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่ก็ไม่ได้ดีจนน่าใจหายหรือฉีกทิ้งคู่แข่งไปไกล ว่ากันตามตรงด้วยตำแหน่งและชื่อชั้นของ KEF ถ้าต้องไปแข่งกับมวยพิกัดเดียวกันจากค่ายอย่าง B&W หรือ FOCAL ก็อาจจะต้องออกแรงกันหน่อยครับ เพราะ Wireless ของคู่นั้นก็ไม่ธรรมดาเลยทั้งคุณภาพเสียงและฟังค์ชั่นที่ให้มา แต่ถ้าไม่นับสองค่ายนี้ในระดับไฮเอนด์แล้ว Mu7 ก็ไม่ได้เป็นรองใครแต่อย่างใดครับ
ส่วนในเรื่องของความสวยงาม ความสบายในการสวมใส่ พวกนี้ Mu7 ชนะเลิศครับ ก็เล่นเอาดีไซนเนอร์มือเก๋ามาร่วมออกแบบ ผลลัพธ์ที่ได้ก็ออกมาหยดย้อยอย่างที่เห็น
งานนี้คงต้องแนะนำให้มาลองพิสูจน์คาแรคเตอร์เสียงกันก่อนว่าใช้ทางของคุณหรือเปล่า เพราะว่าส่วนอื่นๆไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ถ้าฟังแล้วถูกอกถูกใจก็รับรองว่าเสียตังค์แน่ๆ เพราะเวลาใส่ Mu7 อยู่แล้วมันเสริมความหล่อความสวยได้จริงๆครับ ฮ่าๆ