[รีวิว] Questyle M15 DAC-Amp หางหนูคุณภาพ Hi-Res แถมมีบาลานซ์ 4.4mm
Questyle M15 เป็น Dongle DAC-Amp รุ่นล่าสุดที่ถูกวางตำแหน่งให้เป็นเรือธงถัดจากรุ่น M12 ขึ้นมาครับ และหลังจากที่ได้ทดลองฟังก็ต้องบอกว่าจาก M12 ที่ว่าดีแล้ว M15 สามารถยกระดับคุณภาพเสียงได้น่าประทับขึ้นไปอีกสเตป สมกับที่เป็นตัวท็อปจริงๆ
PROS จุดเด่น | CONS จุดด้อย |
คุณภาพเสียงระดับ Hi-Res ที่สะอาด เป็นธรรมชาติ ไม่คัลเลอร์สัญญาณต้นฉบับ | ไม่มีปุ่มปรับโวลลุ่มมาให้ด้วย |
ให้เอาท์พุตทั้งแบบ Single-Ended และ Balanced | ไม่แถมสาย Lightning to USB-C |
รองรับทั้งหูฟังที่มีความไวสูง ไปจนถึงหูฟังที่บริโภคพลังงานจัดๆ | ไม่มีเคสป้องกันรอยขีดข่วน |
ตอบสนองไฟล์รายละเอียดสูงทั้ง PCM, DSD รวมถึง MQA |
Design & Build Quality
รูปร่างหน้าตาของ M15 ดูเรียบๆแต่ก็หล่อเหลาเอาเรื่องครับ เพราะยังคงรูปร่างสไตล์สี่เหลี่ยมที่ใช้โครงสร้างหลักเป็นอะลูมิเนียมขึ้นรูปแบบ CNC สีดำด้าน แต่ที่น่าสนใจก็คือด้านหน้าเป็นกระจกใสโชว์เครื่องเคราภายในหมดจด เรียกว่าวงจรเป็นแบบไหนไม่มีการหมกเม็ดครับ
ขนาดของตัวเครื่องจะใหญ่ขึ้นกว่า M12 ครับ แต่ถือว่าไม่ได้ใหญ่เกินไปจนพกพาลำบากครับ ในหมู่ Dongle DAC ด้วยกันแล้วถือว่ากำลังดี
ดีไซน์แบบนี้ผมไม่เถียงเรื่องความสวยงามแม้แต่น้อย เป็นห่วงอย่างเดียวก็คือเรื่องริ้วรอยนี่แหละ คิดว่าใครหาซื้อไปใช้อาจต้องลงทุนติดแผ่นกันรอยที่ด้านกระจกซะหน่อย อันที่จริงทาง Questyle น่าจะแถมเคสมาให้เลยก็จะแจ่มมาก ถึงแม้กระจกของ M15 จะกันรอยได้ในระดับนึงแต่ก็อดเสียวไม่ได้ถ้าถูกกระแทกหรือเผลอทำตกจริงมั้ยครับ
บริเวณรอบตัวเครื่องก็จะเป็นตำแหน่งของพอร์ต USB-C, เอาท์พุตหูฟังทั้งแบบ 3.5mm. และ 4.4mm. รวมถึงสวิทช์สำหรับตั้งค่า Gain ด้วยครับ
ส่วนไฟ LED ที่แสดงสถานะการทำงานของค่า Gain และ Data ไฟล์เพลงที่เล่นจะอยู่บนแผ่น PCB ด้านในเลยครับ
Features
- I/O & Controls
จุดแรกที่ทำให้ M15 ดูดีขึ้นจาก M12 ไปอีกขั้นก็คือเค้ามีเอาท์พุตแบบ 4.4mm. Balanced เพิ่มมาให้เลย อย่างที่ผมเคยบอกในรีวิวของ M12 ไปแล้วว่าถ้ามีเอาท์พุตบาลานซ์มาให้นี่จะเพอร์เฟคมากๆ ซึ่ง M15 ก็ทำให้เราสมหวังเป็นที่เรียบร้อย
แต่มีจุดนึงที่ผมคาดหวังให้เพิ่มเข้ามาแต่ Questyle ก็ยังไม่ทำนั่นก็คือ Volume Control ครับ ทำให้การควบคุมระดับเสียงยังต้องพึ่งอุปกรณ์ต้นทาง สิ่งเดียวที่เราสามารถควบคุมจากตัวเครื่องได้จึงมีแค่เพียงค่า Gain เท่านั้นครับ
เมื่อสวิทช์อยู่ในโหมด Low Gain ไฟ LED จะเป็นสีเขียว ถ้าอยู่ในโหมด High Gain ก็จะเป็นสีแดงครับ
อีกเรื่องที่ต้องบ่นก็คือยังไม่มีสาย Lightning to USB-C มาให้ ในกล่องจะมีเพียงแค่สาย USB-C to USB-C และ USB-A to USB-C เท่านั้น ทำให้ชาว iOS ยังคงต้องควักกระเป๋าเพิ่มเช่นเดิม
- DAC System
ชิป DAC ภายใน M15 ได้รับการอัพเกรดให้อยู่ในคลาสเรือธงเช่นเดียวกันครับ นั่นคือ ESS ES9281AC สามารถตอบสนองรายละเอียดได้สูงถึง PCM384kHz / 32bit และ DSD256
M15 ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การฟังเพลงแบบ Streaming ในปัจจุบันครับ สามารถรองรับแพลทฟอร์มหลักๆอย่าง Spotify, Apple Music และ Tidal ได้ร้อยเปอร์เซ็น
โดยเฉพาะการทำงานร่วมกับไฟล์ MQA จะถอดรหัสได้อย่างสมบูรณ์แบบเลยทีเดียวและจากการทดลองฟังจาก Tidal แล้วขอบอกว่าประทับใจมากครับ ส่วนไฟล์ codec อื่นอย่าง FLAC และ ALAC ก็รองรับด้วยเช่นกันครับ
โดยเราสามารถสังเกตว่า M15 กำลังทำงานกับไฟล์แบบไหนอยู่ได้จากไฟ LED ที่ตัวเครื่องครับ
Low sample rate (44.1/48 kHz PCM or less) : ไฟ LED จะเป็นสีเขียว
High sample rate (88.2 – 384 kHz PCM or DSD 64/256) : ไฟ LED จะเป็นสีแดง
MQA : ไฟ LED จะเป็นสีม่วง
- Amplifier
ภาคขยายของ M15 ก็ทำงานได้น่าประทับใจเช่นกันครับ ให้กำลังขับที่สูงเกินขนาดตัวซึ่งก็เป็นผลมาจากวงจรแอมป์แบบ CMA SiP Module หรือ Current Mode Amplification จำนวน 2 ตัวด้วยกันและถ้ารวมกับชิปแอมป์ทั้งหมดแล้ว M15 จะมี Amp Engine ถึง 4 ตัวด้วยกันเลยล่ะครับ
ตัว M15 เองยังมีวงจรที่ชื่อ TOREX Management Unit อยู่อีกซึ่งจะส่งผลให้ M15 ไม่บริโภคพลังงานมากเกินไป ถ้าใครลองใช้จะสังเกตุเห็นได้ว่าความร้อนสะสมบนตัวเครื่องนั้นน้อยมากๆ จุดนี้ถือว่าน่าประทับใจครับ
อย่างที่บอกว่าเราสามารถตั้ง Gain ได้อีก 2 ระดับคือ Low กับ High สามารถรองรับการขับหูฟังได้ทุกขนาด ไม่ว่าจะเป็น IEM ขนาดเล็กที่ไวจัดๆหรือ Full-Size Planar ตัวบิ๊กเบิ้มก็เอาอยู่
อีกจุดที่ต้องชมก็คือการปรับ Gain ทั้งสองระดับจะเปลี่ยนแปลงแค่ความแรงของเอาท์พุตเท่านั้น ไม่มีการคัลเลอร์สัญญาณแต่อย่างใดครับ
ส่วนค่า distortion ก็ต่ำเพียง 0.0003% ทำให้ M15 มีพื้นหลังที่สงัดจริงๆ ต้องยอมรับว่าสัญญาณที่ได้นั้นสะอาดสดใสมากครับ
Sound Quality
เนื่องจากผมได้ลองเทส M12 มาแล้วก่อนหน้านี้และก็ยอมรับว่าเสียงของ M12 ทำได้น่าประทับพอสมควรเลยทีเดียว แต่เมื่อได้ลอง M15 แล้วก็ต้องอนุญาตมอบเยี่ยมให้กับ Questyle จริงๆ เพราะสามารถอัพเกรดคุณภาพเสียงของ Dongle DAC ให้ดีขึ้นไปได้อีกขั้นครับ
ผมขออธิบายคาแรคเตอร์เสียงของ M15 เป็นแบบภาพรวมละกันครับ อย่างแรกที่ต้องบอกเลยก็คือ M15 เป็น DAC/Amp ที่มีน้ำเสียงเป็นธรรมชาติมาก อธิบายง่ายๆก็คือเค้าจะไม่ไปเปลี่ยนแปลงหรือคัลเลอร์สัญญาณต้นฉบับให้มีโทนเสียงที่เปลี่ยนไปจากเดิม แต่จะ shape ความถี่ต่างๆให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เพิ่มความสะอาดของสัญญาณให้ดีถึงขีดสุด
ถ้าคุณได้ลองฟังเพลงผ่านเอาท์พุตของคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนโดยตรงและสลับมาฟัง M15 จะยิ่งรู้สึกเลยว่า โทนเสียงไม่ได้เปลี่ยนไปมาก ไม่ได้คมหรือสว่างขึ้นอย่างจงใจ แต่มันจะเหมือนกับรูปภาพเดิมที่เบลอๆไม่ค่อยสดใส พอเราต่อผ่าน M15 รูปภาพนั้นจะคมชัดขึ้นทำให้เราสังเกตุรายละเอียดต่างๆได้ง่าย แต่สีสันของรูปภาพไม่ได้เข้มขึ้นหรือมีเฉดสีที่ฉูดฉาดแบบเว่อร์ๆครับ
M15 สามารถบาลานซ์ความถี่ต่างๆได้อย่างเหมาะสม ทั้งย่านสูง กลาง ต่ำ แต่ละอันทำหน้าที่ของตัวเองได้แบบพอดีๆ ไม่มากไม่น้อยไป ความชัดเจนถือว่าเต็ม 10 โดยเฉพาะย่านความถี่ต่ำและกลาง ส่วนเสียงแหลมก็สะอาดและสว่าง ปราศจากอาการแหลมจัดๆจนบาดหูให้ได้ยินแม้แต่น้อยครับ
ต้องเรียกว่า M15 เป็น DAC/Amp ดิจิตอลที่ไม่พยายามทำตัวเองให้มีสุ้มเสียงเป็นอะนาลอค ยังคงความแม่นยำชัดเจนสไตล์ Hi-Res Audio ไว้เป๊ะๆ แต่มีคาแรคเตอร์ที่เป็นธรรมชาติ ไม่คมจัดจนน่ารำคาญไปซะทุกอย่างครับ
Conclusion
พูดได้คำเดียวเลยว่าน่าประทับใจมากๆสำหรับ Questyle M15 ถ้าจะให้เปรียบมวยว่าพอจะมี Dongle DAC รุ่นไหนมาชนเค้าได้บ้าง ณ เวลานี้ก็คงจะมีแค่ Cayin RU6 นี่ล่ะครับที่พอฟัดพอเหวี่ยง เป็นรุ่นเรือธงที่คุณภาพอยู่ในระดับเดียวกันแต่คาแรคเตอร์ต่างกันค่อนข้างชัดเจน
M15 เหมาะมากๆสำหรับผู้ที่มองหา DAC/Amp พกพาคุณภาพสูงที่รองรับการใช้งานครบๆ ทั้งไฟล์ที่รองรับ, เอาท์พุตสองรูปแบบ, ปรับตั้ง Gain ได้, ใช้งานได้กับทุกแพลทฟอร์ม ที่สำคัญก็คือคุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยมและมีความเป็นธรรมชาติสูง
บอกเลยว่า DAC/Amp ตัวเล็กๆแค่นี้แต่คุณภาพเสียงชนกับรุ่น Desktop ได้มีไม่เยอะแน่นอนครับ